กรุงเทพฯ 28 ก.พ.- ธปท.เผยเศรษฐกิจเดือน ม.ค.66 ดีขึ้นต่อเนื่อง ตามอุปสงค์ในประเทศ เงินเฟ้อลดลง เงินบาทแข็งค่าขึ้น นักลงทุนมองท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวจากจีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาด คาดเศรษฐกิจ ก.พ. ยังฟื้นตัวต่อเนื่อง
น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายองค์กรสัมพันธ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และโฆษก ธปท. แถลงภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือน ม.ค.2566 ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนปรับเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการของภาครัฐ ขณะที่มูลค่าการส่งออกไม่รวมทองคำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมและเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน สำหรับกิจกรรมในภาคบริการปรับเพิ่มขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวไทย ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอลงบ้าง ตามจำนวนนักท่องเที่ยวอินเดียที่ลดลงจากผลของมาตรการตรวจ RT-PCR ก่อนกลับจากประเทศไทย ที่บังคับใช้ชั่วคราวในเดือน ม.ค. ถึงกลางเดือน ก.พ.2566 อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นชัดเจนหลังทางการจีนยกเลิกการกักตัวสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.2566 นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวสัญชาติอื่น อาทิ มาเลเซีย และยุโรปเพิ่มขึ้นเช่นกัน ด้านการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางขยายตัวจากทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง ทั้งในหมวดพลังงานและหมวดอาหารสดที่ลดลงตามราคาเนื้อสัตว์ส่วนหนึ่งจากผลของฐานสูงในปีก่อน ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานลดลงตามราคาอาหารสำเร็จรูปเป็นสำคัญ แต่ยังอยู่ในระดับสูง ด้านตลาดแรงงานโดยรวมทยอยฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ สะท้อนจากจำนวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่เพิ่มขึ้นเข้าใกล้ช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลจากดุลการค้าที่ขาดดุลตามการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ดุลบริการ รายได้ และเงินโอนเกินดุลเพิ่มขึ้นตามดุลภาคการท่องเที่ยวที่ปรับดีขึ้น ด้านอัตราแลกเปลี่ยน เงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเฉลี่ยแข็งค่าขึ้นตามมุมมองที่ดีของนักลงทุนต่อการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทย จากการเปิดประเทศของจีนที่เร็วกว่าที่ตลาดคาด
สำหรับเศรษฐกิจไทยเดือน ก.พ.2566 มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยระยะต่อไปยังต้องติดตามปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่แนวโน้มเศรษฐกิจโลก ผลของการเปิดประเทศและมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจของจีน และการส่งผ่านต้นทุนของผู้ประกอบการที่อาจเพิ่มขึ้น
ส่วนกรณีที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/65 ขยายตัวได้เพียง 1.4% ซึ่งออกมาต่ำกว่าที่คาดนั้น ธปท.จะนำมาใช้เป็นหนึ่งในปัจจัยเพื่อพิจารณาร่วมกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่นๆ ในการปรับประมาณการณ์ GDP ของปี 2566 ในเดือน มี.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย