บริการดูแลสัตว์เลี้ยงโตสวนกระแสเลี้ยงเสมือนคนในครอบครัว

นนทบุรี 6 ก.พ.-ปี 2565 นักธุรกิจชาวไทยแห่ลงทุน ‘ธุรกิจบริการดูแลสัตว์เลี้ยง’ เพิ่มขึ้นกว่า 91% รายได้รวมและผลกำไรธุรกิจเติบโตต่อเนื่องติดต่อกัน 3 ปี สอดคล้องปริมาณขายอาหารสัตว์และมูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงของไทยที่เพิ่มสูงขึ้น ผลพลอยได้มาจากวิถีชีวิตของคนเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ธุรกิจฯ มีผลตอบรับที่ดี ดึงดูดนักลงทุนเข้าตลาดเพิ่มขึ้น

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันสังคมไทยเข้าสู่ภาวะการแข่งขันทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการประกอบสัมมาอาชีพ ส่งผลให้การดำเนินชีวิตของคนในสังคมเปลี่ยนแปลงไป การไม่มีครอบครัว ครองตัวเป็นโสด สังคมผู้สูงอายุ และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้มีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น การเลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อนจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญและมีแนวโน้มสูงขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจบริการดูแลสัตว์เลี้ยงมีการเติบโตต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา


ทั้งนี้ หากดูข้อมูลย้อนหลังในปี 2563 – 2565 ธุรกิจบริการดูแลสัตว์เลี้ยงมีอัตราการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้น ปี2563 จดทะเบียนจัดตั้ง 63 ราย ทุนจดทะเบียน 101.90 ล้านบาท ปี 2564 จัดตั้ง 68 ราย (เพิ่มขึ้น 5 ราย หรือร้อยละ8) ทุน 119.13 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 17.23 ล้านบาท หรือร้อยละ 17) ปี 2565 จัดตั้ง 130 ราย (เพิ่มขึ้น 62 ราย หรือร้อยละ 91) ทุน 210.35 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 91.22 ล้านบาท หรือร้อยละ 77) ขณะที่ ผลประกอบการธุรกิจ โดยรายได้รวมของธุรกิจ ปี 2562 อยู่ที่ 2,933.51 ล้านบาท กำไร 57.63 ล้านบาท ปี 2563 รายได้รวม 3,512.44 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น578.93 ล้านบาท หรือร้อยละ 20) กำไร 46.31 ล้านบาท (ลดลง 11.32 ล้านบาท หรือร้อยละ 20) และ ปี 2564 รายได้รวม 4,267.72 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 755.28 ล้านบาท หรือร้อยละ 22) กำไร 127.76 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 81.45 ล้านบาทหรือร้อยละ 176)

ทั้งนี้ ปัจจุบัน ธุรกิจบริการดูแลสัตว์เลี้ยงที่ดำเนินกิจการอยู่ในประเทศไทย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 มีจำนวน 562 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.06 ของธุรกิจทั้งหมดที่ดำเนินการอยู่ และมีมูลค่าทุน 1,359.60 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.006 ของธุรกิจทั้งหมดที่ดำเนินการอยู่ในประเทศไทย ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 243 ราย (ร้อยละ43.24) ทุนจดทะเบียน 679.88 ล้านบาท (ร้อยละ 50.01) รองลงมา คือ ภาคกลาง 130 ราย (ร้อยละ 23.13) ทุน228.36 ล้านบาท (ร้อยละ 16.80) ภาคตะวันออก 49 ราย (ร้อยละ 8.72) ทุน 80.08 ล้านบาท (ร้อยละ 5.89) ภาคเหนือ 46 ราย (ร้อยละ 8.18) ทุน 68.90 ล้านบาท (ร้อยละ 5.07) ภาคใต้ 45 ราย (ร้อยละ 8.01) ทุน 236.60 ล้านบาท (ร้อยละ 17.40) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 30 ราย (ร้อยละ 5.34) ทุน 39.20 ล้านบาท (ร้อยละ 2.88) และ ภาคตะวันตก 19 ราย (ร้อยละ 3.38) ทุน 26.58 ล้านบาท (ร้อยละ 1.95) โดยธุรกิจบริการดูแลสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของคนไทย มีมูลค่าการลงทุน 1,334.93 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 98.19 ของการลงทุนในธุรกิจทั้งหมด ขณะที่การลงทุนจากต่างชาติสูงสุด คือ จีน มูลค่า 5.15 ล้านบาท (ร้อยละ 0.38) รองลงมา คือ ญี่ปุ่น มูลค่า 5.02 ล้านบาท(ร้อยละ 0.37) อังกฤษ มูลค่า 3.88 ล้านบาท (ร้อยละ 0.29) และอื่นๆ มูลค่า 10.62 ล้านบาท (ร้อยละ 0.77)


นอกจากนี้ การลงทุนของผู้ประกอบการในธุรกิจบริการดูแลสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับปริมาณการขายอาหารสัตว์และมูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงของไทยที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน โดยปริมาณการขายอาหารสัตว์ตั้งแต่ปี 2560 – 2564 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปี 2564 เพิ่มขึ้นร้อยละ 13% จากปีที่ผ่านมา (2563) ขณะที่ปี 2565 คาดว่าจะมีปริมาณการขายอาหารสัตว์ในตลาดราว 929 ล้านกิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ประมาณร้อยละ 8 โดยจำนวนอาหารสัตว์ในตลาดสอดคล้องกับจำนวนการเลี้ยงสัตว์ที่เพิ่มมากขึ้นของสังคมไทย ลักษณะของอาหารสัตว์มีการแบ่งประเภทมากขึ้น เช่น โรคเฉพาะของสัตว์เลี้ยง การบำรุงเฉพาะส่วน และตามอายุของสัตว์เลี้ยง ซึ่งสนับสนุนธุรกิจบริการดูแลสัตว์ให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าและการบริการที่หลากหลาย หากพิจารณาแนวโน้มมูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงพบว่า ปี 2564 มีมูลค่าสูงถึง 44,592 ล้านบาท โดยคาดการณ์ว่าในปี 2569 ตลาดสัตว์เลี้ยงจะมีมูลค่าสูงถึง 66,748 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละร้อยละ 8.4 ซึ่งเป็นปัจจัยบวกให้กับธุรกิจบริการดูแลสัตว์เลี้ยงด้วยเช่นกัน 

อย่างไรก็ตาม กรมฯขอแนะนำผู้ประกอบการธุรกิจบริการดูแลสัตว์เลี้ยงควรมีการปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพิ่มช่องทางการให้บริการโดยนำเทคโนโลยีมาช่วยในการดำเนินธุรกิจและพัฒนารูปแบบการให้บริการใหม่ๆ ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า เช่น การให้บริการโดยคำนึงถึงความสะอาดมีมาตรฐาน ใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถติดตามสัตว์เลี้ยงได้ 24 ชั่วโมง มีบริการที่ครบวงจร และให้ความสำคัญกับการรักษาโรคของสัตว์เลี้ยงทั้งโรคทั่วไปและเฉพาะทาง รวมทั้ง ธุรกิจต้องคำนึงถึงการบริหารต้นทุน และใส่ใจการบริการที่เป็นเลิศเพื่อดึงลูกค้าให้กลับมาใช้บริการซ้ำ ส่งผลให้ผู้ใช้บริการเกิดความประทับใจ และธุรกิจสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

กทม. 13 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 6 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 12-13 กรกฎาคม 2568) ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะภาคเหนือบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้ ในวันที่ 13 กรกฎาคม […]

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]