กรุงเทพฯ 1 ก.พ-คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คงประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2566 ขยายตัวในกรอบ 3.0-3.5% ห่วงต้นทุนการผลิตที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยว่า การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิดเริ่มส่งผลให้เศรษฐกิจจีนมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน โดยดัชนีทางเศรษฐกิจของจีน ทั้งในฝั่งภาคการผลิตและภาคบริการกลับมาขยายตัวได้ในเดือนมกราคม สอดคล้องกับการประเมินล่าสุดของ IMF ที่คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะสามารถกลับมาขยายตัวได้ร้อยละ 5.2 ในปี 2566 ขณะที่เศรษฐกิจโลกปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตร้อยละ 2.9 สูงกว่าประมาณการเดิมที่ร้อยละ 2.7 ทั้งนี้ คาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวของไทย แต่ค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็วและมากกว่าสกุลภูมิภาค โดยตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่าร้อยละ 15 และตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมปี 2566 เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาร้อยละ 5 เป็นปัจจัยกดดันความสามารถในการแข่งขันของสินค้าส่งออกของไทยในภาวะที่ความต้องการสินค้าชะลอตัว
เศรษฐกิจไทยมีแรงสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวแต่มีความเสี่ยงจากภาคการส่งออก โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้อาจมากถึง 26-26 ล้านคน จากเดิมที่ประเมินไว้ 22.5 ล้านคน จากนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรป และสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีกว่าคาด ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนจะปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนในไตรมาสที่ 2 อย่างไรตาม การส่งออกมีแนวโน้มชะลอตัวในช่วงต้นปี และต้องติดตามปัจจัยที่มีผลกระทบอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นการแข็งค่าของค่าเงินบาท การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งแม้ว่าจีนจะฟื้นตัวได้เร็วแต่อาจไม่เพียงพอที่จะทดแทนความต้องการสินค้าจากประเทศหลักอื่นๆ กกร.จึงคงกรอบประมาณการเศรษฐกิจปี 2566 เท่าเดือนมกราคม คือ GDP โตในกรอบ 3.0 – 3.5 ส่งออก 1.0 – 2.0 และเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.7 – 3.2
นอกจากนี้ ที่ประชุมแสดงความห่วงใยในเรื่องต้นทุนการผลิตที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า รวมถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องท่ามกลางค่าเงินบาทที่แข็งค่า อาจส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถการแข่งขันของผู้ประกอบการ รวมถึงการส่งผ่านต้นทุนไปยังผู้บริโภคผ่านราคาสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้นนอกจากนี้ปัญหาขาดแคลนแรงงานในภาคบริการ ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ภาครัฐต้องมีมาตรการสนับสนุนเพื่อเตรียมความพร้อมด้านแรงงานให้เพียงพอรองรับการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวหลังจากจีนเปิดประเทศ.-สำนักข่าวไทย