กรุงเทพฯ 31 ม.ค. – ธปท.เผยเศรษฐกิจ ธ.ค. 2565 ฟื้นตัวต่อเนื่องจากท่องเที่ยวฟื้นตัว เงินเฟ้อยังสูงขึ้น คาดม.ค.2566 ยังฟื้นตัวต่อเนื่องจากจีนเปิดประเทศ แต่ต้องจับตาเศรษฐกิจโลกชะลอตัว กระทบส่งออก
นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายองค์กรสัมพันธ์ และ โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่าเดือนธันวาคม 2565 เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน แม้ได้รับแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง โดยมีแรงส่งจากภาคบริการที่ขยายตัวต่อเนื่องตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นสำคัญ โดยเฉพาะมาเลเซียและรัสเซียซึ่งสนับสนุนให้เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนปรับดีขึ้นจากการใช้จ่ายหมวดบริการที่เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ
ส่วนมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังหดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า สินค้าส่งออกที่ปรับดีขึ้นในเดือนนี้ ได้แก่ หมวดสินค้าเกษตรอาทิ มันสำปะหลัง และทุเรียน, หมวดยานยนต์ เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนการผลิตทยอยคลี่คลาย และหมวดอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับดีขึ้นบ้างตามรอบการส่งมอบสินค้าของผู้ผลิต ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรม ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนในหลายหมวด โดยเฉพาะหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า และหมวดเคมีภัณฑ์ที่ลดลงตามอุปสงค์โลกที่ชะลอลง ขณะที่หมวดยานยนต์ปรับลดลงหลังจากได้ผลิตไปมากแล้วในเดือนก่อน อย่างไรก็ดี การผลิตบางหมวดเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน โดยเฉพาะหมวดปิโตรเลียมหลังจากได้ปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นครั้งใหญ่ในช่วงก่อนหน้า เช่นเดียวกับเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ลดลงจากเดือนก่อนในทุกหมวด สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐของรัฐบาลกลางทรงตัว
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนตามอัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารสดและพลังงานขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานใกล้เคียงกับเดือนก่อน ด้านตลาดแรงงานโดยรวมฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุลตามดุลการค้า ประกอบกับดุลบริการ รายได้และเงินโอนเกินดุลเล็กน้อยจากรายรับภาคการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น
ในไตรมาสที่ 4 ปี 2565 เศรษฐกิจไทยขยายตัวจากไตรมาสก่อน จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นแรงส่งสำคัญ ทำให้ภาคบริการและเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนปรับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม มูลค่าการส่งออกสินค้าปรับลดลงตามอุปสงค์ประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัว สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมและเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ลดลง สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐของรัฐบาลกลางขยายตัวจากรายจ่ายประจำเป็นสำคัญ นอกจากนี้ การลงทุนรัฐวิสาหกิจขยายตัวตามการเบิกจ่ายด้านพลังงานและสาธารณูปโภค ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงตามอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงาน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นจากราคาอาหารสำเร็จรูปเป็นสำคัญ ด้านตลาดแรงงานฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุลตามการเกินดุลการค้า ขณะที่ดุลบริการรายได้ และเงินโอนขาดดุลลดลง
สำหรับแนวโน้มเดือน ม.ค.2566 กิจกรรมทารงเศรษฐกิจยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง และในระยะยังต้องติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ที่คาดว่าจะกระทบการส่งออกครึ่งปีแรกจากประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัว ยังต้องติดตามผลของการเปิดประเทศและมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจของจีน รวมถึงการส่งผ่านต้นทุนของผู้ประกอบการที่อาจเพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย