รฟท. โต้ “ประภัสร์” ประเด็นย้ายรถไฟทางไกล 52 ขบวน

กรุงเทพฯ 17 ม.ค. – การรถไฟฯ ยืนยันความพร้อม เปิดให้บริการรถไฟทางไกล 52 ขบวน ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ย้ำยึดถือประโยชน์สูงสุดของประชาชน และประเทศชาติเป็นสำคัญ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ออกเอกสารชี้แจง กรณีที่มีเพจเฟซบุ๊ก ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอคำให้สัมภาษณ์ของนายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับเรื่องการย้ายการให้บริการขบวนรถไฟทางไกล ของการรถไฟฯ มาให้บริการที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2566 เป็นต้นไปนั้น พบว่ามีข้อมูลหลายประเด็นที่มีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง

การรถไฟแห่งประเทศไทย จึงขอชี้แจงในประเด็นต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องดังนี้ การรถไฟฯ ยืนยันว่าการปรับเปลี่ยนต้นทาง-ปลายทางจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) มาให้บริการ ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ได้มีการพิจารณาไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนและรอบคอบ โดยยึดถือในประโยชน์ของประชาชนผู้ใช้บริการควบคู่กับการพัฒนาระบบการขนส่งทางรางของประเทศในระยะยาวเป็นสำคัญ


ทั้งนี้ การปรับขบวนรถให้บริการ ได้ดำเนินการเฉพาะขบวนรถไฟทางไกล สายเหนือ ใต้ ตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็ว จำนวน 52 ขบวนเท่านั้น ประกอบด้วย สายเหนือ จำนวน 14 ขบวน สายตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 18 ขบวน และสายใต้ จำนวน 20 ขบวน ส่วนขบวนรถรถไฟกลุ่มขบวนรถธรรมดา ขบวนรถชานเมือง และขบวนรถนำเที่ยว จำนวน 62 ขบวน ยังคงให้บริการที่สถานีต้นทางและสถานีปลายทางที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ประกอบด้วย สายตะวันออก จำนวน 22 ขบวน สายเหนือ จำนวน 16 ขบวน สายตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 6 ขบวน สายใต้ จำนวน 4 ขบวน และขบวนรถนำเที่ยว จำนวน 14 ขบวน

สถานีหัวลำโพงยังคงเปิดให้บริการแก่พี่น้องประชาชนเป็นปกติ ไม่ได้มีการปิดสถานีหัวลำโพงตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด เพราะในแต่ละวันยังมีขบวนรถไฟให้บริการแก่ผู้โดยสารที่สถานีหัวลำโพงมากถึง 62 ขบวนมากกว่าที่ให้บริการที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ซึ่งมีเพียง 52 ขบวน ที่สำคัญการรถไฟฯ ไม่ได้มีแผนนำพื้นที่สถานีหัวลำโพงไปเปิดให้ภาคเอกชนเข้ามาพัฒนาเป็นอย่างอื่นตามที่มีการกล่าวอ้างด้วย โดยการรถไฟฯ ต้องการให้สถานีหัวลำโพงเป็นสถานีรถไฟที่สำคัญของประเทศทำหน้าที่ให้บริการประชาชน และเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่จะบอกเล่าเรื่องราวการขนส่งทางรางของไทยจากอดีตสู่ปัจจุบันต่อเนื่องไปยังอนาคตต่อไป

สำหรับเหตุผลในการปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง-ปลายทางของขบวนรถไฟทางไกล มาให้บริการ ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์นั้น เป็นการดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของการก่อสร้างสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ที่จะให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งระบบรางของประเทศ โดยเป็นแผนที่มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องหลายสิบปีแล้วตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีการอนุมัติโครงการเมื่อปี 2553 และเริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2556 ที่สำคัญอยู่ในช่วงที่นายประภัสร์ เคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟฯ ด้วย ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นจากการตัดสินใจของการรถไฟฯ ในยุคนี้แต่อย่างใด


ในสมัยที่นายประภัสร์ จงสงวน เป็นผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เมื่อปี 2555 ก็ได้มีการสนับสนุนการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อหรือสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และยังเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการแก้แบบสถานีกลางบางซื่อ แต่เพราะเหตุใดในตอนนี้นายประภัสร์จึงกลับมาคัดค้านไม่ให้เปิดให้บริการรถไฟทางไกลที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งเป็นแผนที่วางไว้เดิมตั้งแต่เริ่มการก่อสร้าง

การรถไฟฯ ขอยืนยันว่า ก่อนที่จะกำหนดให้มีการย้ายมาให้บริการที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ในวันที่ 19 มกราคม 2566 ทางการรถไฟฯ ได้ประชุมหารือเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน ตลอดจนบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของกระทรวงคมนาคม เพื่อกำหนดมาตรการอำนวยความสะดวก โดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนถ่ายการเดินทาง เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ไม่เป็นภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแก่ผู้โดยสารอย่างที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด โดยมีมาตรการอำนวยความสะดวกดูแลผู้โดยสาร ดังนี้

ผู้ใช้บริการรถโดยสายทางไกล กลุ่มขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน และรถเร็ว ที่ซื้อตั๋วโดยสาร ลงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ แต่ประสงค์จะลงสถานีหลักสี่ สถานีบางเขน สามารถใช้ตั๋วโดยสารเดิมขึ้นรถไฟฟ้าสายสีแดงที่สถานีดอนเมืองได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเป็นเวลา 1 ปี

ผู้ใช้บริการรถโดยสารเชิงสังคม สามารถใช้ตั๋วโดยสารรถไฟทางไกล ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดงได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเป็นเวลา 1 ปีเช่นกัน โดยต้องเป็นผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วประเภทตั๋วเดือน ในสถานีหลักสี่ สถานีบางเขน ที่หยุดรถกม.19 ที่หยุดทุ่งสองห้อง และที่หยุดรถกม.11 ที่รถไฟไม่จอดให้บริการ

  • การรถไฟฯ ยังประสานกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) เพื่อจัดรถโดยสารประจำทาง รับ-ส่งผู้โดยสารตามสถานีรถไฟรายทาง ตั้งแต่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-สถานีหัวลำโพง เหมือนนั่งรถไฟปกติโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วย

ดังนั้นการกล่าวอ้างว่าการรถไฟฯ ไม่มีการเตรียมการจนทำให้ประชาชนเดือดร้อน เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายแก่ผู้โดยสาร จึงไม่เป็นความจริง เพราะการรถไฟฯ ได้พิจารณาไตร่ตรองอย่างดีแล้ว โดยคำนึงถึงผลกระทบ และให้ความสำคัญเรื่องการอำนวยความสะดวกดูแลพี่น้องประชาชน รวมถึงความปลอดภัยในการเดินทาง ซึ่งการย้ายขบวนรถบางส่วนมาใช้สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ นอกจากจะช่วยบรรเทาปัญหาจราจรแล้ว ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์อีกด้วย ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ในหลายมิติ

ขณะเดียวกัน ในทุกการดำเนินงาน การรถไฟฯ ยังได้ทำผ่านการรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้านจากทุกฝ่าย ตั้งแต่ระดับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ไม่ได้ตัดสินใจกันแค่ในระดับผู้บริหารเท่านั้น เพื่อให้เกิดความรอบคอบสูงสุด ซึ่งจากการรับฟังความเห็นเสียงตอบรับจากพนักงานรถไฟส่วนใหญ่ มีความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนการให้บริการมายังที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ แต่อาจมีพนักงานส่วนน้อยที่มีความกังวลบ้างเท่านั้น นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังได้มีการจัดทำแบบสำรวจความคิดเห็นประชาชน และได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างดี มีผู้ร่วมตอบแบบสำรวจ และส่งความคิดเห็นมายังการรถไฟฯ จำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการดำเนินการดังกล่าวด้วย

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า การเปิดใช้งานสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จะทำให้เกิดความไม่คุ้มค่า และมีปัญหาขาดทุนตามมา โดยยกตัวอย่างเพียงแค่ใช้สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์เป็นสถานที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า และค่าบำรุงรักษาประมาณ 300 ล้านบาท

การรถไฟฯ ขอชี้แจงว่า กิจการรถไฟฯ ถูกก่อตั้งขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยมีหน้าที่ที่เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่การขนส่งผู้โดยสาร หรือการขนส่งสินค้าเท่านั้น แต่สิ่งใดที่ทำแล้วประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด การรถไฟฯ ก็พร้อมที่จะดูแลช่วยเหลือ โดยไม่ได้คิดถึงผลกำไรขาดทุนเพียงอย่างเดียว ซึ่งการสนับสนุนพื้นที่ภายในสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เป็นศูนย์ฉีดวัคซีน ถือเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งของการรถไฟฯ ที่ได้มีส่วนช่วยเหลือสังคม และสนับสนุนภารกิจอันยิ่งใหญ่ เพื่อให้คนไทยทุกคนก้าวผ่านวิกฤติในครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน โดยตลอดเวลาการเปิดการเปิดสถานีกลางฯ เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 ระยะเวลา 447 วัน สามารถช่วยเหลือให้ประชาชนเข้าถึงบริการวัคซีนได้อย่างเท่าเทียมมากกว่า 3.5 ล้านคน สามารถฉีดวัคซีนรวมทั้งสิ้น 6.5 ล้านโดส จึงไม่ใช่เรื่องที่ควรมองถึงแค่ความคุ้มค่าของเม็ดเงินเพียงอย่างเดียว แต่ควรไตร่ตรองถึงประโยชน์ประชาชนและประเทศชาติที่ได้รับมากกว่า

ดังนั้นการย้ายรถไฟทางไกลมาให้บริการที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จะทำให้ประชาชนได้รับการบริการที่สะดวกสบายมากขึ้น เนื่องจากเป็นจุดศูนย์กลางใหม่ของกรุงเทพ มีรถไฟฟ้า และรถโดยสารประจำทางเชื่อมต่อหลายสาย เป็นสถานีรถไฟที่ออกแบบเพื่อมวลชน(Universal Design) สะดวกสบาย ปลอดภัย ครอบคลุมทุกคนเท่าเทียมกัน เช่น ชานชาลาสูง (110 ซม.) สะดวกต่อการขึ้นลงขบวนรถ เนื่องจากพื้นชานชาลาอยู่ระดับเดียวกับพื้นรถ มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย อาทิ กล้องวงจรปิด บันไดเลื่อน เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ ศูนย์อาหาร หุ่นยนต์ต้อนรับอัจฉริยะ SRT BOT ที่จอดรถสำหรับคนพิการ ลิฟท์ วีลแชร์นำทางอัจฉริยะ ห้องสุขาที่ทันสมัย และเพียงพอ รวมถึงมีระบบปรับอากาศของชั้นจำหน่ายตั๋วโดยสาร และจุดพักรอ เป็นต้น

ที่สำคัญการย้ายขบวนรถส่วนหนึ่งมาที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ไม่ได้เป็นการเพิ่มภาระให้ผู้โดยสาร โดยย้ายจากตัวเมืองไปสู่นอกเมืองตามที่ถูกกล่าวอ้าง เพราะสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ตั้งอยู่ในเขตบางซื่อ ซึ่งถือเป็นพื้นที่ตัวเมืองกรุงเทพฯชั้นใน ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และในอนาคตยังมีแผนพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีกลางฯ ให้เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ และเศรษฐกิจที่สำคัญของภูมิภาคอีกด้วย

ท้ายนี้ การรถไฟฯ ขอยืนยันว่า ทุกการดำเนินงานของการรถไฟฯ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ได้ยึดมั่นประโยชน์ส่วนรวมและประเทศชาติเป็นสำคัญ จึงขออย่านำการรถไฟฯ เข้าไปเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อหวังประโยชน์ในทางอื่น เพราะเราคนรถไฟเป็นองค์กรของประชาชน ที่มีปณิธานแน่วแน่ในการให้บริการแก่พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียม .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]