รฟท. โต้ “ประภัสร์” ประเด็นย้ายรถไฟทางไกล 52 ขบวน

กรุงเทพฯ 17 ม.ค. – การรถไฟฯ ยืนยันความพร้อม เปิดให้บริการรถไฟทางไกล 52 ขบวน ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ย้ำยึดถือประโยชน์สูงสุดของประชาชน และประเทศชาติเป็นสำคัญ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ออกเอกสารชี้แจง กรณีที่มีเพจเฟซบุ๊ก ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอคำให้สัมภาษณ์ของนายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับเรื่องการย้ายการให้บริการขบวนรถไฟทางไกล ของการรถไฟฯ มาให้บริการที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2566 เป็นต้นไปนั้น พบว่ามีข้อมูลหลายประเด็นที่มีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง

การรถไฟแห่งประเทศไทย จึงขอชี้แจงในประเด็นต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องดังนี้ การรถไฟฯ ยืนยันว่าการปรับเปลี่ยนต้นทาง-ปลายทางจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) มาให้บริการ ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ได้มีการพิจารณาไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนและรอบคอบ โดยยึดถือในประโยชน์ของประชาชนผู้ใช้บริการควบคู่กับการพัฒนาระบบการขนส่งทางรางของประเทศในระยะยาวเป็นสำคัญ


ทั้งนี้ การปรับขบวนรถให้บริการ ได้ดำเนินการเฉพาะขบวนรถไฟทางไกล สายเหนือ ใต้ ตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็ว จำนวน 52 ขบวนเท่านั้น ประกอบด้วย สายเหนือ จำนวน 14 ขบวน สายตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 18 ขบวน และสายใต้ จำนวน 20 ขบวน ส่วนขบวนรถรถไฟกลุ่มขบวนรถธรรมดา ขบวนรถชานเมือง และขบวนรถนำเที่ยว จำนวน 62 ขบวน ยังคงให้บริการที่สถานีต้นทางและสถานีปลายทางที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ประกอบด้วย สายตะวันออก จำนวน 22 ขบวน สายเหนือ จำนวน 16 ขบวน สายตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 6 ขบวน สายใต้ จำนวน 4 ขบวน และขบวนรถนำเที่ยว จำนวน 14 ขบวน

สถานีหัวลำโพงยังคงเปิดให้บริการแก่พี่น้องประชาชนเป็นปกติ ไม่ได้มีการปิดสถานีหัวลำโพงตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด เพราะในแต่ละวันยังมีขบวนรถไฟให้บริการแก่ผู้โดยสารที่สถานีหัวลำโพงมากถึง 62 ขบวนมากกว่าที่ให้บริการที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ซึ่งมีเพียง 52 ขบวน ที่สำคัญการรถไฟฯ ไม่ได้มีแผนนำพื้นที่สถานีหัวลำโพงไปเปิดให้ภาคเอกชนเข้ามาพัฒนาเป็นอย่างอื่นตามที่มีการกล่าวอ้างด้วย โดยการรถไฟฯ ต้องการให้สถานีหัวลำโพงเป็นสถานีรถไฟที่สำคัญของประเทศทำหน้าที่ให้บริการประชาชน และเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่จะบอกเล่าเรื่องราวการขนส่งทางรางของไทยจากอดีตสู่ปัจจุบันต่อเนื่องไปยังอนาคตต่อไป

สำหรับเหตุผลในการปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง-ปลายทางของขบวนรถไฟทางไกล มาให้บริการ ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์นั้น เป็นการดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของการก่อสร้างสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ที่จะให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งระบบรางของประเทศ โดยเป็นแผนที่มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องหลายสิบปีแล้วตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีการอนุมัติโครงการเมื่อปี 2553 และเริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2556 ที่สำคัญอยู่ในช่วงที่นายประภัสร์ เคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟฯ ด้วย ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นจากการตัดสินใจของการรถไฟฯ ในยุคนี้แต่อย่างใด


ในสมัยที่นายประภัสร์ จงสงวน เป็นผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เมื่อปี 2555 ก็ได้มีการสนับสนุนการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อหรือสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และยังเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการแก้แบบสถานีกลางบางซื่อ แต่เพราะเหตุใดในตอนนี้นายประภัสร์จึงกลับมาคัดค้านไม่ให้เปิดให้บริการรถไฟทางไกลที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งเป็นแผนที่วางไว้เดิมตั้งแต่เริ่มการก่อสร้าง

การรถไฟฯ ขอยืนยันว่า ก่อนที่จะกำหนดให้มีการย้ายมาให้บริการที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ในวันที่ 19 มกราคม 2566 ทางการรถไฟฯ ได้ประชุมหารือเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน ตลอดจนบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของกระทรวงคมนาคม เพื่อกำหนดมาตรการอำนวยความสะดวก โดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนถ่ายการเดินทาง เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ไม่เป็นภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแก่ผู้โดยสารอย่างที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด โดยมีมาตรการอำนวยความสะดวกดูแลผู้โดยสาร ดังนี้

ผู้ใช้บริการรถโดยสายทางไกล กลุ่มขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน และรถเร็ว ที่ซื้อตั๋วโดยสาร ลงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ แต่ประสงค์จะลงสถานีหลักสี่ สถานีบางเขน สามารถใช้ตั๋วโดยสารเดิมขึ้นรถไฟฟ้าสายสีแดงที่สถานีดอนเมืองได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเป็นเวลา 1 ปี

ผู้ใช้บริการรถโดยสารเชิงสังคม สามารถใช้ตั๋วโดยสารรถไฟทางไกล ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดงได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเป็นเวลา 1 ปีเช่นกัน โดยต้องเป็นผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วประเภทตั๋วเดือน ในสถานีหลักสี่ สถานีบางเขน ที่หยุดรถกม.19 ที่หยุดทุ่งสองห้อง และที่หยุดรถกม.11 ที่รถไฟไม่จอดให้บริการ

  • การรถไฟฯ ยังประสานกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) เพื่อจัดรถโดยสารประจำทาง รับ-ส่งผู้โดยสารตามสถานีรถไฟรายทาง ตั้งแต่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-สถานีหัวลำโพง เหมือนนั่งรถไฟปกติโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วย

ดังนั้นการกล่าวอ้างว่าการรถไฟฯ ไม่มีการเตรียมการจนทำให้ประชาชนเดือดร้อน เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายแก่ผู้โดยสาร จึงไม่เป็นความจริง เพราะการรถไฟฯ ได้พิจารณาไตร่ตรองอย่างดีแล้ว โดยคำนึงถึงผลกระทบ และให้ความสำคัญเรื่องการอำนวยความสะดวกดูแลพี่น้องประชาชน รวมถึงความปลอดภัยในการเดินทาง ซึ่งการย้ายขบวนรถบางส่วนมาใช้สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ นอกจากจะช่วยบรรเทาปัญหาจราจรแล้ว ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์อีกด้วย ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ในหลายมิติ

ขณะเดียวกัน ในทุกการดำเนินงาน การรถไฟฯ ยังได้ทำผ่านการรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้านจากทุกฝ่าย ตั้งแต่ระดับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ไม่ได้ตัดสินใจกันแค่ในระดับผู้บริหารเท่านั้น เพื่อให้เกิดความรอบคอบสูงสุด ซึ่งจากการรับฟังความเห็นเสียงตอบรับจากพนักงานรถไฟส่วนใหญ่ มีความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนการให้บริการมายังที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ แต่อาจมีพนักงานส่วนน้อยที่มีความกังวลบ้างเท่านั้น นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังได้มีการจัดทำแบบสำรวจความคิดเห็นประชาชน และได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างดี มีผู้ร่วมตอบแบบสำรวจ และส่งความคิดเห็นมายังการรถไฟฯ จำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการดำเนินการดังกล่าวด้วย

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า การเปิดใช้งานสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จะทำให้เกิดความไม่คุ้มค่า และมีปัญหาขาดทุนตามมา โดยยกตัวอย่างเพียงแค่ใช้สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์เป็นสถานที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า และค่าบำรุงรักษาประมาณ 300 ล้านบาท

การรถไฟฯ ขอชี้แจงว่า กิจการรถไฟฯ ถูกก่อตั้งขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยมีหน้าที่ที่เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่การขนส่งผู้โดยสาร หรือการขนส่งสินค้าเท่านั้น แต่สิ่งใดที่ทำแล้วประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด การรถไฟฯ ก็พร้อมที่จะดูแลช่วยเหลือ โดยไม่ได้คิดถึงผลกำไรขาดทุนเพียงอย่างเดียว ซึ่งการสนับสนุนพื้นที่ภายในสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เป็นศูนย์ฉีดวัคซีน ถือเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งของการรถไฟฯ ที่ได้มีส่วนช่วยเหลือสังคม และสนับสนุนภารกิจอันยิ่งใหญ่ เพื่อให้คนไทยทุกคนก้าวผ่านวิกฤติในครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน โดยตลอดเวลาการเปิดการเปิดสถานีกลางฯ เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 ระยะเวลา 447 วัน สามารถช่วยเหลือให้ประชาชนเข้าถึงบริการวัคซีนได้อย่างเท่าเทียมมากกว่า 3.5 ล้านคน สามารถฉีดวัคซีนรวมทั้งสิ้น 6.5 ล้านโดส จึงไม่ใช่เรื่องที่ควรมองถึงแค่ความคุ้มค่าของเม็ดเงินเพียงอย่างเดียว แต่ควรไตร่ตรองถึงประโยชน์ประชาชนและประเทศชาติที่ได้รับมากกว่า

ดังนั้นการย้ายรถไฟทางไกลมาให้บริการที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จะทำให้ประชาชนได้รับการบริการที่สะดวกสบายมากขึ้น เนื่องจากเป็นจุดศูนย์กลางใหม่ของกรุงเทพ มีรถไฟฟ้า และรถโดยสารประจำทางเชื่อมต่อหลายสาย เป็นสถานีรถไฟที่ออกแบบเพื่อมวลชน(Universal Design) สะดวกสบาย ปลอดภัย ครอบคลุมทุกคนเท่าเทียมกัน เช่น ชานชาลาสูง (110 ซม.) สะดวกต่อการขึ้นลงขบวนรถ เนื่องจากพื้นชานชาลาอยู่ระดับเดียวกับพื้นรถ มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย อาทิ กล้องวงจรปิด บันไดเลื่อน เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ ศูนย์อาหาร หุ่นยนต์ต้อนรับอัจฉริยะ SRT BOT ที่จอดรถสำหรับคนพิการ ลิฟท์ วีลแชร์นำทางอัจฉริยะ ห้องสุขาที่ทันสมัย และเพียงพอ รวมถึงมีระบบปรับอากาศของชั้นจำหน่ายตั๋วโดยสาร และจุดพักรอ เป็นต้น

ที่สำคัญการย้ายขบวนรถส่วนหนึ่งมาที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ไม่ได้เป็นการเพิ่มภาระให้ผู้โดยสาร โดยย้ายจากตัวเมืองไปสู่นอกเมืองตามที่ถูกกล่าวอ้าง เพราะสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ตั้งอยู่ในเขตบางซื่อ ซึ่งถือเป็นพื้นที่ตัวเมืองกรุงเทพฯชั้นใน ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และในอนาคตยังมีแผนพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีกลางฯ ให้เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ และเศรษฐกิจที่สำคัญของภูมิภาคอีกด้วย

ท้ายนี้ การรถไฟฯ ขอยืนยันว่า ทุกการดำเนินงานของการรถไฟฯ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ได้ยึดมั่นประโยชน์ส่วนรวมและประเทศชาติเป็นสำคัญ จึงขออย่านำการรถไฟฯ เข้าไปเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อหวังประโยชน์ในทางอื่น เพราะเราคนรถไฟเป็นองค์กรของประชาชน ที่มีปณิธานแน่วแน่ในการให้บริการแก่พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียม .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” พร้อมครอบครัวถึงศาลฎีกาฯ ฟังคำสั่งคดีชั้น 14

9 ก.ย.- “ทักษิณ” พร้อมครอบครัว นั่งรถหรู ทะเบียน 195 ถึงอาคารศาลฎีกาฯ ฟังคำสั่งคดีชั้น 14 ขณะที่มวลชนตะโกนเสียงดัง “ทักษิณ สู้ๆ” เวลา 09.25 น. ขบวนรถยนต์ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาถึงยังอาคารศาลฎีกาฯ โดยเข้าทางประตูด้านหลังฝั่งริมคลองหลอด เพื่อมาตามนัดหมายของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีไต่สวนการบังคับโทษจำคุกของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยนายทักษิณได้นั่งรถยนต์เบนซ์ สีดำ-เงิน ทะเบียน พร 195 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถคันเดียวกันกับที่ไปรับนายทักษิณที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อวานนี้ ต่อมารถคันดังกล่าวได้จอดเทียบที่บริเวณประตูทางเข้าศาล โดยนายทักษิณได้ลงมาจากรถ สวมเสื้อสูท เนคไทสีเหลือง เดินทางมาพร้อมกับลูกสาวทั้งสองคน ได้แก่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ โดยมีนายวิญญัติ ชาติมนตรี และทีมทนายความ ยืนรอให้การต้อนรับ เมื่อมาถึง นายทักษิณและลูกสาวได้หันมายิ้มทักทายสื่อมวลชน ก่อนเดินเข้าไปในศาล ระหว่างนั้นกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงที่ปักหลักอยู่บริเวณด้านนอกอาคารศาลฎีกาได้ตะโกนส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจนายทักษิณว่า “ทักษิณสู้ […]

โผ ครม.อนุทิน ใกล้ลงตัว “บิ๊กเล็ก” ผงาด รมว.กลาโหม

กทม. 9 ก.ย.- “บิ๊กเล็ก” ผงาด รมว.กลาโหม ไม่เปลี่ยนม้ากลางศึกยุคสงคราม ตบรางวัล “ศักดิ์ดา” นั่ง มท.3 โผ ครม.อนุทิน ใกล้ลงตัว ผู้สื่อข่าวรายงานรายชื่อคณะรัฐมนตรี รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ว่า กลางดึกวันที่ 8 ก.ย. เข้า 9 ก.ย. เริ่มสะเด็ดน้ำใกล้คลอด สำหรับรายชื่อที่ยังไม่ลงตัว ล่าสุด กระทรวงกลาโหมที่มีข่าวว่าจะเป็นสัดส่วนคนนอก ยืนยันแล้วว่า คือ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ หรือ บิ๊กเล็ก จะขยับจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นโควตาคนนอกของพรรคภูมิใจไทย ไม่ใช่โควตาของพรรครวมไทยสร้างชาติ เหมือนอดีต ขณะเดียวกัน ที่มีรายงานข่าวว่าในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม มีชื่อ พลเอกณัฐ อินทรเจริญ ในสัดส่วนโควตาพรรคพลังประชารัฐ โผล่าสุดไม่ปรากฏชื่อดังกล่าว ขณะที่อีกชื่อที่จับตา คือ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ โควตา กลุ่มเพื่อไทยเดิม นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือ […]

อุตุฯ เตือนภาคตะวันออกฝนตกหนักมากบางพื้นที่-กทม.ฟ้าคะนอง 80%

กรุงเทพฯ 9 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก บริเวณ จ.ระยอง จันทบุรี ตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 80% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังหรือน้ำรอการระบาย โดยเฉพาะในเขตชุมชนเมือง เช่น กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือ ในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล […]

“ทักษิณ” สีหน้ายิ้มแย้ม เครื่องบินส่วนตัวแลนดิ้งดอนเมือง

ดอนเมือง 8 ก.ย.-เครื่องบินส่วนตัว “ทักษิณ” แลนดิ้งเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ โดย “ทักษิณ” มีใบหน้ายิ้มแย้ม ขณะมาขึ้นรถที่จอดรอหน้าอาคารผู้โดยสาร 8 ก.ย.68 บริเวณทางเข้าออกลานจอดเครื่องบินส่วนบุคคล ท่าอากาศยานดอนเมือง พบสื่อมวลชนเดินทางมาติดตามบรรยากาศเดินทางกลับของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังได้รับแจ้งข้อมูลเรดาร์เครื่องบินส่วนตัวรุ่น Bombardier Global 7500 ออกเดินทางจากสนามบินเซเลตาร์ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเมื่อเวลาประมาณ 14.54 น. ที่ผ่านมา เครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ ลงจอดบริเวณสนามบินส่วนตัว ประเทศไทย เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางบรรยากาศฝนตกหนัก ขณะที่นายทักษิณ เดินออกมาขึ้นรถที่จอดรอหน้าอาคารผู้โดยสาร ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า ก่อนจะขึ้นรถเบนซ์แล่นออกจากสนามบินไป พร้อมกับรถยนต์และรถตู้อีกคัน ทั้งนี้ มีรายงานว่า เครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ มีผู้โดยสารเดินทางมา 6 คน โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของนายทักษิณ ซึ่งเป็นภรรยาของนายสมชาย ร่วมเดินทางมาด้วย พร้อมกับผู้ติดตาม.-สำนักข่าวไทย