CAAT ปรับมาตรการเข้าประเทศใหม่

กรุงเทพฯ 10 ม.ค. – สำนักงานการบินพลเรือน (CAAT) ประกาศปรับมาตรการเข้าไทยใหม่ ยกเลิกตรวจวัคซีนขั้นต่ำ บินกลับประเทศต้องมีผลตรวจ RT-PCR เป็นลบ ส่วนประกันสุขภาพ ไม่ห้ามขึ้นเครื่อง แต่สุ่มตรวจขาเข้า หากพบต้องทำประกันก่อนเข้าเมือง


สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ออกประกาศผู้ทำการในอากาศ (NOTAM) ฉบับล่าสุดวันนี้ เพื่อแจ้งสายการบินและภาคการบินที่เกี่ยวข้องทั่วโลกทราบมาตรการด้านสาธารณสุขของประเทศไทยในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ตามที่มีการปรับปรุงล่าสุดภายหลังได้ข้อสรุปจากคณะกรรมการวิชาการด้านการแพทย์และสาธารณสุขภายใต้ พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ซึ่งประเมินสถานการณ์และกำหนดมาตรการควบคุมป้องกันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดโดยไม่เกิดผลกระทบด้านการท่องเที่ยวหรือเกิดอุปสรรคแก่ผู้เดินทางเข้าประเทศเกินความจำเป็น เนื่องจากปัจจุบันมีปัจจัยบวกหลายด้าน โดยเฉพาะการรับวัคซีนจำนวนมากทั้งคนไทยและต่างชาติทั่วโลก อีกทั้งไม่พบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นต้นเหตุของการระบาดของโรค COVID-19

สรุปสาระสำคัญของประกาศฉบับล่าสุด ซึ่งเป็นฉบับที่ 3 ในเรื่องดังกล่าวเปรียบเทียบกับฉบับก่อนหน้า ได้แก่ การยกเลิกข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการรับวัคซีนก่อนเดินทางเข้าประเทศไทยทั้งหมด ซึ่งจะทำให้สายการบินไม่ต้องตรวจสอบผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่อง รวมทั้งจะไม่มีการสุ่มตรวจเมื่อเดินทางมาถึงอีก ซึ่งเป็นไปตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงข่าวภายหลังการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางถึงประเทศไทยเที่ยวแรกหลังจากจีนเปิดประเทศ พร้อมด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา


ส่วนประเด็นเรื่องการประกันสุขภาพสำหรับผู้โดยสารเข้าประเทศที่ต้องเดินทางกลับไปยังประเทศที่มีข้อกำหนดให้ต้องมีผลตรวจ RT-PCR เป็นลบ (ไม่ติดเชื้อ) ได้พิจารณาปรับลดมาตรการให้อ่อนตัวลงในระยะนี้ โดยยังคงเน้นให้ผู้เดินทางเข้าประเทศกลุ่มดังกล่าวต้องมีประกันสุขภาพในวงเงินไม่น้อยกว่า 10,000 เหรียญสหรัฐ เพื่อให้ครอบคลุมการรักษาโรค COVID-19 ในกรณีติดเชื้อและบวกเพิ่มอีก 7 วัน ซึ่งวงเงินนี้เป็นวงเงินต่ำสุดที่เคยใช้มาก่อนหน้านี้และพิจารณาแล้วว่าครอบคลุมเพียงพอ

อย่างไรก็ตาม ในระยะนี้การกำหนดให้ผู้โดยสารกลุ่มนี้ต้องมีประกันสุขภาพเพื่อประโยชน์ของผู้โดยสารเองและไม่เป็นภาระแก่รัฐบาล จะยังไม่ถูกนำมาเป็นเงื่อนไขใด ๆ ในการปฏิเสธการขึ้นเครื่อง ณ สนามบินต้นทาง แต่เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศที่ท่าอากาศยานจะสุ่มตรวจเอกสารรับรองประกันสุขภาพของผู้โดยสารจากประเทศดังกล่าว หากพบว่าไม่มีประกันสุขภาพ ผู้โดยสารนั้นจะต้องซื้อประกันสุขภาพก่อนเข้าเมือง

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังคงติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และอาจยกระดับมาตรการใด ๆ เพิ่มขึ้นตามความเหมาะสม ซึ่งสายการบินจะต้องปรับแนวทางดำเนินการเพื่อให้การนำผู้โดยสารเข้าประเทศเป็นไปตามระเบียบหรือข้อกำหนดที่ประกาศขึ้นภายหลัง


สำหรับรายละเอียดเนื้อหาตามประกาศใน NOTAM ฉบับดังกล่าวมีเนื้อหาเป็นภาษาไทย ดังนี้
NOTAM ฉบับที่ A0071/23 กระทรวงสาธารณสุขปรับมาตรการในการเข้าประเทศไทยสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ ดังนี้

  1. ยกเลิกข้อกำหนดการรับวัคซีนก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย
  2. ผู้โดยสารที่มาจากประเทศที่กำหนดผลตรวจ RT-PCR TEST จะต้องมีประกันสุขภาพวงเงินไม่น้อยกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ ครอบคลุมการรักษาโควิดตลอดช่วงระยะเวลาเดินทางในประเทศไทยและบวกเพิ่มอีก 7 วัน
    2.1 สำหรับผู้มาประกอบภารกิจ รวมถึงลูกเรือ นักเรียน อาจจะใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงานเจ้าภาพหรือเอกสารแสดงถึงการมีประกันรูปแบบอื่นรับรองแทน
    2.2 ผู้โดยสารที่ไม่มีประกันสุขภาพจะไม่เป็นเหตุของการถูกปฏิเสธการขึ้นเครื่อง
    2.3 เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ จะสุ่มตรวจเอกสารรับรองประกันสุขภาพของผู้โดยสารจากประเทศดังกล่าว หากพบว่าไม่มีประกันสุขภาพ ผู้โดยสารนั้นจะต้องซื้อประกันสุขภาพก่อนเข้าเมือง
    2.4 หากมีระเบียบหรือข้อกำหนดอื่นใดจากกระทรวงสาธารณสุข ให้สายการบินดำเนินการตามระเบียบข้อกำหนดนั้น
  3. ผู้โดยสารที่ถือหนังสือเดินทางไทย และผู้โดยสารที่เปลี่ยนเครื่องหรือต่อเครื่องได้รับการยกเว้นจากการตรวจสอบเอกสารประกันสุขภาพ
  4. สายการบินต้องยึดตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องและปฏิบัติตามคู่มือแนวทางตามความเหมาะสม เช่น ขอให้ผู้โดยสารสวมใส่หน้ากากตลอดการเดินทาง ยกเว้นช่วงรับประทานอาหาร หรือในภาวะฉุกเฉิน
  5. ผู้โดยสารที่มีอาการของโรคโควิด 19 ระหว่างการเดินทาง จะได้รับการแนะนำให้ทำการตรวจการติดเชื้อเมื่อเดินทางมาถึงจุดหมาย
  6. หากมีคำถาม ข้อสงสัย ติดต่อกระทรวงสาธารณสุขเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์ https://shorturl-ddc.moph.go.th/FeCG0

ข้อปฏิบัติดังกล่าว เริ่มใช้วันที่ 10 มกราคม 2566 เวลา 08.00 น. ถึงวันที่ 31 มกราคม 2566 เวลา 23.59 น. นอกจากนั้น CAAT ยังได้ออกประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง แจ้งมาตรการทางสาธารณสุขในการเดินทางเข้าประเทศไทย เพื่อแจ้งให้สาธารณะและผู้เกี่ยวข้องในประเทศไทยได้ทราบอย่างเป็นทางการอีกทางหนึ่งด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ “ธัญพร มุ่งเจริญพร” เข้าป้าย

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ ลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย “ธัญพร มุ่งเจริญพร” พลิกชนะ “พรชัย มุ่งเจริญพร” แชมป์เก่าแบบขาดลอย คว้าเก้าอี้มาครอง นั่งนายก อบจ.หญิงคนแรกของจังหวัด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าคึกคัก

ภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าค่อนข้างคึกคัก มีประชาชนทยอยใช้สิทธิต่อเนื่อง ยังไม่มีรายงานการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ท่ามกลางสายฝน

ชาวนครศรีธรรมราช ตื่นตัวออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. ท่ามกลางสายฝน กกต.เผยภาพรวมครึ่งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่มีรายงานการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ช้างป่ายกโขลงประชิดหมู่บ้าน ไล่ระทึกทั้งคืน

ไล่ระทึกกันทั้งคืน ช้างป่ายกโขลงบุกประชิดหมู่บ้านตลิ่งชัน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ออกหากินผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้าน