รมว.คมนาคม หารือ JICA

กรุงเทพฯ 7 ธ.ค. -“ศักดิ์สยาม” หารือทวิภาคีกับผู้บริหาร JICA เร่งพัฒนาเมืองกับระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง (TOD) ของไทย


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมการประชุมหารือทวิภาคีกับ Mr. ONODERA Seiichi (นายโอโนะเดะระ ไซจิ) รองประธานองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) และผู้บริหาร JICA โดยมีนายสิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธุ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว โดยมีนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และผู้บริหารระดับสูงในสังกัดกระทรวงคมนาคม เข้าร่วม ณ อาคารสำนักงานใหญ่ JICA (Nibancho Center Building) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กล่าวว่า การมาเยือนสำนักงานใหญ่ JICA ครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญ โดยได้หารือถึงภารกิจที่มีร่วมกัน ทั้งการสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำในโครงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชน และความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกระทรวงคมนาคมและ JICA และหารือระดับทวิภาคีครั้งนี้ ได้มีการหยิบยกประเด็นสำคัญในการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของประเทศไทย คือ


  1. การพัฒนาเมืองกับระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง (Transit Oriented Development: TOD) และการพัฒนาพื้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ฝ่ายไทยกล่าวว่า การเยี่ยมชมโครงการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน (TOD) และเมืองอัจฉริยะ (Smart City) จะเป็นการถอดบทเรียนความสำเร็จของญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาโครงการของไทยโดยในส่วนของ TOD โดยกระทรวงคมนาคมได้มอบหมายสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรเป็นหน่วยหลักในการกำหนดขอบเขตและแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินให้มีประสิทธิภาพ สอดรับกับการพัฒนาระบบรางและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ฝ่ายไทยได้ขอให้ JICA พิจารณาสนับสนุนบริษัท SRT Asset ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่บางซื่อ เพื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์และเชื่อมโยงกับระบบคมนาคมขนส่งต่อไป
     
  2. โครงการพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระยะที่ 2 (M-MAP2) และความร่วมมือที่เกี่ยวข้องด้านระบบราง ฝ่ายไทยขอบคุณ JICA ที่ให้การถสนับสนุนการจัดทำแผนงานโครงข่ายทางราง (M-MAP2) โดยการศึกษาดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อต่อยอดแผนแม่บท M-MAP เดิม ให้มีความครอบคลุมและสอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของเมืองในอนาคต ซึ่งสถานะ
    โครงการฯ อยู่ระหว่างดำเนินการพัฒนาแบบจำลองการคาดการณ์ความต้องการเดินทางด้วยระบบราง (Railway Demand Forecast Model) ร่วมกับฝ่ายญี่ปุ่น คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2567

โดยฝ่ายไทยขอให้ JICA พิจารณาสานต่อการพัฒนาระบบร่างร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม อาทิ กรมการขนส่งทางราง สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) การรถไฟแห่งประเทศไทย และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เพื่อผลักดันนโยบายการเพิ่มสัดส่วนการขนส่งทางรางและการโดยสารของประชาชนกิจการดำเนินงานที่มีร่วมกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย