EXIM BANK แนะ SME เปิดตลาดการค้าและลงทุนในเวียดนาม ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน/ซื้อประกันการส่งออก

28 พ.ย. – ปัญหาโครงสร้างทางเศรษฐกิจไทยเริ่มบีบให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ที่เน้นการค้าขายในประเทศต้องกลับมามองว่าจะทำอย่างไร เพราะในอนาคตตลาดในประเทศจะเล็กลง เนื่องจากไทยได้ใกล้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ และหนี้ครัวเรือนในระดับสูงบั่นทอนกำลังซื้อในประเทศให้ขยายตัวต่ำ ผู้ประกอบการจึงต้องหาทางขยายการส่งออกรวมทั้งย้ายฐานการลงทุนไปในประเทศที่สามารถหาแรงงานได้ง่ายและราคาถูก มีต้นทุนวัตถุดิบต่ำ อีกทั้งมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนที่เหมาะสม ซึ่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นับเป็นดาวรุ่งที่นักลงทุนทั่วโลกจับตามอง


ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ได้จับมือเวียดคอมแบงก์ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเวียดนามนำเข้าสินค้าหรือบริการของไทยเพิ่มขึ้น รวมถึงสนับสนุนนักลงทุนไทยในเวียดนามให้มีวงเงินหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจเพื่อขยายการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-เวียดนาม โดยคาดว่าจะเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนไทย-เวียดนาม ได้ประมาณ 10,000 ล้านบาท ในปี 2566 และเติบโต 10% ต่อปีในระยะถัดไป นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายเหวียน ซวน ฟุก ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามสัญญาสนับสนุนการค้าและการลงทุน ระหว่างธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และเวียดคอมแบงก์ (Vietcombank) โดยมี ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และนายเหวียน แทงห์ ตุ่ง รักษาการกรรมการผู้จัดการ เวียดคอมแบงก์ เป็นผู้ลงนาม ณ ทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสที่ประธานาธิบดี เหวียน ซวน ฟุก เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการเพื่อเข้าร่วมการประชุมเอเปค


โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ร่วมแสดงความยินดีกับความร่วมมือครั้งนี้ระหว่าง EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลังที่มีภารกิจส่งเสริมและสนับสนุนการส่งออกและการลงทุนที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศกับเวียดคอมแบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารของรัฐแห่งแรกที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เวียดนาม จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการให้บริการสินเชื่อเพื่อการส่งออกและนำเข้าและธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ ความร่วมมือครั้งนี้ ครอบคลุมการให้วงเงินสินเชื่อระหว่างกัน (Reciprocal Credit Lines) แนะนำผู้ประกอบการระหว่างกัน (Customer Referrals) ตลอดจนอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ อาทิ การเป็นตัวแทนรับหลักประกัน (Security Agent) การเป็นตัวแทนในการเบิกจ่ายเงินกู้ (Disbursement Agent) เป็นการสนับสนุนบริการครบวงจรทั้งทางการเงินและไม่ใช่การเงินสำหรับผู้ประกอบการไทย-เวียดนาม เพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการเวียดนามนำเข้าสินค้าหรือบริการจากไทยและผลักดันให้เกิดโครงการลงทุนหรือร่วมทุนระหว่างไทยกับเวียดนามเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าจะทำให้มูลค่าการค้าและการลงทุนไทย-เวียดนาม เพิ่มขึ้นประมาณ 10,000 ล้านบาท ในปี 2566 และเติบโต 10% ต่อปีในระยะถัดไป

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า EXIM BANK สานพลังกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งการทำงานร่วมกับทีมประเทศไทย ภายใต้บทบาทของ EXIM BANK ในการเป็น “ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย” เดินหน้าสร้างนักรบเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในเวทีโลก โดยมองเห็นศักยภาพของเวียดนาม หนึ่งในตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูงด้วยจำนวนประชากรเกือบ 100 ล้านคน มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามในปี 2566 จะเติบโตถึง 6.2% และเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 6.6% ต่อปีในอีก 5 ปีข้างหน้า ขณะที่รัฐบาลเวียดนามมีนโยบายส่งเสริมการค้าเสรีและการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเวียดนามมีความตกลงการค้าเสรี (FTAs) มากที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลก และเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายของนักลงทุนทั่วโลก สะท้อนจากเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศสุทธิ (FDI Net Inflow) ที่ไหลเข้าเวียดนามขยายตัวเฉลี่ย 7.9% ต่อปีในปี 2555-2564 เทียบกับ FDI โลกที่ขยายตัวเพียง 3.3% ผู้ประกอบการไทยจึงมีโอกาสอีกมากที่จะขยายธุรกิจการค้าและการลงทุนเข้าไปยังตลาดเวียดนาม

ในปี 2564 มูลค่าการค้าระหว่างไทย-เวียดนามสูงราว 620,000 ล้านบาท นับเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 2 ของไทยในอาเซียน รองจากมาเลเซีย ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เวียดนามก้าวขึ้นมาเป็นตลาดที่มีบทบาทต่อการส่งออกของไทยอย่างมาก มูลค่าส่งออกจากไทยไปเวียดนามเติบโตเกือบเท่าตัว ด้านการลงทุน ไทยเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับ 8 ในเวียดนาม ด้วยมูลค่าลงทุนสะสมราว 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 470,000 ล้านบาท การลงทุนของไทยในเวียดนามกระจายอยู่ในหลากหลายธุรกิจ อาทิ นิคมอุตสาหกรรม พลังงาน อาหารแปรรูป ปิโตรเคมี และบรรจุภัณฑ์


นอกจากนี้ ในงานสัมมนา “Vietnam in Focus 2022 : The Dream Journey” จัดโดย EXIM BANK เมื่อเร็ว ๆ นี้ นักธุรกิจไทยชั้นนำได้บอกเล่าถึงศักยภาพของตลาดเวียดนามที่เต็มไปด้วยโอกาสและความท้าทาย อาทิ นายยงยุทธ เสฏฐวิวรรธน์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการบริหารการเงินกลุ่มและศูนย์บริการร่วมทางการเงิน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งเข้าไปลงทุนในเวียดนามตั้งแต่ปี 2551 เป็นการร่วมลงทุนกับบริษัทที่มีชื่อเสียงในเวียดนามที่เป็นผู้ส่งออกวัตถุดิบให้กับบริษัทอยู่แล้วในสัดส่วน 50% โดยมองว่าเวียดนามเป็นประเทศที่เหมาะสมมากในการเป็นฐานการผลิตอาหารทะเลเพราะมีชายทะเลยาวมาก มีวัตถุดิบตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ แต่บริษัทก็เริ่มซื้อหุ้นคืนในปี 2559 ก็ถือหุ้น 100% การจะลงทุนในเวียดนามหากเลือกคนถูกและมีพันธมิตรที่ดีก็จะช่วยให้เติบโตได้เร็วเพราะผู้ร่วมทุนจะช่วยสนับสนุนด้านกฎหมาย กฎระเบียบการค้าการลงทุนและช่วยเหลือด้านการตลาดในประเทศได้มาก

ขณะที่นายชยุต ตุลยนิติกุล รองประธานฝ่ายบริหาร บริษัท กนกโปรดักส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าระบบรดน้ำต้นไม้ เล่าถึงประสบการณ์ในเวียดนามว่า เข้าสู่ตลาดประมาณ 6 ปีแล้ว เริ่มจากการไปออกบูทเพื่อโปรโมทสินค้าและได้รับการตอบรับดีได้รับการติดต่อจากผู้นำเข้าในเวียดนามพาไปสำรวจตลาดซึ่งพบว่าเวียดนามเหมือนไทยตรงที่เป็นประเทศกสิกรรมมีสินค้าเกี่ยวกับการเกษตรจำหน่ายเยอะมาก มีหลายคุณภาพและราคา

นายสุนทรพล วีระประวัติ ASEAN Region Manager บริษัท เอสซีวี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นผู้ส่งออกเครื่องยนต์ทางการเกษตรยี่ห้อคูโบต้า เปิดเผยว่า ผู้นำเข้าที่เวียดนามต้องการผู้ส่งออกที่มีชื่อเสียงและมีประวัติการส่งออกที่ดี แม้จะเป็นผู้ส่งออก แต่บริษัทก็จะต้องทำหน้าที่แทนผู้ซื้อ คือเช็ตสินค้าที่ปลายทางเป็นระยะว่ามีปัญหาหรือไม่ เราจะมีบทบาทหน้าที่เป็นที่เป็น Dealer หรือ Distributor ด้วย นี่เป็นหัวใจสำคัญของการกระจายสินค้าให้ทั่วถึงในภูมิภาคเราจะดูแลลูกค้าได้อย่างเข้าถึงและเข้าใจ

ผู้ประกอบการไทยล้วนเห็นพ้องถึงศักยภาพของตลาดเวียดนาม อย่างไรก็ตาม การเจาะตลาดใหม่ รวมทั้งเวียดนาม ผู้ประกอบการไทยควรมีที่ปรึกษาทางธุรกิจที่พร้อมให้ข้อมูลความรู้ นอกเหนือจากเครื่องมือทางการเงิน ทั้งในมิติของสินเชื่อและบริการประกันการส่งออกและลงทุน และเครือข่ายธุรกิจ โดย EXIM BANK พร้อมทำหน้าที่ดังกล่าว ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยเข้าไปอยู่ใน Supply Chain ธุรกิจของเวียดนาม โดยเฉพาะธุรกิจที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลเวียดนามที่ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนอย่างจริงจัง โดยปัจจุบันโครงการลงทุนของไทยในเวียดนามภายใต้การสนับสนุนของ EXIM BANK คิดเป็นมูลค่ากว่า 17,300 ล้านบาทในหลากหลายธุรกิจ อาทิ โรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด และปิโตรเคมี เป็นต้น

“เวียดนามวันนี้ได้พลิกโฉมจากคู่แข่งกลายมาเป็นคู่ค้าคนสำคัญที่ไทยพึ่งพาและพึ่งพิงมากขึ้น EXIM BANK พร้อมทำหน้าที่มากกว่าธนาคาร เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเชื่อมโยง Supply Chain การผลิตเพื่อส่งออกไปยังประเทศเวียดนามและตลาดโลกได้ โดยธุรกิจส่วนใหญ่ในเวียดนามมุ่งสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Economy) สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลไทยและประชาคมโลกสู่เป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ สร้างความเข้มแข็งและการพัฒนาอย่างยั่งยืนตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ไปจนถึงภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และประชาคมโลก” ดร.รักษ์ กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

“อ.แจ็คพันศพ” ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะเผาศพ

“อาจารย์แจ็คพันศพ” สัปเหร่อและหมอผีชื่อดัง จ.บุรีรัมย์ ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะวางดอกไม้จันทน์เผาศพ ไฟลวกทั่วร่างกาย ต้องหามส่งโรงพยาบาล  เจ้าตัวงง! เผาศพมาเป็นพัน ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเร่งกวาดล้างแก๊งไทใหญ่ 999

กรณีแก๊งไทใหญ่ 999 ไล่ฟันหนุ่มกะเหรี่ยง ย่านห้วยขวาง ตำรวจยอมรับมีกลุ่มต่างด้าวกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ เร่งพิสูจน์รวมแก๊งลักษณะอั้งยี่-ซ่องโจร หรือไม่ พร้อมลั่นดำเนินคดีไม่ละเว้น

ผู้การอยุธยา สั่งสอบ ตร. เก็บส่วยร้านอาหาร

แฉคลิปเสียงชายอ้างเป็นตำรวจ เรียกเก็บเงินรายเดือนจากร้านอาหาร พอปฏิเสธถูกลงตรวจถี่ยิบ ล่าสุด ผู้การฯ อยุธยา สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด่วน

ปิด “จุดชมวิวภูชี้ฟ้า” ชั่วคราว เหตุเสียงปืนดังข้ามแดน-กระสุนตกใส่หลังคาบ้าน

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ชายแดนไทย-สปป ลาว อำเภอเวียงแก่น และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังเกิดเสียงปืนดังข้ามแดน และพบกระสุนตกใส่บ้านเรือนประชาชน

กทม.พาสื่อดูซากตึก สตง. คาดอีก 2-3 วัน ภารกิจเสร็จสิ้น

กทม.พาสื่อลงพื้นที่ดูซากตึก สตง. ขณะนี้เคลียร์ถึงชั้นใต้ดินซึ่งเป็นจุดสุดท้าย คาดภารกิจการค้นหาผู้สูญหายและรื้อซากจะเสร็จสิ้นในอีก 2-3 วัน