กรุงเทพฯ 24 พ.ย.- ศูนย์วิจิจัยกสิกรไทยคาด กนง.สัปดาห์หน้า ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% มองบาทแข็งค่าขึ้นในปี 66 เป็น 33.50 – 34.007.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ หลังเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ยโลกเข้าโหมดเศรษฐกิจถดถอย
นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย คาดการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) น่าจะปรับดอกเบี้ยขึ้น 0.25% ในสัปดาห์หน้า จากอัตราปัจจุบัน1% และ คงจะปรับดอกเบี้ยนโยบายไปถึง 1.75% สำหรับปี 2566
ทั้งนี้ ตลาดประเมินความเสี่ยงต่อภาวะถดถอยของเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่เพิ่มขึ้นเช่น สหรัฐ, อังกฤษ, ยุโรป โดยจะเห็นได้จากดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อปรับตัวเข้าสู่ภาวะหดตัวมากขึ้น โดยเฉพาะยุโรป เนื่องจากภาวะการขาดแคลนก๊าซฯ กรณีคว่ำบาตรรัสเซียที่รุกรานยูเครนส่งผลลบต่อการผลิต
ขณะที่นโยบาย Zero Covid ของจีน ส่งผลกระทบต่อการผลิตของจีน ตลาดการเงินมีความเชื่อมั่นว่าเงินเฟ้อในสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ซึ่งน่าจะทำให้นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยอย่างช้าลงคงขึ้นสูงสุดที่5% และมีลุ้นว่าอาจจะต้องปรับดอกเบี้ยลงภายในปีหน้า การคาดการณ์นี้ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลง
“เราได้ปรับเป้าหมายค่าเงินบาท ให้ต่ำลงจาก 3 7.50บาท/ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 35.25 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับปีนี้ และมองว่าค่อยแข็งค่าขึ้นในปี 66 เป็น 33.50 – 34.007.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ” นายกอบสิทธิ์ กล่าว
นายกอบสิทธิ์มองว่า หลังจากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐได้หมดรอบแล้ว ตลาดคงจะมาใส่ใจปัจจัยของไทยมากขึ้น โดยเฉพาะภาวะการท่องเที่ยวที่ปรับทิศทางที่ดีขึ้น และดุลบัญชีเดินสะพัดไทยทั่ดีขึ้นซึ่งสิ่งเหล่านี้รวมไปถึงเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพดังนั้นจึงคาดการณ์ว่า ธปท.จะใข้นโยบายการเงินดูแลด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่สูงมากนัก
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินจีดีพีไทยปี 66 ขยายตัว 3.2-4.2% ส่งออกโต 2.2-2.7% เงินเฟ้อขยายตัว 2.3-3.3% นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 13-20 ล้านคน และน้ำมันดิบราคาอ่อนตัวกว่าปีนี้คาดเฉลี่ย 90-100ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล.-สำนักข่าวไทย