กยท.เผยผลผลิตยางไตรมาสที่ 4/2565  ปริมาณ 1.677 ล้านตัน

กรุงเทพฯ 10 พ.ย.- กยท.เผยผลผลิตยางไตรมาสที่ 4/2565 มีปริมาณอยู่ที่ 1.677 ล้านตัน โดยในช่วงเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา มีปริมาณยางลดลง 43%


นางสาวอธิวีณ์ แดงกนิษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจยาง การยางแห่งประเทศไทย (กยท.)เปิดเผยว่า กยท.คาดการณ์ผลผลิตยางปี 2565 เป็นเนื้อยางแห้งเท่ากับ 4.799 ล้านตัน โดยผลผลิตยางไตรมาสที่4/2565 มีปริมาณอยู่ที่ 1.677 ล้านตัน และในช่วงของเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เป็นช่วงที่เกิดฝนตกชุก น้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ ภาคอีสาน และใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกยางสำคัญ ส่งผลให้ผลผลิตยางในประเทศลดลงประมาณ 43%

การส่งออกในไตรมาสที่ 3/65 ไทยส่งออกรวม 1.150 ล้านตัน ยังอยู่ในระดับเดียวกับปีก่อน ด้านอุตสาหกรรมที่ใช้ยางธรรมชาติ อุตสาหกรรมถุงมือยาง สมาคมถุงมือยางประเทศมาเลเซีย (The Malaysian Rubber Glove Manufacturers Association (MARGMA)) คาดการณ์ว่าในปี 2566 อุตสาหกรรมถุงมือยางจะเติบโต 12%-15% หลังจากที่หดตัวลง 19% ในปีนี้ ในส่วนของอุตสากรรมยางล้อ สมาคมผู้ผลิตยางล้อแห่งสหรัฐอเมริกา (USTMA) คาดการณ์การจัดส่งยางล้อของสหรัฐทั้งหมด 342.1 ล้านหน่วยในปี 2565 เทียบกับ 335.2 ล้านหน่วยในปี 2564 และ 332.7 ล้านหน่วยในปี 2562 หรือเพิ่มขึ้น 2.1% จากปี 2564 สถานการณ์การผลิตยางล้อในยุโรป สมาคมผู้ผลิตยางล้อยุโรป (European Tyre & Rubber Manufacturers’ Association (ETRMA)) รายงานว่าตลาดยางทดแทนในยุโรปลดลงในช่วงไตรมาสที่สามของปี 2565 ส่งสัญญาณถึงการชะลอตัวลงภายหลังจากการฟื้นตัวตั้งแต่ปีที่ผ่านมา Sublime China Information รายงานว่ากำลังการผลิตของโรงงานผลิตยางล้อ (Semi-steel tire) ในประเทศจีนอยู่ที่ 54.18% ลดลง 2.3% Y-O-Y ปัจจัยที่ทำให้กำลังการผลิตลดเนื่องจาก 1) โรงงานยางล้อในมณฑลชานตงลดปริมาณกำลังการผลิตยางล้อ 2) ประชาชนจีนยังคงระมัดระวังการเดินทางต่างพื้นที่ ทำให้มีแนวโน้มการเปลี่ยนล้อยางลดลง 3) โรงงานยางล้อบางแห่งต้องลดกำลังการผลิตเนื่องจากขาดแคลนแรงงาน


ภาวะเศรษฐกิจในภาพรวม สหรัฐอเมริกา มีแนวโน้มชะลอลงจากอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อสูงแต่เศรษฐกิจจะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้ ด้านยูโรโซน มีแนวโน้มหดตัวลงเล็กน้อยในครึ่งปีหลัง จากวิกฤติพลังงานรุนแรง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย ทางฝั่งประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศผู้ใช้ยางรายใหญ่ของโลก มีการฟื้นตัวเปราะบางในหลายภาคส่วนจากมาตรการ Zero Covid การล็อกดาวน์บางพื้นที่ เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทางจีนได้ใช้มาตรการการเงินและการคลังผ่อนคลายเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ จากภาวะเศรษฐกิจแปรปรวนเกษตรกรควรติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมการและปรับตัวได้อย่างทันท่วงที แต่อย่างไรก็ตาม กยท. ยังคงดำเนินโครงการช่วยเหลือ เช่น โครงการชะลอการขายยางร่วมกับสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง และโครงการรักษาเสถียรภาพราคายาง

นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ตลาด ทั่วโลกหันมาให้ความสนใจกับการซื้อขายคาร์บอนเครดิตกันมากขึ้น เนื่องจากมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และการซื้อขายที่มีมาตรฐาน ซึ่งขณะนี้กำลังรอหน่วยงานราชการสรุปตัวเลขที่ชัดเจน และหลายคนจึงเริ่มมีคำถามว่าต้นไม้แบบไหน พันธุ์ใด ชนิดใด สามารถแปลงคาร์บอนเครดิตมาเป็นมูลค่าเงินให้กับผู้ปลูกในอนาคตได้ ซึ่งแหล่งกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และผลิตคาร์บอนเครดิต ไม่ได้มีเพียงภาคป่าไม้และพื้นที่สีเขียวเท่านั้น หากยังมีภาคการเกษตรที่สามารถ กักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และแปลงปริมาณการกักเก็บเป็นเครดิตที่สามารถนำไปซื้อ-ขายแลกเปลี่ยน ในตลาดคาร์บอนได้ 

ปัจจุบันมีพืชเกษตรหลายชนิดที่ถูกนำมาประเมินหาปริมาณการสะสมคาร์บอน ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ทุเรียน ลำไย และไม้ยืนต้นอื่นๆ แต่ยางพารามีหน่วยงานรับผิดชอบชัดเจนและถือเป็นพืชเกษตรที่มีศักยภาพสูงในการกักเก็บ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เนื่องจากลำต้นของต้นยางพารามีลำต้นหลักเพียงต้นเดียว ไม่มีการแตกนาง หรือแตกกอ ทั้งยังมีอัตราการเจริญเติบโตที่เร็ว จึงมีมวลชีวภาพแปรผันตรงตามอายุของยางพารา เมื่อต้นยางพาราอายุมากขึ้นมวลชีวภาพจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยปริมาณมวลชีวภาพมีผลต่อศักยภาพการกักเก็บคาร์บอนและอัตราการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในลักษณะแปรผกผันตามอายุของยางพารา


ผู้ว่าการ กยท. กล่าวย้ำว่า ในตอนนี้ กยท. ตั้งเป้าจะขยายพื้นที่การดำเนินโครงการดังกล่าว ให้ครอบคลุมพื้นที่สวนยางพาราทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีสวนยางพาราอยู่ภายใต้การดูแลของ กยท. ประมาณ 22 ล้านไร่ ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมพัฒนาสู่เศรษฐกิจสีเขียวและสังคมคาร์บอนต่ำ รวมทั้งเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรชาวสวนยางอีกทางหนึ่ง โดยในปี 2565 นี้ ตั้งเป้าจะดำเนินโครงการคาร์บอนเครดิตให้ได้ก่อน 1 ล้านไร่ และภายใน 5 ปีนับจากนี้ตั้งเป้าจะทำให้ได้ 10 ล้านไร่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ส่งชาวจีนกลับบ้าน

เสร็จสิ้นภารกิจส่ง 621 เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับจีน

จบภารกิจส่งชาวจีนเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา รวม 3 วัน 13 เที่ยวบิน ส่งกลับชาวจีน 621 คน ที่เหลือต้องรอการเจรจา 3 ฝ่าย ไทย จีน และเมียนมา กำหนดแนวทางรับตัวอีกครั้ง

ทำบุญครบรอบแตงโมเสียชีวิต

เพื่อนสนิททำบุญครบรอบ 3 ปี “แตงโม” เสียชีวิต

กลุ่มเพื่อนสนิทของ “แตงโม ภัทรธิดา” นักแสดงสาวผู้ล่วงลับ จัดพิธีทำบุญครบรอบ 3 ปี การเสียชีวิตของนางเอกคนดัง ที่วัดปากน้ำ ซ.พิบูลสงคราม 1 อ.เมือง จ.นนทบุรี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง