ความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้นเป็นเดือนที่ 5 แต่ยังกังวลเศรษฐกิจอนาคต

กรุงเทพฯ 10 พ.ย.-ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือนนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 แต่ยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับเศรษฐกิจ โอกาสหางานทำ และรายได้ในอนาคต ยังมีหลานปัจจัยที่ต้องติดตาม ขณะที่ผลตรวจสอบราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคตามห้างและตลาดสดต่างๆ ของกระทรวงพาณิชย์ สินค้าโดยรวมปรับตัวลดลงมาก


นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยกล่าวถึง”ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนตุลาคม ปี 2565”ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือนนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 เป็นต้นมา ซึ่งผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่สถานการณ์โควิดในประเทศเริ่มปรับตัวดีขึ้นและมีการผ่อนคลายกฎระเบียบต่างๆ ให้ธุรกิจเริ่มเปิดดำเนินการได้เป็นปกติตลอดจนการผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศได้สะดวกมากขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงอย่างมากจากช่วงครึ่งปีแรก

อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการที่ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ตลอดจนปัญหาค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นรวมถึงความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ตลอดจนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ที่อาจเป็นปัจจัยที่เพิ่มแรงกดดันของการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย   


ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 40.0 43.6 และ 54.8 ตามลำดับ ปรับตัวดีขึ้นทุกรายการเมื่อเทียบกับดัชนีในเดือนกันยายน ที่อยู่ในระดับ 38.6 41.9 และ 53.3 ตามลำดับ แสดงว่าผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวขึ้น

ทั้งนี้ ดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ (ที่ระดับ 100) แสดงว่าผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำ และรายได้ในอนาคต เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันและค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น ตลอดจนยังคงกังวลในสถานการณ์โควิดในประเทศไทยและทั่วโลกที่ยังคงมีอยู่แม้ว่าจะคลายตัวลงก็ตาม ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยและการจ้างงานมีโอกาสฟื้นตัวได้ช้าในอนาคต ซึ่งจะทำให้รายได้ในอนาคตของผู้บริโภคมีความไม่แน่นอนสูงการปรับตัวดีขึ้นของดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของผู้บริโภค

ดังนั้น ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมองว่า โดยภาพรวมเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวแล้ว แม้จะมีหลายปัจจัยที่ยังกังวลอยู่บ้าง ทำให้ช่วงเวลาที่เหลือปีนี้เศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงขาขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 3.3-3.5 และคาดว่าหลังจากทั่วโลกรวมถึงไทยมีการเปิดประเทศกันมากขึ้นส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในปี 66 จะโตอยู่ที่ร้อยละ 3.5-4 ซึ่งจะเป็นตัวเลขเติบโตเท่ากับช่วงก่อนโควิดได้แน่นอน


ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่า กรมการค้าภายในได้ติดตามสถานการณ์ราคาและปริมาณสินค้าอย่างใกล้ชิด ทั้งตลาดสด ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง ห้างท้องถิ่น โดยพบว่า สินค้าอาหารสด เช่น หมูเนื้อแดง ไก่สด ไข่ไก่ มีแนวโน้มราคาที่ปรับลดลง ส่วนผักสด โดยเฉพาะผักประเภทใบ เช่น ผักบุ้งจีน ผักคะน้า กวางตุ้ง กะหล่ำปลี ราคาได้ปรับลดลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเปรียบเทียบกับราคาเฉลี่ยเดือนที่แล้ว เนื่องจากผลผลิตรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นหลังจากสถานการณ์น้ำท่วมได้คลี่คลายลง

ขณะที่ สินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ของใช้ส่วนตัว ของใช้ในบ้าน เครื่องครัว และเครื่องใช้ไฟฟ้า ตามห้างสรรพสินค้านั้น มีจัดโปรโมชั่นลดราคาอย่างต่อเนื่อง โดยสินค้าที่เริ่มขายดีขึ้นในช่วงนี้เป็นพวกของขวัญ ของจับฉลาก และอุปกรณ์ที่ใช้ในการท่องเที่ยวแนวแค้มปิ้ง ซึ่งก็มีการจัดโปรโมชั่นลดราคา เพื่อตอบสนองต่อความต้องการซื้อเช่นกันและกรมฯได้กำชับให้พ่อค้าแม่ค้าปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจนและจำหน่ายตรงตามราคาที่แสดง

อย่างไรก็ตาม หากเป็นกระเช้าของขวัญต้องแสดงรายการสินค้า ขนาดน้ำหนักต่อหน่วย ปริมาณบรรจุและราคาสินค้าแต่ละรายการที่บรรจุในกระเช้า และถ้ามีค่าภาชนะหรือค่าจัดกระเช้าก็ต้องแสดงให้ชัดเจนด้วย เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถเปรียบเทียบราคาได้ กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านราคาและปริมาณสินค้า สามารถร้องเรียนมาที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

ตร.สอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการ “ปิดจบสยบ Fiwfans”

ตำรวจสอบสวนกลาง “เปิดปฏิบัติการปิดจบสยบ Fiwfans (ฟิวแฟน)” เว็บไซต์ค้ากามเด็กออนไลน์ จับแอดมิน 5 ราย ดำเนินคดี พบในรอบ 4 ปี มีหญิงค้าประเวณีผ่านเว็บไซต์กว่า 40,000 ราย อายุต่ำสุด 15 ปี พบเงินหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้านบาท

โยนลูกลงทะเล

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ข่าวแนะนำ

หมาช่วยจับโจร

หมาช่วยจับโจรลักสายไฟ หาเงินเสพยา

ชาวบ้านรวบโจรสุดแสบ ขโมยตัดสายไฟหน้าวัด ถึงคราวซวยหมาเห่าจนชาวบ้านมาช่วยกันจับ ล่าสุดตรวจร่างกายเจอสารเสพติด โดนดำเนินคดีเรียบร้อย

อีสาน อุณหภูมิลด 3-5 องศาฯ ภาคเหนือ-ตะวันออก ลดลง 1-3 องศาฯ

กรมอุตุฯ คาดมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากจีน จะแผ่ปกคลุมภาคเหนือตอนบน อีสานและทะเลจีนใต้ในวันนี้ ทำให้อีสานอุณหภูมิลดลง 3-5 องศาฯ กับมีลมแรง ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาฯ ส่วนภาคใต้ฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

เลือกตั้ง อบจ.

วิเคราะห์ศึก อบจ.ศรีสะเกษ อาจถึงคราว “นายใหญ่” สิ้นมนต์ขลัง

นักวิชาการวิเคราะห์ศึก อบจ.ศรีสะเกษ อาจถึงคราว “นายใหญ่” สิ้นมนต์ขลัง การเมืองไม่เหมือน 20 ปีที่แล้ว ชี้วาทกรรมแบบเดิมๆ ไร้ผล ชาวเน็ตแชร์สนั่นพร้อมถามดังๆ จะ “ไล่หนู ตีงู กี่โมง”