ความเชื่อมั่นผู้บริโภค มี.ค.67 ลดลงครั้งแรกในรอบ 8 เดือน

กรุงเทพฯ 10 เม.ย.-ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.ค้าไทย ระบุดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน มี.ค.67 ปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 8 เดือน จากความกังวลเรื่องราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น กระทบค่าครองชีพ แต่ยังมองว่าทิศทางความเชื่อมั่นของผู้บริโภค หลังจากนี้จะกลับฟื้นตัวตามมาตรากระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ


นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวถึงดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค (CCI) ประจำเดือนมีนาคม 2567 อยู่ที่ระดับ 63.0 เป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 8 เดือน นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 เนื่องจากผู้บริโภค เริ่มกลับมากังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวช้า และยังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว รวมทั้งปัญหาสงครามในตะวันออกลาง ที่ยังยืดเยื้อบานปลาย อาจจะเพิ่มแรงกดดันให้ เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้าลงไปอีก ประกอบกับราคาพลังงาน ที่ปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะน้ำมันเบนซิน 

ทั้งนี้ ค่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 100 สะท้อนกังวลสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวม ค่าครองชีพสูง และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยและทั่วโลก ตลอดจนสงครามรัสเซียยูเครน ที่ยังส่งผลกระทบทางจิตวิทยาในเชิงลบ ต่อกำลังซื้อ ต่อการท่องเที่ยว และการส่งออก โดยถือว่าสวนทางกับความคิดเห็นของภาคธุรกิจ จากสมาชิกหอการค้าไทยทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ในเดือนมีนาคม 2567 ที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 อยู่ที่ระดับ 55.2 


โดยความเชื่อมั่นถือว่า ดีขึ้นเกินกว่าค่ากลางระดับ 50 ในทุกภูมิภาค รวมทั้งตัวชี้วัดทุกด้านทั้งเศรษฐกิจโดยรวม การบริโภค การลงทุน ภาคท่องเที่ยว ภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ภาคการค้า การค้าชายแดน และภาคบริการ รวมถึงการจ้างงาน ปรับตัวดีขึ้น แต่เป็นการปรับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเพียง 0.1-0.2% สะท้อนความมั่นใจของผู้ประกอบการ ที่ทรงตัว จากการท่องเที่ยว ที่ยังไม่โดดเด่น เพราะยังกระจุกตัวในหัวเมืองใหญ่ รวมทั้งในภาคเหนือ ที่เจอผลกระทบ จากฝุ่น PM 2.5 กังวลว่าจะกระทบกับการท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์นี้ ทำให้ผู้ประกอบการทั่วประเทศ ต้องการให้เร่งกระตุ้นการท่องเที่ยว ให้ทันกับช่วงวันหยุดยาวนี้ รวมทั้งภาคเกษตร ที่ผลผลิตได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง  

อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่า ความเชื่อมั่นของประชาชน ที่ชะลอตัวลง จะเกิดขึ้นระยะสั้น จากความกังวลเรื่องของค่าครองชีพ ตามราคาพลังงาน และรายได้ ที่อาจจะลดลงจากผลผลิตทางการเกษตรที่ได้รับผลกระจากภัยแล้ง รวมทั้งเงินงบประมาณที่ยังไม่ถูกใช้ แต่เชื่อว่า หลังจากนี้ยังเป็นทิศทางขาขึ้น กลับมาฟื้นตัวได้ จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ และการเร่งเบิกจ่ายเงินงบประมาณ จะเป็นเรื่องสำคัญโดยเฉพาะงบลงทุนที่จะกลับมา

ส่วนอีกประเด็นที่ต้องรอความชัดเจน คือ เรื่องของ อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งหากธนาคารแห่งประเทศไทย มีการลดอัตราดอกเบี้ย จะช่วยเสริมกับ มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่จะสนับสนุนให้คนจะซื้อบ้านได้มากขึ้น เกิดเม็ดเงินหมุนเวียน ได้ ประมาณ 2.3-3.4 แสนล้านบาท เทียบจากฐานการคำนวณในช่วงที่เคยใช้มาตรการดังกล่าว เมื่อปี 2564 จากการเก็บค่าธรรมเนียมได้มากขึ้น และมีแคมเปญจากธนาคารออกมามากขึ้น โดยรัฐบาล คาดว่า กระตุกกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 1.4-1.8% รวมทั้งมีผลต่อการลดภาระการชำระหนี้ของประชาชน


นอกจากนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมองว่า ธปท. จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ เนื่องจากมีการส่งสัญญาณถึงอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในกรอบ รวมไปถึงเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงที่กำลังฟื้นตัวได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 จากงบประมาณปี 2567 ที่กำลังขับเคลื่อนได้ รวมทั้งขณะนี้อัตราดอกเบี้ยของไทยต่ำสุดในอาเซียน และต่ำเมื่อเทียบกับเอเชียโดยรวม และที่สำคัญ อัตราแลกเปลี่ยน อยู่ในระดับ 36 – 37 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ดังนั้น การลดอัตราดอกเบี้ยก่อนประเทศอื่น ทำให้เกิดภาวะเงินไหลออก จากผลตอบแทนที่น้อยลง รวมไปถึงการลดดอกเบี้ย ถือเป็นการส่งสัญญาณ หรือ ยอมรับว่าเศรษฐกิจซบเซา จึงต้องใช้ดอกเบี้ยมากระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งการที่ยังไม่ลดดอกเบี้ย ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายขณะนี้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ และเป็นไปทิศทางดอกเบี้ยที่สอดคล้องกับธนาคารกลางของโลก 

ส่วนกรณีหากจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ก็จะมาจากเศรษฐกิจเป็นหลัก ไม่เกี่ยวข้องจากการถูกรัฐบาลกดดัน เพื่อเสริมหรือกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ซึ่งก็มีโอกาส ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยได้ หากพิจารณาจากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักราคาพลังงาน และอาหารออก จะสะท้อนถึงอำนาจซื้อของประชาชนที่แท้จริง โดยการพิจารณาเคยอ้างอิงไว้ที่ระดับ 0.5 – 3%  ซึ่งอัตราเงินเฟ้อในไตรมาสแรกอยู่ที่ 0.4% 

ขณะที่ นโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต จะมีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่ช่วงเวลาที่ใช้ กับสัดส่วนของเงินที่ใช้ เพราะหากมีการใช้เร็ว เศรษฐกิจก็จะยิ่งถูกกระตุ้นได้เร็ว ซึ่งหากมีการใช้ในส่วนไตรมาสที่ 4 จะกระตุ้นเศรษฐกิจปีนี้ได้เพียง 0.5% เท่านั้น จากเดิมหากใช้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 1-1.5% ส่วนวิธีการโอนเงิน แม้จะไม่ได้ใช้ แอฟเป๋าตัง ก็มองว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะเงินจะถึงมือประชาชนโดยตรง และมีกลไกตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริต มีเพียงปัญหาการใช้งานที่จะรองรับการใช้จ่ายจำนวนมากพร้อมกันได้หรือไม่อีกด้วย.-514-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]