รมว. คลังเปิดงานมหกรรมเทคโนโลยีประกันภัย

นนทบุรี 7 ต.ค.- รมว. คลังเปิดงานมหกรรมเทคโนโลยีประกันภัย “Thailand InsurTech Fair 2022” 7-9 ตุลาคม2565 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 6 ย้ำให้คปภ. ร่วมกับภาคธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยรูปแบบประกันภัยรายย่อยที่ทำให้ประชาชนในระดับฐานรากสามารถเข้าถึงระบบการประกันภัยได้อย่างเหมาะสม


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงานมหกรรมเทคโนโลยีประกันภัย“Thailand InsurTech Fair 2022” จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) โดยศูนย์ Center of InsurTech Thailand (CIT) ร่วมกับพันธมิตร สมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย และสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน ภายใต้แนวคิด  “Reshaping Insurance to the Multiverse of InsurTech for the Future ก้าวสู่จักรวาลแห่งเทคโนโลยีประกันภัยเพื่อโลกใหม่ไร้ขีดจํากัด” ระหว่างวันที่ 7-9 ตุลาคม 2565 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 6 และทางออนไลน์www.TIF2022.com 

นายอาคมได้มอบรางวัลมอบรางวัลประกันภัยดีเด่นครบวงจร ประจำปี 2565 (Prime Minister’s Insurance Awards 2022) แก่บริษัทประกันภัยและภาคส่วนต่างๆ ที่มีส่วนสนับสนุนกิจการด้านประกันภัย จากนั้นกล่าวปาฐกถาตอนหนึ่งว่า เศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญต่อความท้าทายในระยะปานกลางถึงยาว กระทรวงการคลังจึงตั้งเป้าหมายของแผนปฏิบัติราชการเพื่อสร้างและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการสร้างโอกาสและความเสมอภาคในสังคม ซึ่งระบบการประกันภัยจะเข้าไปมีบทบาทสำคัญในหลายๆ ประเด็น 


– ประเด็นแรกคือ การสร้างความสามารถในการ “ล้มแล้ว ลุกไว” ซึ่งระบบการประกันภัยจะมีบทบาทสำคัญในฐานะตัวเร่งให้เกิด เพราะการประกันภัยถือเป็นเครื่องมือทางการเงินในการบริหารจัดการความเสี่ยงที่พร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนต่างๆ 

– ประเด็นที่สองคือ การสร้างการเติบโตอย่างมีส่วนร่วมบนพื้นฐานของแนวคิด “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ซึ่งสำนักงาน คปภ. และภาคธุรกิจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ทำให้ประชาชนในระดับฐานรากสามารถเข้าถึงระบบการประกันภัยได้อย่างเหมาะสม ในรูปแบบผลิตภัณฑ์ประกันภัยเพื่อรายย่อย 

– ประเด็นที่สามคือ บทบาทของสำนักงาน คปภ. ซึ่งทำหน้าที่ได้อย่างครบถ้วนและรอบด้าน ทั้งในด้านการกำกับดูแลและส่งเสริมการเข้าถึงระบบประกันภัย การดูแลและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัยให้แก่ประชาชนโดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากอุตสาหกรรมประกันภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับประชาชนผู้เอาประกันภัย 


ทั้งนี้คาดหวังว่า ในระยะยาวสัดส่วนเบี้ยประกันภัยรับตรงต่อ GDP และสัดส่วนการถือครองกรมธรรม์ประกันภัยจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเพราะการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันภัยรับตรงจะยังมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผ่านการออมในรูปแบบของการประกันภัย ซึ่งเม็ดเงินเบี้ยประกันภัยรับตรงดังกล่าว จะสามารถส่งต่อในรูปแบบตัวทวีเพื่อกระตุ้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการลงทุนของภาคธุรกิจประกันภัยต่อไปต้องขอบคุณภาคธุรกิจประกันภัยที่ได้มีบทบาทสำคัญร่วมกับภาครัฐและสำนักงาน คปภ. เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนผ่านระบบการประกันภัย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนและพัฒนาระบบเศรษฐกิจให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน 

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(เลขาธิการ คปภ.) กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความตั้งใจของสำนักงาน คปภ. ร่วมกับภาคอุตสาหกรรมประกันภัย เพื่อให้วงการประกันภัยไทยเกิดการตื่นตัวและพร้อมเข้าสู่จักรวาลความก้าวหน้าของโลกเทคโนโลยีและนวัตกรรม  และสนับสนุนให้ประชาชนได้เข้าใจ เข้าถึง และใช้ระบบประกันภัยร่วมกับเทคโนโลยีที่จำเป็น เพื่อสร้างหลักประกันความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งสามารถตัดสินใจซื้อประกันภัยได้ตรงกับความต้องการและความเสี่ยงภัยของตนเองได้อย่างแท้จริงในราคาพิเศษลดสูงสุด 30% ตลอดงานนี้ โดยภายในงานจะได้พบกับกิจกรรมมากมาย ได้แก่

– การมอบรางวัลประกันภัยดีเด่นครบวงจร” (Prime Minister’s Insurance Awards) ซึ่งเป็นรางวัลเกียรติยศที่นายกรัฐมนตรี สลักชื่อให้เพื่อเป็นเกียรติกับรางวัลต่างๆ ได้แก่ รางวัลบริษัทประกันภัยดีเด่น ตัวแทน นายหน้าประกันภัยคุณภาพดีเด่น และยังมีการมอบรางวัลเพื่อเชิดชูเกียรติแก่ผู้ที่ทำคุณประโยชน์ให้กับสำนักงาน คปภ. และอุตสาหกรรมประกันภัยอีกด้วย

– การชมงานในรูปแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี รูปแบบ Hybrid ผสมผสานรูปแบบ online event และ onsite event ควบคู่กัน พร้อมสัมผัสกับกิจกรรม Interactive สุดตื่นตา ที่จะมอบทั้งความเพลิดเพลินและความรู้ด้านเทคโนโลยีประกันภัยภายในงาน

– การจัดนิทรรศการให้ความรู้ด้านการประกันภัย  ได้แก่ บูธของสำนักงาน คปภ. สมาคมด้านการประกันภัย  บริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันวินาศภัย ธนาคาร บริษัทนายหน้าประกันภัย  และบริษัท Tech Firm InsurTech Startup จากทั้งในและต่างประเทศ

– การสัมมนาเกี่ยวกับการประกันภัยและเทคโนโลยีการประกันภัยที่น่าสนใจ เพื่อเติมความรู้ด้านเทคโนโลยีประกันภัยจากเหล่าวิทยากรมากประสบการณ์ที่จะมาแชร์เทคนิค บทเรียน กับเส้นทางประกันภัยยุคดิจิทัล

– เข้าชมเทคโนโลยีประกันภัยสุดล้ำ จากเหล่า tech startup ที่จะมาโชว์นวัตกรรมใหม่ๆ ภายในส่วน InsurVese Zone

– การหารือและจับคู่ธุรกิจภายในงาน เพื่อการสร้างเครือข่าย Business Matching

– กิจกรรมสะสม TIF Point จากกิจกรรมสุดสนุกภายในงาน เพื่อแลกรับรางวัล e-Voucher จากร้านค้าชั้นนำ

– รับสิทธิ์ลุ้นของรางวัลต่างๆ โดยผู้ที่ซื้อกรมธรรม์ประกันภัย หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินภายในงานและผ่านทางออนไลน์ จะได้รับคูปองเพื่อชิงโชคของรางวัล อาทิ รถยนต์ไฟฟ้า EV – Ora Good Cat รวมทั้ง IT Gadget ต่าง ๆโทรศัพท์มือถือ Smart watch และอื่น ๆ อีกมากมายเมื่อท่านซื้อประกันตามเงื่อนไขที่กำหนด

นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. จะได้มีการออกประกาศนายทะเบียน เพื่อส่งเสริมให้มีการจำหน่ายกรมธรรม์ประกันภัยแบบใหม่และโปรโมชั่นพิเศษในช่วงการจัดงานดังกล่าวอีกด้วย

งาน THAILAND INSURTECH FAIR 2022 ระหว่างวันที่ 7-9 ตุลาคม 2565 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ฮอลล์6 และสามารถร่วมงานในรูปแบบ online ได้ที่เว็บไซต์ www.tif2022.com .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีการปิดด่านบ้านคลองลึก

สระแก้ว 13 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่สยบข่าวลือปิดด่านคลองลึก หลังชาวไทย-กัมพูชา ตื่นตระหนกแห่ข้ามฝั่ง จนเกิดความวุ่นวายหน้าด่าน ขณะฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากมีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย ว่าทางการจะมีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวในช่วงบ่าย ระหว่างเวลา 13.00-14.00 น. ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งเร่งรีบข้ามแดนและสอบถามข้อมูลกันอย่างจ้าละหวั่น โดยข่าวลือดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเดินทางข้ามแดนก่อนถึงช่วงเวลาที่เข้าใจกันว่าจะปิดด่าน ทำให้บรรยากาศหน้าด่านเต็มไปด้วยความตึงเครียดและสับสน ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่มีคำสั่งปิดด่าน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และย้ำชัดว่าเวลาการเปิด-ปิดด่านยังคงเป็นไปตามประกาศเดิมของกองกำลังบูรพา คือเปิด 08.00-16.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือคำสั่งใหม่ ฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงกัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองในฝั่งปอยเปตได้ดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมโยงกับฝั่งไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมข้อมูลและสื่อสารในพื้นที่ชายแดน ฝั่งกัมพูชาปิดด่านบ้านแหลมไม่แจ้งล่วงหน้าส่วนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 10.45 น. เกิดความวุ่นวาย หลังฝั่งกัมพูชา มีการปิดประตูด่านฝั่ง ต.บึงรัง […]

ผู้รอดชีวิตจากแอร์อินเดียเผยหนีออกทางประตูฉุกเฉินที่เสียหาย

นิวเดลี 13 มิ.ย. – ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 240 คน กล่าวว่า เขาเดินออกมาจากประตูฉุกเฉินที่พังเสียหาย หลังจากเครื่องบินชนเข้ากับหอพักวิทยาลัยแพทย์ในเมืองอาห์เมดาบัด นายราเมศ วิศวาศกุมาร ซึ่งตำรวจระบุว่า เขานั่งอยู่ที่นั่ง 11เอ (11A) ใกล้ประตูฉุกเฉิน และสามารถหนีรอดมาได้ทางช่องทางประตูฉุกเฉินที่ชำรุดเสียหาย เขาถูกบันทึกภาพไว้หลังเหตุเครื่องบินตกเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะกำลังเดินกะเผลกๆ อยู่บนถนนในสภาพเสื้อยืดเปื้อนเลือดและมีรอยฟกช้ำบนใบหน้า คลิปภาพชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียผู้นี้ที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ ถูกนำไปออกอากาศในสถานีข่าวเกือบทั้งหมดของอินเดีย หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ลำดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุตกหลังออกเดินทางจากสนามบินได้ไม่นาน นายวิศวาศกุมาร ให้สัมภาษณ์ขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลว่า เขาไม่อยากจะเชื่อว่ารอดชีวิตมาได้อย่างไร และคิดว่าต้องตายแน่ ๆ แต่พอเขาลืมตา เขาก็รู้สึกตัวว่ายังไม่ตาย และพยายามปลดเข็มขัดนิรภัย เพื่อออกจากที่นั่ง และพยายามหนีออกมาจากตัวเครื่องบิน นายวิศวาศกุมาร เล่าว่า เครื่องบินดูเหมือนจะหยุดนิ่งกลางอากาศเป็นเวลา 2-3 วินาที หลังจากที่ขึ้นบินไปในอากาศ และไฟในห้องโดยสารที่เป็นสีเขียวและสีขาวก็สว่างขึ้น เขารู้สึกได้ว่าแรงขับเคลื่อนของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น แต่แล้วเครื่องบินก็ชนเข้ากับหอพักด้วยความเร็ว แพทย์ระบุว่า นายวิศวาศกุมารไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงใด ๆ ในขณะที่เขากล่าวว่า เขาเดินออกจากจุดเครื่องบินตก โดยบาดเจ็บจากบาดแผลไฟไหม้ที่แขนซ้ายเท่านั้น นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี […]