กรุงเทพฯ 7 ต.ค.-อธิบดีกรมบัญชีกลางระบุเดินหน้าพัฒนาระบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-bidding เดิมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ และป้องกันความเสี่ยงในการรั่วไหลของข้อมูลการเสนอราคา
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยระหว่างการจัดงาน ครบรอบวันสถาปนา ปีที่ 132 ว่า มุ่งเดินหน้าปรับปรุงร่าง พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ในการเก็บเงินสำหรับการอุทธรณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ให้มีความคล่องตัวมากขึ้น นอกจากนี้กรมบัญชีกลางอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ หรือ New e-GP ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์หรือ e-bidding เดิม ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ และป้องกันความเสี่ยงในการรั่วไหลของข้อมูลการเสนอราคา
การปรับปรุงหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวติดเชื้อโควิด 19 โดยการปรับปรุงหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสำหรับกลุ่มโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง กำหนดอัตราเบิกจ่ายค่ายาสามารถประหยัดงบประมาณได้ไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาทต่อปี และยังมุ่งพัฒนาระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ หรือ New GFMIS Thai ซึ่งเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2565 โดยระบบดังกล่าวช่วยให้การเบิกเงินจากคลัง การรับเงิน จ่ายเงิน และนำเงินส่งคลัง ของหน่วยงานภาครัฐมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รองรับจำนวนผู้ใช้งานในระบบที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสามารถเชื่อมโยงกับระบบต่าง ๆ ได้มากขึ้น
การพัฒนาระบบบำเหน็จบำนาญและสวัสดิการรักษาพยาบาล หรือ Digital Pension ซึ่งเป็นการบูรณาการฐานข้อมูลภาครัฐของกรมบัญชีกลาง โดยเชื่อมโยงข้อมูลจากระบบจ่ายตรงเงินเดือนและค่าจ้างประจำ (e-Payroll) กับระบบสวัสดิการรักษาพยาบาล เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มีสิทธิรับเงินและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งพัฒนาMobile Application ชื่อว่า “Digital Pension” เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางการให้บริการแก่ผู้รับบำนาญ
สำหรับการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ ปี 2565 ขณะนี้สำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัด ยังคงให้บริการรับลงทะเบียนอย่างต่อเนื่อง ณ สำนักงานคลังจังหวัด โดยข้อมูล ณ วันที่ 5 ตุลาคม 2565 มีผู้มาลงทะเบียนแล้วจำนวน 20,389,795 ราย #CGD_Regulator .-สำนักข่าวไทย