กรุงเทพฯ2 ก.ย. – ก.พลังงาน ยืนยันค่าการตลาดเหมาะสม ล่าสุด กบน. ลดเงินชดเชยน้ำมันดีเซลลง 1.21 บาท/ลิตร เหลือ 2.92 บาท/ลิตร
นายสมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงสถานการณ์ค่าการตลาดน้ำมันว่า ยังอยู่ในกรอบที่กระทรวงพลังงานติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งแนวทางการพิจารณาค่าการตลาดอ้างอิงของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) นั้นจะพิจารณาในภาพรวมของน้ำมันทุกชนิด เนื่องจากสถานีบริการจำหน่ายน้ำมันหลายประเภท และจะพิจารณาเปรียบเทียบเป็นรายสัปดาห์ หรือรายเดือน หากเปรียบเทียบเป็นรายวันจะมีความคลาดเคลื่อน เนื่องจากราคาเนื้อน้ำมันมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงทุกวันตามราคาตลาดโลก
สำหรับค่าการตลาด คือ รายได้ของผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันที่ยังไม่ได้หักค่าดำเนินการ ค่าขนส่งน้ำมันจากคลังมาหน้าสถานีบริการ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าพนักงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเช่าที่ดิน ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ และค่าการตลาดของผู้ให้บริการแต่ละรายก็ไม่เท่ากัน ค่าการตลาดที่สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานเผยแพร่เป็นค่าการตลาดอ้างอิงที่มาจากการคำนวณเพื่อใช้ในการติดตามดูแลกรอบค่าการตลาด
ทั้งนี้ หากจะพิจารณาค่าการตลาดน้ำมัน ควรจะดูในภาพรวมของผลิตภัณฑ์ที่มีการจำหน่าย ทั้งน้ำมันเบนซินและดีเซล ทางภาครัฐได้มีการศึกษากรอบค่าการตลาดซึ่งควรอยู่ที่ 2 บาท และ +/- ได้ 0.40 บาทต่อลิตร ซึ่งหากพิจารณาค่าการตลาดเฉลี่ย 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา (26 ส.ค.-2 ก.ย. 65) ค่าการตลาดน้ำมันเฉลี่ยทุกประเภท ทั้งน้ำมันเบนซินและดีเซล จะอยู่ที่ 2.17 บาทต่อลิตร ซึ่งอยู่ในกรอบที่ภาครัฐกำหนด
สำหรับกรณีมีกระแสข่าวเกี่ยวกับค่าการตลาดน้ำมันดีเซลที่สูงนั้น ทางคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้ติดตามสถานการณ์ราคาอย่างต่อเนื่อง และมีการปรับลดเงินอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลลง ทำให้ค่าการตลาดอยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยที่ประชุม กบน. ในวันที่ 2 กันยายน 2565 ได้มีมติลดเงินชดเชยน้ำมันดีเซลลง 1.21 บาทต่อลิตร (เดิมชดเชย 4.13 บาท เป็น 2.92 บาทต่อลิตร)
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงของประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน พบว่าราคาประเทศไทยยังถือว่าไม่ได้อยู่ในระดับสูง.-สำนักข่าวไทย