ประชุม APEC ระดับสูงด้านเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตร 

กรุงเทพฯ 22 ส.ค.- “รมช. มนัญญา” เปิดประชุมหารือระดับสูงด้านเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตรซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมเอเปคที่ไทยเป็นเจ้าภาพ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรระบุ กรมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมย่อยนี้ โดยจะได้รับประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตรของสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปคโดยนำมาพัฒนาการผลิตสินค้าเกษตรเพื่อเพิ่มรายได้แก่เกษตรกรและสร้างความมั่นคงทางอาหาร


นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดการประชุมหารือระดับสูงด้านเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตร (HLPDAB) เอเปค (APEC High-Level Policy Dialogue on Agricultural Biotechnology: HLPDAB) ที่จัดขึ้น ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพมหานคร โดยกล่าวต้อนรับเจ้าหน้าที่ระดับสูงซึ่งเป็นผู้แทนประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมทั้งแบบออนไลน์และออนไซต์

รมช. มนัญญากล่าวว่า การประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกหรือ APEC ในปีพ.ศ.2565 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค โดยกรมวิชาการเกษตรเป็นเจ้าภาพประชมหารือระดับสูงด้านเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตรซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของประเทศไทย เรื่องการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ตลอดจนนำนโยบาย 3S ความปลอดภัย (Safety) มั่นคง (Security) และความยั่งยืน (Sustainability) มาปฏิรูปการเกษตรและระบบอาหารด้วยเทคโนโลยีชีวภาพด้านการเกษตร


นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าวถึงวัตถุประสงค์ว่า เพื่อให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงหรือผู้กำหนดนโยบายด้านเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตรของสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปคแลกเปลี่ยนข้อมูลความก้าวหน้าของการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ การพัฒนานโยบายสาธารณะเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตรซึ่งจะเป็นเครื่องมือในการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร สร้างรายได้ กระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ปกป้องสิ่งแวดล้อมบรรเทาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหารซึ่งจะมีประโยชน์ต่อประเทศไทยอย่างมากเนื่องจากต้องเร่งวิจัยและพัฒนาให้เท่าทันประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตร

สำหรับสาระสำคัญที่ประเทศไทยจะนำเสนอต่อที่ประชุมคือ “นโยบายตลาดนําการวิจัย” เพื่อนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาปฏิรูปภาคการเกษตร รวมถึงการสนับสนุนการวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพระดับสูงได้แก่ การใช้เทคโนโลยีปรับปรุงพันธุ์พืชสกุลกัญชา กัญชง และกระท่อมให้มีสารสำคัญสูงสำหรับใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และอุตสาหกรรมการพัฒนาพืชพันธุ์ใหม่เพื่อเพิ่มผลผลิต ปรับปรุงคุณภาพ ความทนทานโรค และสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปเช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง อ้อย ทุเรียน มันฝรั่ง และเห็ด การพัฒนาคุณภาพเมล็ดพันธุ์พืช การใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมการแปรรูปสินค้าเกษตรให้มีมูลค่าสูงและลดการสูญเสีย​อีกทั้งให้ความสำคัญเกี่ยวกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่สอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG รวมถึงการใช้เทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่อย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบเพื่อพัฒนาคุณภาพการผลิตทางการเกษตร ตลอดจนความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนสู่เป้าหมายความมั่นคงด้านอาหารในปี 2573 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทักษิณเหยียดผิว

“อังคณา” จี้ “ทักษิณ” ขอโทษ หลังปราศรัยเหยียดสีผิว-เชื้อชาติชาวแอฟริกัน

“อังคณา” จี้ “ทักษิณ” ขอโทษ หลังปราศรัยเหยียดสีผิว-เชื้อชาติชาวแอฟริกัน ชี้เสี่ยงทำประเทศไทยถูกนานาชาติตั้งคำถาม ขัดหลักการสิทธิมนุษยชน

ข่าวแนะนำ

จนท.นำตัว “ซิงซิง” ถึง กทม.แล้ว ขอบคุณรัฐบาลไทยช่วยเหลือ

เจ้าหน้าที่นำตัว “ซิงซิง” ดาราหนุ่มจีน วัย 32 ปี เดินทางถึงกองบินตำรวจ 3 ย่านดอนเมือง หลังพบตัวที่ฝั่งเมียนมา เจ้าตัวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การช่วยเหลือ พร้อมย้ำว่าปลอดภัยดี เผยรอยที่ขาคือปาน ไม่ใช่แผลจากการถูกทำร้าย

ยิงกระสุนยางสยบชายคลั่งทำร้ายภรรยา-จับลูก 5 ขวบ ขังในบ้าน

ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง สยบชายคลั่งซ้อมภรรยา และจับลูกวัย 5 ขวบ เป็นตัวประกันขังไว้ในบ้าน ขู่ตัดสายแก๊สฆ่ายกครัว

รับตัว “ซิงซิง” จากเมียนมากลับฝั่งไทยแล้ว

เจ้าหน้าที่รับตัว “ซิงซิง” นักแสดงจีน จากเมียนมาข้ามมาฝั่งไทยแล้ว หลังหายตัวลึกลับจนญาติแจ้งความที่จีน พบโผล่ที่ไทยและข้ามแดนไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษในเมียนมา ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำจุดประสงค์การข้ามแดน หลังไม่พบข้อบ่งชี้ถูกบังคับ โดยเจ้าตัวจ้างแท็กซี่จากสนามบินไปชายแดน อ.แม่สอด ด้วยตนเอง

พระราชพิธีสมมงคล

นายกฯ เชิญชวนประชาชนร่วมงาน “พระราชพิธีสมมงคล” 14 ม.ค.นี้

นายกฯ เชิญชวนประชาชนร่วมงาน “พระราชพิธีสมมงคล” 14 ม.ค.นี้ ทั่วประเทศ พร้อมเลื่อนประชุม ครม. สัปดาห์หน้า เป็นวันจันทร์ที่ 13 ม.ค. แทน