เตือน บ.ยาโปร่งใสเรื่องผลดีผลเสียวัคซีนโควิด

โตเกียว 20 ธ.ค.- ผู้บริหารทาเคดา บริษัทชีวเภสัชภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดในเอเชียของญี่ปุ่นเตือนบริษัทยาต่าง ๆ ต้องมีความโปร่งใสอย่างยิ่งเรื่องประโยชน์และความเสี่ยงของวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 นายคริสตอป เวเบอร์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของทาเคดา ซึ่งไม่ได้พัฒนาวัคซีนโควิด ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพีว่า จะต้องจัดการกับสถานการณ์นี้ด้วยความโปร่งใสอย่างยิ่งและให้ข้อมูลความรู้อย่างละเอียดในการใช้วัคซีน เพราะไม่มียาหรือวัคซีนขนานใดสมบูรณ์แบบ มักมีผลข้างเคียงบางอย่างอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม เขามองเห็นโอกาสว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 จะช่วยลดกระแสไม่มั่นใจและต่อต้านการฉีดวัคซีนทั่วไปที่กำลังเพิ่มขึ้นอยู่ในขณะนี้ได้ หลายประเทศฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่ประชาชนไม่รู้จัก แต่โควิด-19 เป็นโรคที่ทั้งโลกเห็นผลกระทบอยู่แล้ว จึงน่าจะช่วยให้คนเข้าใจการฉีดวัคซีนมากขึ้น ทาเคดาไม่ได้ผลิตวัคซีนโควิดเพราะประเมินแล้วว่า ไม่มีเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในการผลิต แต่ได้ทำสัญญากับหลายบริษัทเรื่องการจัดสรรในญี่ปุ่น และกำลังทดลองวิธีการรักษา เช่น ทำสัญญากับโมเดอร์นาของสหรัฐว่าจะนำเข้าวัคซีนโควิด-19 จำนวน 50 ล้านโดสตั้งแต่ต้นปีหน้า ทำสัญญากับโนวาแว็กซ์ของสหรัฐว่าจะผลิตและจัดสรรในญี่ปุ่นหากการทดลองทางคลินิกในขณะนี้ประสบความสำเร็จ ญี่ปุ่นมีผู้ป่วยโควิด-19 สะสมกว่า 197,000 คน เสียชีวิตกว่า 2,700 คน.-สำนักข่าวไทย

ชี้เหตุกัมพูชาไม่รีบร้อนเรื่องวัคซีนโควิดจีน

พนมเปญ 20 ธ.ค.- นักวิเคราะห์ชาวกัมพูชาวิเคราะห์เหตุผลที่นายกรัฐมนตรีฮุน เซนยังไม่รีบร้อนสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จากจีน นายกรัฐมนตรีฮุน เซนกล่าวเมื่อต้นสัปดาห์ว่า กัมพูชาจะสั่งซื้อวัคซีนผ่านโครงการโคแว็กซ์ (Covax) ที่สหประชาชาติให้การสนับสนุน โครงการนี้จะจัดสรรวัคซีนหลากหลายขนานให้แก่ประเทศรายได้น้อย 92 ประเทศ แต่ไม่รวมโคโรนาแวก (CoronaVac) ที่ผลิตโดยซิโนแวก ไบโอเทคของจีน ผู้นำกัมพูชากล่าวว่า จะไว้ใจและยอมรับเฉพาะวัคซีนที่องค์การอนามัยโลกอนุมัติ เพราะกัมพูชาไม่ใช่ถังขยะ ไม่ใช่สถานที่สำหรับทดลองวัคซีน อย่างไรก็ดี กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชาแถลงชี้แจงในวันต่อมาว่า กัมพูชาไม่ได้ประกาศว่าไม่ยอมรับวัคซีนจีน แต่จะสั่งซื้อเฉพาะวัคซีนที่องค์การอนามัยโลกอนุมัติเท่านั้น Sovinda Po นักวิจัยสถาบันเพื่อความร่วมมือและสันติภาพกัมพูชาวิเคราะห์ท่าทีของนายกรัฐนตรีฮุน เซนไว้สามเหตุผล เหตุผลแรกกัมพูชาไม่ได้ต้องการวัคซีนอย่างเร่งด่วนเพราะมีผู้ป่วยสะสมเพียง 362 คน และไม่มีผู้เสียชีวิตเลย แสดงว่าสามารถควบคุมการระบาดได้ดี ต่างจากอินโดนีเซียที่รับวัคซีนจีนชุดแรกไปแล้วตั้งแต่สัปดาห์ก่อนเพื่อเตรียมฉีดให้ประชาชนขนานใหญ่ ทั้งที่ทางการท้องถิ่นยังไม่อนุมัติเพราะมีผู้ป่วยสะสมกว่า 650,000 คน เหตุผลที่สองผู้นำกัมพูชาไม่ต้องการให้เกิดความผิดพลาดที่จะทำลายผลงานของรัฐบาลที่สามารถควบคุมการระบาด เหตุผลที่สามกัมพูชาต้องการส่งสัญญาณไปยังโลกตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐว่า กัมพูชาไม่ใช่ตัวแทนจีน จึงควรคิดทบทวนยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์กับกัมพูชาเสียใหม่.-สำนักข่าวไทย

คาดสภาสหรัฐจะลงมติมาตรการช่วยประชาชน

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- รัฐสภาสหรัฐมีแนวโน้มจะลงมติมาตรการช่วยเหลือชาวอเมริกันที่ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือโควิด-19 ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หลังจากสามารถขจัดอุปสรรคสำคัญ ขณะเดียวกันรัฐบาลจะหมดเงินงบประมาณใช้จ่ายในเที่ยงคืนวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ส.ว.ชัค ชูเมอร์ รัฐนิวยอร์กพรรคเดโมแครตและผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา กล่าวก่อนออกจากรัฐสภาว่า ใกล้จะบรรลุแล้ว คาดว่าสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะผ่านความเห็นชอบมาตรการในวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น คนสนิทเผยว่า ส.ว.ชูเมอร์ และ ส.ว.แพตทริก ทูมี รัฐเพนซิลเวเนียพรรครีพับลิกัน ตกลงกันในหลักการเรื่องลดบทบาทของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด (FED) ในการแทรกแซงเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากเจรจาเคร่งเครียดมาหลายวัน ทั้งสองฝ่ายจะร่างกฎหมายะสะท้อนโครงร่างตามข้อตกลง ซีเอ็นเอ็น (CNN) รายงานว่า ผู้นำในสภาทั้งสองคนต้องการเร่งผ่านมาตรการช่วยเหลือมูลค่า 900,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 26.88 ล้านล้านบาท) ประกอบด้วยการจ่ายสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ละ 300 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8,960 บาท) การจ่ายเงินให้ประชาชนโดยตรง 600 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 17,920 บาท) สินเชื่อธุรกิจขนาดเล็ก 330,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.85 ล้านล้านบาท) เงินช่วยเหลือโรงเรียนกว่า 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ […]

ยูเคยกเลิกแผนผ่อนคลายช่วงคริสต์มาส

ลอนดอน 20 ธ.ค.- สหราชอาณาจักรหรือยูเค (UK) ยกเลิกแผนผ่อนคลายระเบียบเข้มงวดเพื่อควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สำหรับช่วงคริสต์มาส ด้านองค์การอนามัยโลกกำลังประสานกับยูเคเรื่องไวรัสกลายพันธุ์ บรรษัทกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) รายงานว่า ตั้งแต่เที่ยงคืนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น จะใช้มาตรการจำกัดระดับสี่ในหลายพื้นที่ ห้ามประชาชนอยู่ภายในอาคารปิดกับคนนอกครอบครัว ไม่ต่างจากการปิดเมืองหรือล็อกดาวน์ทั้งประเทศเป็นครั้งที่สองจะมีผลกับทุกพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ที่ขณะนี้อยู่ภายใต้มาตรการจำกัดระดับสาม เช่น เคนต์ บักกิงแฮมเชอร์ รวมไปถึงกรุงลอนดอนทั้ง 32 เขตและภูมิภาคอีสต์ออฟอิงแลนด์ ส่วนพื้นที่อื่นในอังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ การผ่อนคลายระเบียบเข้มงวดช่วงคริสต์มาส 5 วันจะลดลงเหลือวันคริสต์มาสวันเดียว ขณะเดียวกันจะห้ามเดินทางทั่วทั้งประเทศในช่วงเทศกาลคริสต์มาสด้วย นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษประกาศเรื่องนี้หลังจากนักวิทยาศาสตร์แจ้งว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กำลังแพร่ระบาดเร็วมาก ขณะที่นางนิโกลา สเตอร์เจียน นายกรัฐมนตรีของสกอตแลนด์กล่าวว่า อยากจะดำเนินการให้เร็วกว่านี้เพื่อควบคุมไวรัสตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ การต้องมาแถลงเรื่องนี้ทำให้แธออยากร้องไห้ ด้านนายมาร์ก แดร็กฟอร์ด นายกรัฐมนตรีของเวลส์ประกาศว่า จะปิดประเทศตั้งแต่เที่ยงคืนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ส่วนไอร์แลนด์เหนือไม่เปลี่ยนแปลงมาตรการผ่อนคลายช่วงคริสต์มาสที่อนุญาตให้คนสังสรรค์กันได้ไม่เกิน 3 ครอบครัวระหว่างวันที่ 23-27 ธันวาคม และจะเริ่มล็อกดาวน์หกสัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม ด้านองค์การอนามัยโลกทวีตว่า ยูเคกำลังแบ่งปันข้อมูลจากผลการศึกษาที่กำลังดำเนินอยู่เรื่องไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ องค์การอนามัยโลกจะแจ้งความคืบหน้าให้สมาชิกและสาธารณชนทราบทันทีที่มีข้อมูลเพิ่มเติม ปัจจุบันยูเคมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 […]

โมเดอร์นาเผยซีดีซีแนะใช้วัคซีนโควิดกับผู้ใหญ่

เคมบริดจ์ 20 ธ.ค.- โมเดอร์นา บริษัทไบโอเทคโนโลยีอเมริกันเผยว่า คณะกรรมการที่ปรึกษาว่าด้วยการสร้างภูมิคุ้มกันของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐหรือซีดีซี (CDC) ลงมติให้ใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 กับผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โมเดอร์นาเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ว่า คณะกรรมการลงมติด้วยเสียงเอกฉันท์ 11 ต่อ 0 ให้ใช้วัคซีนกับผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป หนึ่งวันหลังจากสำนักงานอาหารและยาหรือเอฟดีเอ (FDA) อนุมัติให้ใช้วัคซีนของโมเดอร์นาเป็นการฉุกเฉิน นายสเตฟาน บองเซล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ (CEO) ระบุว่า คำแนะนำของคณะกรรมการเป็นอีกขั้นหนึ่งของความพยายามแก้ไขการแพร่ระบาดเลวร้ายนี้ด้วยวัคซีน วัคซีนของโมเดอร์นาเป็นวัคซีนโควิดขนานที่สองที่สหรัฐอนุมัติให้ใช้เป็นการฉุกเฉิน ตามหลังวัคซีนที่ไฟเซอร์ของสหรัฐพัฒนาร่วมกับไบโอเอ็นเทคของเยอรมนี เริ่มจัดสรรในสหรัฐแล้วตั้งแต่วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น คาดว่าสถานที่ฉีดวัคซีนกว่า 3,700 แห่งจะเริ่มได้รับและฉีดวัคซีนของโมเดอร์นาอย่างเร็วที่สุดในวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น.-สำนักข่าวไทย

ดัตช์ห้ามเที่ยวบินอังกฤษสกัดไวรัสกลายพันธุ์

กรุงเฮก 20 ธ.ค.- รัฐบาลเนเธอร์แลนด์สั่งห้ามเที่ยวบินโดยสารทั้งหมดที่เดินทางมาจากอังกฤษ หลังจากพบผู้ป่วยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่และติดเชื้อง่ายรายแรก เป็นสายพันธุ์เดียวกับที่ระบาดในอังกฤษ คำสั่งห้ามเที่ยวบินจากอังกฤษมีผลตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 12.00 น.วันนี้ตามเวลาในไทยไปจนถึงวันที่ 1 มกราคม หลังจากอังกฤษประกาศให้ประชาชนบางพื้นที่ของประเทศอยู่แต่ในบ้านเพื่อชะลอการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษเผยว่า ข้อมูลเบื้องต้นชี้ว่า ไวรัสที่กำลังระบาดในกรุงลอนดอนและตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษมีโอกาสแพร่เชื้อมากกว่าเดิมร้อยละ 70 กระทรวงสาธารณสุขเนเธอร์แลนด์แถลงว่า ไวรัสโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สายพันธุ์กลายพันธุ์กำลังระบาดในสหราชอาณาจักร ว่ากันว่าแพร่ระบาดได้ง่าย รวดเร็วและยากจะตรวจพบมากกว่าเดิม สถาบันสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมแห่งชาติจึงแนะนำว่า การจำกัดหรือควบคุมการเดินทางของผู้โดยสารน่าจะสามารถจำกัดไม่ให้เชื้อนี้เข้าประเทศได้มากที่สุด นอกจากนี้ผลการศึกษากับผู้ป่วยรายหนึ่งในเนเธอร์แลนด์เมื่อต้นเดือนนี้ยังพบเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดียวกับในสหราชอาณาจักรด้วย ผู้เชี่ยวชาญกำลังตรวจสอบว่า ผู้ป่วยรายนี้ติดเชื้อได้อย่างไร และผู้ป่วยรายอื่นเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ คณะรัฐบาลมีมติป้องกันด้วยการสั่งห้ามเที่ยวบินเข้าจากอังกฤษทั้งหมด และกำลังพิจารณารูปแบบการเดินทางอื่น ๆ อยู่ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น รัฐบาลจะหารือกับสมาชิกในสหภาพยุโรปในเร็ว ๆ นี้เรื่องจำกัดความเสี่ยงที่ไวรัสกลายพันธุ์ในอังกฤษจะเข้าประเทศ เนเธอร์แลนด์เองกำลังใช้มาตรการล็อกดาวน์นาน 5 สัปดาห์จนถึงกลางเดือนมกราคม ปิดโรงเรียนและร้านค้าที่ไม่จำเป็นทั้งหมดเพื่อชะลอการระบาด เพราะมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมกว่า 676,000 คน เสียชีวิตกว่า 10,400 คน.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้ป่วยโควิดใหม่ทำสถิติใหม่ไม่หยุด

โซล 20 ธ.ค.- เกาหลีใต้แจ้งวันนี้ว่า พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่ 1,097 คน เป็นสถิติสูงสุดครั้งใหม่ ครอบคลุมการระบาดในเรือนจำกรุงโซลที่มีผู้ป่วยใหม่ 185 คนด้วย ยอดผู้ป่วยใหม่ในเกาหลีใต้เกินวันละ 1,000 คนมาห้าวันติดกันแล้ว ผู้เชี่ยวชาญการแพทย์ตำหนิรัฐบาลว่า ล่าช้าในการใช้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมที่เข้มงวดยิ่งขึ้น สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี (KDCA) ระบุว่า ยอดผู้ป่วยใหม่ที่รายงานวันนี้แซงหน้าวันพุธที่ทำสถิติสูงสุดที่ 1,076 คน ผู้ป่วยใหม่ 1,072 คนเป็นการติดเชื้อในประเทศ อีก 25 คนเดินทางมาจากต่างประเทศ ยอดผู้ป่วยสะสมจนถึงเที่ยงคืนวันเสาร์อยู่ที่ 49,665 คน เสียชีวิต 674 คน เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมแจ้งว่า พบการระบาดใหญ่ในเรือนจำแห่งหนึ่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงโซล ผู้ต้องขัง 184 คน และคนทำงานคนหนึ่งติดเชื้อ ส่วนนายลี มยองบัค อดีตประธานาธิบดีที่ถูกจองจำในเรือนจำแห่งนี้ตามที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีทุจริต ผลตรวจเชื้อเป็นลบ ด้านสำนักข่าวยอนฮับของทางการรายงานว่า บ้านพักคนชราแห่งหนึ่งในเมืองชองจู ห่างจากกรุงโซลลงไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 113 กิโลเมตร พบผู้ป่วยโควิด 61 คน […]

โบโกฮารามอ้างลักพาตัวเด็ก 300 คนในไนจีเรีย

ไมดูกูรี 15 ธ.ค.- เทปบันทึกเสียงของชายคนหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นผู้นำกลุ่มโบโกฮารามในไนจีเรียระบุว่า ทางกลุ่มเป็นผู้ลักพาตัวนักเรียนชายกว่า 300 คนจากโรงเรียนชายล้วนแห่งหนึ่ง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว เทปเสียงดังกล่าวส่งถึงรอยเตอร์ผ่านแอปพลิเคชันวอตส์แอป ชายในเทปอ้างตัวว่าเป็นนายอาบูบาการ์ เชเกา ผู้นำกลุ่มโบโกฮาราม แต่ไม่มีสิ่งยืนยัน และอ้างว่าทางกลุ่มอยู่เบื้องหลังเหตุลักพาตัวนักเรียนชายในโรงเรียนวิทยาศาสตร์รัฐบาล เมืองคันคารา รัฐคัตซินา เพื่อส่งเสริมศาสนาอิสลามและไม่สนับสนุนพฤติกรรมที่ไม่เป็นอิสลาม เพราะการศึกษาแบบตะวันตกไม่ใช่ประเภทการศึกษาที่ได้รับอนุญาตจากพระเจ้าและพระศาสดา ทางการเผยว่า เด็กเรียนชายบางคนหลบหนีมาได้ แต่ยังหาตัวไม่พบอยู่ราว 320 คน โบโกฮารามที่ต้องการตั้งรัฐอิสลามก่อเหตุไม่สงบในไนจีเรียมาตั้งแต่ปี 2552 ทำให้มีคนล้มตายแล้วกว่า 30,000 คน แต่ไม่เคยอ้างตัวว่าก่อเหตุทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศมาก่อน กลุ่มนี้เคยลักพาตัวนักเรียนหญิงกว่า 200 คนจากโรงเรียนในเมืองชิบอก ทางตะวันออกเฉียงเหนือในปี 2557 จนถึงขณะนี้ยังไม่รู้ชะตากรรมราวครึ่งหนึ่ง เพราะได้รับการปล่อยตัวหรือหลบหนีออกมาได้เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

การบินห่วงความปลอดภัยเครื่องบินจอดไว้นาน

ซิดนีย์ 15 ธ.ค. – องค์การระหว่างประเทศ ผู้รับประกันภัย และผู้เชี่ยวชาญเตือนสายการบินต่าง ๆ ให้ระมัดระวังเป็นพิเศษในการนำเครื่องบินกลับมาขึ้นบินอีกครั้ง หลังถูกจอดทิ้งไว้เป็นเวลานานในช่วงที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ข้อมูลของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ระบุว่า ปีนี้มีเรื่องการจัดการย่ำแย่หรือขาดความสม่ำเสมอพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุของการลงจอดที่รุนแรงกว่าปกติ การลื่นไถลออกนอกทางวิ่ง และเครื่องบินชน ขณะที่หัวหน้าฝ่ายอุตสาหกรรมการบินทวีปเอเชียของเอออน บริษัทผู้ให้บริการจัดการความเสี่ยงชั้นนำของโลกตั้งข้อสงสัยว่า สายการบินได้ฝึกนักบินเป็นพิเศษในเรื่องการลงจอดหรือไม่ ด้านองค์การความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป (EASA) เผยว่า ได้รับรายงานเรื่องเครื่องบินที่ขึ้นบินครั้งแรกหลังจอดทิ้งไว้เป็นเวลานานมีปัญหาค่าความเร็วอากาศยานและค่าระดับความสูงเชื่อถือไม่ได้ ทำให้ต้องยกเลิกการบินขึ้นหรือนำเครื่องบินกลับมายังฐานปฏิบัติการ ปัญหาส่วนใหญ่ล้วนมีสาเหตุมาจากการตรวจไม่พบว่า มีรังแมลงอยู่ในอุปกรณ์วัดความเร็วลมที่อยู่ด้านหน้าอากาศยาน เป็นสาเหตุให้สายการบินเช่าเหมาลำแห่งหนึ่งของตุรกีตกหลังขึ้นสู่ท้องฟ้าเหนือสาธารณรัฐโดมินิกันได้ไม่นาน และทำให้ผู้โดยสาร 189 คนเสียชีวิตทั้งลำในปี 2539 องค์การความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรปเผยด้วยว่า ปัญหาที่พบในเครื่องบินที่ถูกจอดทิ้งไว้เป็นเวลานาน ได้แก่ เครื่องยนต์หยุดทำงานในระหว่างบินหลังพบปัญหาขัดข้องทางเทคนิค การปนเปื้อนในระบบน้ำมันเชื้อเพลิง แรงดันห้ามล้อที่ลดลง และแบตเตอรี่ฉุกเฉินเสื่อมประสิทธิภาพ ขณะที่ตัวแทนสมาพันธ์นักบินนานาชาติ (IFALPA) เน้นย้ำว่า นักบินจำเป็นต้องได้รับการประเมินตามความเป็นจริงเรื่องทักษะการบินและความมั่นใจก่อนกลับมาปฏิบัติการบิน. -สำนักข่าวไทย

นายกฯอังกฤษจะเยือนอินเดียหลังเบร็กซิต

ลอนดอน 15 ธ.ค.- นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษจะเยือนอินเดียในเดือนมกราคม เป็นการเยือนครั้งแรกตั้งแต่รับตำแหน่งและจะเป็นประเทศแรกหลังสหราชอาณาจักร (ยูเค) ออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือเบร็กซิตสิ้นเดือนนี้ จอห์นสันรับตำแหน่งตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีก่อน เขาต้องการส่งเสริม “ความเป็นอังกฤษระดับโลก” ตั้งแต่เบร็กซิตอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม และจะสิ้นสุดช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านในวันที่ 31 ธันวาคม ตั้งเป้ากระชับความสัมพันธ์กับประเทศต่าง ๆ นอกภูมิภาค และดึงดูดการลงทุนเข้าประเทศที่ถูกกระทบหนักจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ผู้นำอังกฤษวัย 56 ปีกล่าวว่า ยินดีอย่างยิ่งที่จะไปเยือนอินเดียในปีนี้ อันเป็นการเริ่มต้นปีที่น่าตื่นเต้นของอังกฤษระดับโลก และต้องการทำให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีก้าวหน้าขึ้นมากอย่างทันทีทันใดตามที่เขาและนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียเคยรับปากไว้ อินเดียในฐานะผู้มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกเป็นหุ้นส่วนที่ขาดไม่ได้สำหรับยูเคมากยิ่งขึ้น เพราะทั้งสองฝ่ายจะส่งเสริมการจ้างงานและการเติบโต เผชิญหน้ากับภัยคุกคามความมั่นคง และปกป้องโลกใบนี้ร่วมกัน ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษแถลงเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมพิธีสวนสนามเนื่องในวันสาธารณอินเดีย 26 มกราคมปีหน้าในกรุงนิวเดลีของอินเดีย.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำรัสเซียยินดี “ไบเดน” ชนะเลือกตั้ง

มอสโก 15 ธ.ค. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียแสดงความยินดีกับนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐที่คว้าชัยชนะจากการเลือกตั้ง หลังไบเดนชนะผลคะแนนคณะผู้เลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ทางการรัสเซียระบุในถ้อยแถลงโดยอ้างคำพูดของประธานาธิบดีปูตินว่า ผู้นำรัสเซียพร้อมที่จะติดต่อและทำงานร่วมกับไบเดน ทั้งยังอวยพรให้นายไบเดนประสบความสำเร็จในทุกด้าน และเชื่อมั่นในความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐที่มีความรับผิดชอบต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลก แม้ว่าทั้งสองประเทศจะมีความแตกต่างกัน แต่ก็จะช่วยกันแก้ไขปัญหาและเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ บนโลกใบนี้ได้ ก่อนหน้านี้ ทางการรัสเซียเคยระบุว่า จะรอฟังผลคะแนนเลือกตั้งของสหรัฐอย่างเป็นทางการก่อนที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง แม้ว่าผู้นำประเทศอื่น ๆ ร่วมแสดงความยินดีกับนายไบเดนเพียงไม่กี่วันหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งในวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา. -สำนักข่าวไทย

ร่าง กม.อียูตั้งค่าปรับก้อนโตกับ บ.ไฮเทค

บรัสเซลส์ 15 ธ.ค.- แหล่งข่าวเผยว่า ร่างกฎหมายใหม่ของสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) ที่จะเปิดเผยในวันนี้ อาจทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ต้องเผชิญกับค่าปรับจำนวนมหาศาล หรือถูกแบนจากตลาด หากกระทำการละเมิดกฎ คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปกำลังเตรียมเสนอร่างกฎหมายบริการดิจิทัล และกฎหมายตลาดดิจิทัล เพื่อกำหนดเงื่อนไขที่เข้มงวดกับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอินเทอร์เน็ตที่ทำธุรกิจใน 27 ชาติสมาชิกอียู แหล่งข่าวในอียูเปิดเผยว่า บริษัทไฮเทคอาจถูกปรับสูงสุดถึงร้อยละ 10 ของรายได้ หากกระทำผิดระเบียบด้านการแข่งขัน และบริษัทใหญ่ที่สุดในโลกบางแห่งอาจถูกแบนจากตลาดอียู หากละเมิดกฎหมายอย่างร้ายแรงและซ้ำซาก จนเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของพลเมืองยุโรป ร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งอาจปฏิวัติวิธีการทำธุรกิจของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนไลยี มีเป้าหมายเพื่อจัดการกับคำพูดที่แสดงความเกลียดชัง และการบิดเบือนข้อมูลออนไลน์ รวมทั้งยับยั้งไม่ให้บริษัทชั้นนำผูกขาดตลาด บริษัทใหญ่ๆ จะถูกกำหนดให้เป็น “ผู้เฝ้าประตู” หรือ เกตคีปเปอร์ ทางอินเทอร์เน็ต และต้องอยู่ภายใต้ข้อบังคับเฉพาะ เพื่อจำกัดการมีอำนาจเหนือตลาด ข้อกำหนดนี้จะครอบคลุมบริษัทยักษ์ใหญ่นับสิบแห่ง อาทิ กูเกิล เฟซบุ๊ก แอปเปิล แอมะซอน และไมโครซอฟท์ จุดประสงค์หลักของร่างกฎหมายใหม่นี้ต้องการปรับปรุงกฎหมายเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2547 ในสมัยที่บริษัทยักษ์ใหญ่ทางอินเทอร์เน็ตหลายแห่งในปัจจุบันยังไม่มีตัวตน หรือเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ.-สำนักข่าวไทย

1 566 567 568 569 570 607