ฝรั่งเศสเริ่มผ่อนคลายมาตรการข้อจำกัดเรื่องโควิด

ปารีส 2 ก.พ.- ฝรั่งเศสเริ่มผ่อนคลายมาตรการเพื่อจำกัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ตั้งแต่วันนี้ หวังให้ประชาชนดำเนินชีวิตง่ายขึ้น แม้เมื่อเดือนที่แล้วยังมียอดผู้ติดเชื้อทำสถิติสูงสุดก็ตาม นายกรัฐมนตรีฌอง กัสเต็กซ์ ของฝรั่งเศสประกาศเมื่อปลายเดือนมกราคมว่า จะผ่อนคลายมาตรการจำกัดเป็น 2 ระยะ โดยจะยกเลิกมาตรการส่วนใหญ่ได้ในเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากมีการใช้บัตรผ่านโควิดแบบใหม่ที่กำหนดให้ต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนเท่านั้นในการใช้บริการสาธารณะ ไม่สามารถใช้ผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบได้อีกต่อไป การผ่อนคลายระยะแรกที่เริ่มในวันนี้จะยกเลิกการบังคับสวมหน้ากากอนามัยในที่แจ้ง การจำกัดจำนวนคนในการชมคอนเสิร์ต การแข่งขันกีฬา และงานอื่น ๆ รวมทั้งไม่บังคับให้ทำงานจากบ้านอีกต่อไป ส่วนการผ่อนคลายระยะที่สองจะให้ไนต์คลับที่ถูกปิดตั้งแต่เดือนธันวาคมเปิดได้อีกครั้งในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ อนุญาตให้มีที่ยืนชมในคอนเสิร์ต การแข่งขันกีฬาและบาร์ อนุญาตให้ดื่มกินตามสนามกีฬา โรงภาพยนตร์ และรถโดยสารสาธารณะได้อีกครั้ง ทางการฝรั่งเศสไม่ได้ตั้งเงื่อนไขว่า จะผ่อนคลายมาตรการตามสถานการณ์ด้านสาธารณสุข และเห็นว่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนมีอันตรายน้อยกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ แม้ว่าแพร่เชื้อได้ง่ายกว่าก็ตาม โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า เห็นแนวโน้มผู้ติดเชื้อรายวันลดลง โดยเฉลี่ยที่ 322,256 คนเมื่อสัปดาห์ก่อน เทียบกับ 366,179 คนเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านั้น เป็นสัญญาณที่ทำให้มีกำลังใจอย่างยิ่ง แต่ทางการยังคงเฝ้าระวังอยู่.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมากรับมือพายุฤดูหนาว

ออสติน 2 ก.พ.- สายการบินจำนวนมากในสหรัฐยกเลิกเที่ยวบินรวมกันหลายร้อยเที่ยวบิน ขณะที่ผู้ว่าการรัฐขอให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน เนื่องจากพายุฤดูหนาวกำลังจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่เป็นวงกว้าง ด้วยการทำให้มีทั้งหิมะตกหนาและฝนเย็นจัด สภาพอากาศหนาวจัดที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่คืนวันอังคารตามเวลาสหรัฐ ทำให้ทางการต้องประกาศเตือนภัยตั้งแต่รัฐเวอร์มอนต์ ทางตะวันออก ลงไปทางถึงรัฐนิวเม็กซิโก ทางตะวันตกเฉียงใต้ หลังจากช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้วเกิดสภาพอากาศหนาวจัดในหลายพื้นที่ทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐ นักอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า สภาพอากาศเลวร้ายจะทำให้การเดินทางประสบปัญหาอย่างหนัก เว็บไซต์ไฟลต์อะแวร์รายงานว่า เที่ยวบินในสหรัฐที่กำหนดเดินทางในวันพุธถูกยกเลิกแล้วมากกว่า 1,000 เที่ยว กว่าครึ่งอยู่ในเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี ผู้ว่าการรัฐนี้ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว เช่นเดียวกับรัฐโอคลาโฮมาที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 7 วัน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐพยากรณ์ว่า หลายพื้นที่แถบเทือกเขาร็อกกีและเขตมิดเวสต์อาจมีหิมะตกสูง 6-12 นิ้วภายในเช้าวันพฤหัสบดี ส่วนรัฐมิชิแกนอาจมีหิมะตกสูง 8-14 นิ้ว นายกเทศมนตรีเมืองดีทรอยต์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของรัฐนี้สั่งการเจ้าหน้าที่เตรียมไถกวาดกองหิมะออกจากท้องถนน.-สำนักข่าวไทย

“ปูติน” กล่าวหาตะวันตกล่อลวงให้ทำสงครามในยูเครน

มอสโก 2 ก.พ.- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียกล่าวหาตะวันตกว่า จงใจจัดฉากเพื่อล่อลวงให้รัสเซียทำสงครามในยูเครน และเพิกเฉยต่อการที่รัสเซียกังวลเรื่องความมั่นคงเกี่ยวกับยูเครน ประธานาธิบดีปูตินแสดงความเห็นต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดวิกฤตขึ้นเมื่อเกือบ 6 สัปดาห์ก่อน โดยใช้การแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีฮังการีที่มาเยือนว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าความกังวลพื้นฐานของรัสเซียถูกเพิกเฉย ขอให้นึกถึงสิ่งที่อาจเป็นไปได้ในอนาคตเมื่อยูเครนเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต แล้วเริ่มใช้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อหาทางยึดคืนคาบสมุทรไครเมียที่รัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งในปี 2557 เท่ากับว่ารัสเซียจะต้องทำสงครามกับนาโตทั้งกลุ่ม มีใครคิดถึงเรื่องนี้หรือไม่ สำหรับเขาแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่มี ผู้นำรัสเซียซึ่งไม่ได้พูดถึงวิกฤตยูเครนต่อสาธารณะเลยนับตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคมปีก่อน ไม่แสดงท่าทีส่วนตัวใด ๆ โดยปล่อยให้นักการทูตของรัสเซียและตะวันตกเจรจากันหลายรอบ เขากล่าวว่า ความกังวลหลักของสหรัฐไม่ใช่ความมั่นคงของยูเครน แต่เป็นการล้อมกรอบรัสเซียโดยใช้ยูเครนเป็นเครื่องมือ จากนั้นอาจจะดึงรัสเซียให้พัวพันกับความขัดแย้งทางอาวุธ และใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างรุนแรงโดยได้รับความช่วยเหลือจากพันธมิตรในยุโรป ด้านนายกรัฐมนตรีวิกตอร์ ออร์บานของฮังการีกล่าวว่า หลังจากที่ได้พูดคุยกับผู้นำรัสเซียแล้วเขามีความมั่นใจว่า จุดยืนที่แตกต่างกันอยู่ในขณะนี้สามารถประนีประนอมกันได้ และมีความเป็นไปได้ที่จะลงนามข้อตกลงที่จะรับรองสันติภาพ รับรองความมั่นคงของรัสเซีย และเป็นที่ยอมรับของสมาชิกนาโตที่ฮังการีรวมอยู่ด้วย.-สำนักข่าวไทย

จีนขอให้แก้ปัญหายูเครนด้วยการทูตแบบเงียบ ๆ

สหประชาชาติ 1 ก.พ.- เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติหรือยูเอ็น ขอให้ทุกฝ่ายใช้การทูตแบบเงียบ ๆ แทนการทูตแบบป่าวประกาศในการแก้ไขสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างยูเครนกับรัสเซีย เว็บไซต์ซีจีทีเอ็น (CGTN) ของทางการจีนรายงานว่า จีนและรัสเซียลงมติเมื่อวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ คัดค้านการเดินหน้าประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) ว่าด้วยเรื่องยูเครนตามคำขอของสหรัฐ แต่สมาชิกอีก 10 ชาติจากทั้งหมด 15 ชาติลงมติให้ประชุมต่อไป นายจาง จุน ผู้แทนถาวรจีนประจำยูเอ็นกล่าวว่า ในขณะที่ทุกฝ่ายกำลังให้ความสนใจว่าอะไรเป็นสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เกิดความตึงเครียดเรื่องยูเครน แต่บางประเทศนำโดยสหรัฐกลับกล่าวอ้างว่า กำลังจะเกิดสงครามในยูเครน ทั้งที่รัสเซียย้ำมาโดยตลอดว่า ไม่คิดจะใช้ปฏิบัติการทางทหาร และยูเครนก็ประกาศชัดเจนว่า ไม่ต้องการให้เกิดสงคราม แล้วเหตุใดประเทศเหล่านั้นจึงยืนกรานว่าจะเกิดสงคราม ผู้แทนจีนกล่าวว่า สหรัฐ ยูเครน และประเทศยุโรปที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต มีการติดต่อทางการทูตหลากหลายรูปแบบกับรัสเซีย จึงควรมุ่งมั่นแก้ไขความเห็นต่างผ่านการเจรจา สิ่งจำเป็นเร่งด่วนในขณะนี้คือ การทูตแบบเงียบ ๆ ไม่ใช่การทูตแบบป่าวประกาศ จีนยังคงยืนหยัดจุดยืนเดิมในเรื่องยูเครน นั่นคือ การกลับไปยังจุดเริ่มต้นเรื่องการปฏิบัติตามข้อตกลงมินสก์ฉบับใหม่ เพราะยูเอ็นเอสซีได้ให้การรับรองแล้ว จึงถือเป็นเอกสารทางการเมืองพื้นฐานที่มีผลผูกพันเพราะได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย.-สำนักข่าวไทย

เวียดนามจะเปิดประเทศมากขึ้นหลังปีใหม่เวียดนาม

ฮานอย 1 ก.พ.- เวียดนามเตรียมตัวเปิดประเทศมากขึ้น หลังจากผ่านพ้นเทศกาลเท็ต (Tet) ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ของเวียดนามที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ เว็บไซต์เวียดนามเอ็กซ์เพรสส์อินเตอร์เนชันแนลรายงานว่า เวียดนามเริ่มเปิดธุรกิจการบิน การท่องเที่ยวและการศึกษาอีกครั้ง หลังจากใช้มาตรการจำกัดมาเกือบ 2 ปีเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สำนักงานการบินพลเรือนของเวียดนามได้ฟื้นเที่ยวบินไปกลับกับกรุงเทพฯ ของไทย กรุงโตเกียวของญี่ปุ่น กรุงไทเปของไต้หวัน กรุงโซลของเกาหลีใต้ กรุงเวียงจันทน์ของ สปป. ลาว กรุงพนมเปญของกัมพูชา สิงคโปร์ นครซานฟรานซิสโกและนครลอสแอนเจลิสของสหรัฐ ขณะนี้กำลังเตรียมฟื้นเที่ยวบินไปออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนี รายงานระบุด้วยว่า เวียดนามเตรียมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มตัวในวันที่ 31 มีนาคม เพราะเชื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้นผู้ใหญ่ชาวเวียดนามทั้งหมดจะฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันแล้ว ชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าเวียดนามต้องมีประกันสุขภาพสำหรับรักษาโควิดในวงเงินไม่ต่ำกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ไม่ต่ำกว่า 1.66 ล้านบาท) ต้องมีผลตรวจหาเชื้อแบบพีซีอาร์ (PCR) เป็นลบ แต่ไม่ต้องตรวจแบบเอทีเค (ATK) เมื่อมาถึงท่าอากาศยานอีกต่อไป ผู้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วหรือเพิ่งหายจากโควิดต้องกักตัวที่บ้านเป็นเวลา 3 วัน ส่วนผู้ยังฉีดวัคซีนไม่ครบต้องกักตัว 7 วัน.-สำนักข่าวไทย

เดนมาร์กยกเลิกมาตรการจำกัดโควิดเป็นประเทศแรกในอียู

โคเปนเฮเกน 1 ก.พ.- เดนมาร์กประกาศยกเลิกมาตรการทั้งหมดที่ใช้จำกัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 นับเป็นประเทศแรกในสหภาพยุโรปหรืออียู (EU) แม้ยังคงมีผู้ติดเชื้อรายวันจำนวนมาก เดนมาร์กเคยยกเลิกมาตรการที่เป็นข้อจำกัดทั้งหมดครั้งแรกช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายนปีก่อน ล่าสุดกลับมายกเลิกอีกครั้งตั้งแต่วันนี้ ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย การใช้บัตรผ่านโควิด การจำกัดเวลาเปิดบาร์และร้านอาหาร และการจำกัดจำนวนคนรวมกลุ่มในที่ปิด แต่ยังคงมาตรการจำกัดกับผู้ยังไม่ฉีดวัคซีนที่เดินทางมาจากประเทศนอกเขตเชงเกน เดนมาร์กยกเลิกมาตรการจำกัดทั้งหมด แม้ว่ายอดติดเชื้อรายใหม่สูงถึงวันละ 40,000-50,000 คน คิดเป็นเกือบร้อยละ 1 ของประชากร 5 ล้าน 8 แสนคน มียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 1 ล้าน 6 แสน 6 หมื่นคน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 3,700 คน นักระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยรอสกิลด์ในเดนมาร์กเผยว่า เดนมาร์กมีผู้ใหญ่ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันในอัตราสูงมาก โดยฉีดไปแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 เร็วกว่าเป้าหมายที่ทางการกำหนดไว้ถึง 1 เดือน และมากกว่าอัตราเฉลี่ยของอียูที่มีไม่ถึงร้อยละ 45 ประกอบกับสาธารณสุขคาดว่า หากรวมกับผู้ที่เพิ่งติดเชื้อแล้ว เดนมาร์กจะมีผู้มีภูมิคุ้มกันโรคโควิดที่มีอาการรุนแรงรวมกันราวร้อยละ 80 ดังนั้นในเมื่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนไม่ทำให้ผู้ฉีดวัคซีนแล้วมีอาการรุนแรง จึงมองว่าเป็นเรื่องสมเหตุผลที่จะยกเลิกมาตรการจำกัดทั้งหมด นอกจากนี้การที่เชื้อโอไมครอนแพร่ไปในวงกว้างน่าจะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ที่อยู่ได้นาน ช่วยให้เดนมาร์กสกัดการระบาดระลอกใหม่ได้ […]

จีนชี้ยอดติดโควิดในโอลิมปิกอยู่ในระดับคุมได้

ปักกิ่ง 1 ก.พ.- เจ้าหน้าที่สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคระบาดในโอลิมปิกของจีนเผยว่า สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในโอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง 2022 อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ตามที่คาดหมาย แม้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นก็ตาม เจ้าหน้าที่เผยว่า คณะกรรมการจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง 2022 แจ้งพบผู้ติดเชื้อแล้ว 200 คนนับจากวันที่ 23 มกราคม มีทั้งผู้ที่เดินทางมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่งและผู้ที่อยู่ในพื้นที่ปิดซึ่งแยกผู้เกี่ยวข้องกับการแข่งขันออกจากสาธารณชน ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเพราะมีคนทยอยเดินทางมาร่วมการแข่งขันเพิ่มขึ้น ประกอบกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรใช้เทคนิคการตรวจที่มีประสิทธิภาพและแม่นยำมากกว่าเดิม สถานการณ์การติดเชื้อในขณะนี้ถือว่าอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ตามที่คาดหมาย ขอให้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันและประชาชนจีนไม่ต้องกังวล ขณะนี้คณะกรรมการจัดการแข่งขันยังไม่คิดปรับเปลี่ยนนโยบายควบคุมการระบาดแต่อย่างใด ส่วนเมื่อวานนี้พบผู้เกี่ยวข้องกับการแข่งขันติดเชื้อรายใหม่ 24 คน ในจำนวนนี้ 16 คนเป็นนักกีฬา นักกีฬาที่มีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกเมื่อเดินทางมาถึงท่าอากาศยานปักกิ่ง หลายคนถูกตัดออกจากการแข่งขันที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-20 กุมภาพันธ์ ส่วนผู้ที่ไม่มีอาการจะถูกแยกกักโรค.-สำนักข่าวไทย

ผู้จัดโอลิมปิกฤดูหนาวหวังมีคนเข้าสนาม 30%

ปักกิ่ง 1 ก.พ.- คณะผู้จัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง 2022 คาดหวังว่า จะมีผู้เข้าชมการแข่งขันในสนามอย่างน้อยร้อยละ 30 ของความจุของแต่ละสนาม แม้ทางการจีนบังคับใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นายคริสตอฟ ดูบี ผู้อำนวยการบริหารการแข่งขันโอลิมปิกของคณะกรรมการโอลิมปิกสากลหรือไอโอซี (IOC) เผยว่า จำนวนผู้เข้าชมต้องปรับไปตามแต่ละสนามแข่งขัน และขึ้นกับว่าเป็นสนามในร่มหรือกลางแจ้ง หากมีคนดูได้ถึง 1 ใน 3 หรือ 2 ใน 3 ของสนามก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือมีคนดูในสนาม แม้คนจากต่างประเทศไม่สามารถเดินทางไปเชียร์นักกีฬาที่จีนได้ แต่ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในกรุงปักกิ่งยังคงมีโอกาสที่จะไปให้กำลังใจนักกีฬาจากประเทศบ้านเกิดของตนเองได้ คณะผู้จัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง 2022 ไม่ได้จำหน่ายตั๋วเข้าชมการแข่งขันที่จะมีพิธีเปิดในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ให้แก่ผู้อยู่ในจีน แต่กำลังแจกจ่ายไปยังกลุ่มต่าง ๆ อย่างเจาะจง โดยได้แจ้งตั้งแต่เดือนกันยายนปีก่อนแล้วว่า จะไม่มีผู้ชมที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ส่วนผู้ที่ได้รับตั๋วแจกจะต้องปฏิบัติตามมาตรการจำกัดการระบาดอย่างเคร่งครัดทั้งก่อน ระหว่าง และหลังเข้าชมการแข่งขัน.-สำนักข่าวไทย

ชาวเมียนมาไม่หวั่นถูกจับเคลื่อนไหวครบหนึ่งปีรัฐประหาร

ย่างกุ้ง 1 ก.พ.- กลุ่มนักเคลื่อนไหวชาวเมียนมาจะเดินหน้าการผละงาน เนื่องในวันครบรอบ 1 ปีที่กองทัพรัฐประหารยึดอำนาจ แม้ว่ารัฐบาลทหารขู่จะจับกุมผู้เข้าร่วมการผละงานก็ตาม กลุ่มนักเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ชาวเมียนมา “ประท้วงเงียบ” ด้วยการหยุดอยู่บ้านและธุรกิจปิดทำการในวันนี้ นักเคลื่อนไหวคนหนึ่งประกาศว่า จะเคลื่อนไหวต่อไปแม้อาจถูกจับกุมและคุมขังตลอดชีวิต หรืออาจถูกทรมานและสังหาร ด้วยหวังว่าการผละงานจะส่งสารแสดงการต่อต้านไปถึงรัฐบาลทหาร เมืองมิตจีนาในรัฐกะฉิ่นทางเหนือของเมียนมาได้ติดป้ายประกาศลงนามโดยกองทัพ เตือนชาวเมืองอย่าเข้าร่วมการประท้วงเงียบ ไม่เช่นนั้นจะถูกจำคุกสูงสุด 20 ปี ขณะที่สื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ภาพบรรยากาศในเมืองดังกล่าวที่ถนนร้างผู้คน และภาพกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนไม่มากในนครย่างกุ้งราดสีแดงบนพื้นถนน หนังสือพิมพ์อิรวดีไทมส์รายงานว่า มีคนถูกจับกุมแล้วอย่างน้อย 4 คนในเมืองพะสิม ทางตอนกลางของประเทศ โทษฐานยุยงให้คนประท้วงเงียบ หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมาของทางการเมียนมารายงานว่า พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ ซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาลตั้งแต่รัฐประหารได้ขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก 6 เดือนเพื่อปูทางให้มีการเลือกตั้งตามที่รับปากไว้ และรัฐบาลจะจัดการเลือกตั้งทันทีที่มีสันติภาพและเสถียรภาพ แต่ไม่ได้กำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจน รายงานระบุว่า ผู้นำเมียนมากล่าวถึงภัยจากผู้ก่อวินาศกรรมทั้งในและนอกประเทศ รวมถึงการก่อการร้ายและการบ่อนทำลายว่า รัฐบาลจำเป็นต้องกำหนดเส้นทางที่ถูกต้องเพื่อให้ประเทศมีระบอบประชาธิปไตยแบบหลายพรรคที่เป็นระเบียบและแท้จริง.-สำนักข่าวไทย

FBI ชี้จีนเป็นภัยต่อตะวันตกมากกว่าที่ผ่านมา

วอชิงตัน 1 ก.พ.- สำนักสอบสวนกลางของสหรัฐหรือเอฟบีไอ (FBI) ระบุว่า รัฐบาลจีนกำลังเป็นภัยคุกคามต่อชาติตะวันตกอย่างโจ่งแจ้งและสร้างความเสียหายมากกว่าที่ผ่านมา พร้อมกับกล่าวหาจีนว่า ขโมยความคิดและนวัตกรรมของชาวอเมริกัน รวมทั้งเจาะระบบคอมพิวเตอร์อย่างมโหฬาร นายคริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอกล่าวปาฐกถาที่ห้องสมุดประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนว่า เมื่อพิจารณาจากเรื่องที่เอฟบีไอได้ดำเนินการสอบสวนจะพบว่า มากกว่า 2,000 เรื่องเป็นการสอบสวนเรื่องรัฐบาลจีนพยายามขโมยข้อมูลหรือเทคโนโลยีของสหรัฐ ขณะนี้ไม่มีประเทศใดที่เป็นภัยคุกคามต่อความคิด นวัตกรรม และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของสหรัฐมากไปกว่าจีนอีกแล้ว เอฟบีไอต้องเปิดการสอบสวนใหม่ ๆ เพื่อต่อต้านปฏิบัติการข่าวกรองของจีนทุก 12 ชั่วโมง เพราะกลุ่มแฮกเกอร์ของรัฐบาลจีนขโมยข้อมูลส่วนบุคคลและบริษัทของสหรัฐมากกว่าแฮกเกอร์ของประเทศอื่นรวมกัน ผู้อำนวยการเอฟบีไอกล่าวว่า ภัยจากการก่อวินาศกรรมทางเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนไม่เพียงทำให้บริษัทจีนแซงหน้าด้วยเทคโนโลยีที่ขโมยมา แต่ยังทำให้ธุรกิจอเมริกันแข่งขันไม่ได้และผู้คนตกงาน เป็นภัยสะสมมาร่วมทศวรรษที่ส่งผลอยู่ในขณะนี้ ก่อความเสียหายไปทั่วประเทศและทุกอุตสาหกรรม เขาพูดเรื่องนี้มาตั้งแต่รับตำแหน่งในปี 2560 และต้องการย้ำอีกครั้งเพราะภัยดังกล่าวมาถึงจุดที่โจ่งแจ้งและสร้างความเสียหายมากกว่าที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

เปรูห้ามบริษัทสเปนขนถ่ายน้ำมันชั่วคราวหลังน้ำมันรั่วใหญ่

ลิมา 1 ก.พ.- รัฐบาลเปรูจะห้ามเรปโซล บริษัทพลังงานรายใหญ่ของสเปนขนถ่ายน้ำมันนอกชายฝั่งเป็นการชั่วคราว หลังจากเกิดเหตุสึนามิซัดเรือที่กำลังขนถ่ายน้ำมันที่โรงกลั่น ทำให้น้ำมันรั่วไหลมากกว่า 10,000 บาร์เรล (มากกว่า 1.6 ล้านลิตร) สร้างความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมเป็นวงกว้าง นายรูเบน รามิเรซ รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมเปรูกล่าวว่า รัฐบาลจะระงับการขนถ่ายน้ำมันของเรปโซล จนกว่าบริษัทจะสามารถให้การรับรองทางเทคนิคว่าจะไม่เกิดการรั่วไหลขึ้นอีก และจนถึงขณะนี้บริษัทยังไม่ได้ดำเนินการอย่างชัดเจนเรื่องการทำความสะอาดคราบน้ำมัน ด้านเรปโซลแถลงว่า บริษัทเห็นว่าการตัดสินใจของรัฐบาลเปรูเป็นเรื่องไม่เหมาะสมและไร้เหตุผล บริษัทจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดการขาดแคลนผลิตภัณฑ์น้ำมันที่จำเป็น โรงกลั่นน้ำมันลาปัมปิญญาของเรปโซลเป็นโรงกลั่นใหญ่ที่สุดในเปรู ครองส่วนแบ่งตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงในเปรูมากถึงร้อยละ 40 รัฐบาลเปรูระบุว่า มีน้ำมันรั่วไหล 11,900 บาร์เรล (ราว 1.9 ล้านลิตร) หลังเกิดสึนามิซัดเรือที่กำลังขนถ่ายน้ำมันที่โรงกลั่น ตามหลังเหตุภูเขาไฟใต้น้ำระเบิดใกล้ตองกาเมื่อกลางเดือนมกราคม ขณะที่บริษัทแย้งว่า มีรั่วไหว 10,396 บาร์เรล (ราว 1.66 ล้านลิตร) และสามารถทำความสะอาดได้แล้วร้อยละ 35 คาดว่าต้องใช้เวลาจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์จึงจะทำความสะอาดคราบน้ำมันแล้วเสร็จ นายกรัฐมนตรีมีร์ธา วาสเกซ ของเปรูที่ประกาศลาออกเมื่อวานนี้เผยว่า รัฐบาลกำลังดำเนินการฟ้องร้องเรปโซลข้อหาก่อภัยพิบัติด้านสิ่งแวดล้อมอย่างร้ายแรง หวังว่าการฟ้องร้องจะดำเนินต่อไป ด้านอัยการเปรูกำลังพิจารณาตั้งข้อหาอาญากับคณะผู้บริหารของบริษัท และศาลได้สั่งห้ามผู้บริหาร 4 คนเดินทางออกจากเปรูเป็นเวลา 18 เดือนตามที่อัยการร้องขอ.-สำนักข่าวไทย

ยูเออีสกัดจรวดกลุ่มกบฏฮูธีครั้งที่ 3 แล้วในเดือนนี้

ดูไบ 31 ม.ค.- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี (UAE) ยิงสกัดขีปนาวุธทิ้งตัวที่ยิงโดยกลุ่มกบฏฮูธีในเยเมนได้ในเช้าวันนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 แล้วในเดือนนี้ และตรงกับช่วงที่ประธานาธิบดีอิสราเอลกำลังเยือนยูเออีอย่างเป็นทางการ สำนักข่าวของทางการยูเออีรายงานอ้างกระทรวงกลาโหมแถลงว่า กองทัพอากาศยิงสกัดและทำลายขีปนาวุธทิ้งตัวที่กลุ่มกบฏฮูธียิงโจมตี โดยไม่มีประชาชนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากเศษขีปนาวุธตกนอกพื้นที่ที่มีประชาชนอาศัยอยู่ จากนั้นได้ตอบโต้กลับด้วยการยิงถล่มฐานยิงขีปนาวุธของกลุ่มกบฏฮูธีในเขตอัลจอฟ ทางเหนือของเยเมน พร้อมกับเผยแพร่คลิปภาพขาวดำเห็นการระเบิดและกลุ่มควันดำโขมง กลุ่มกบฏฮูธีโจมตียูเออีครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 มกราคมด้วยการใช้โดรนและขีปนาวุธเล็งเป้าหมายโรงกลั่นน้ำมัน ทำให้คนงานเสียชีวิต 3 คน จากนั้นโจมตีครั้งที่ 2 ในอีก 1 สัปดาห์ต่อมา แต่ถูกยูเออียิงสกัดไว้ได้ ส่วนการโจมตีล่าสุดในเช้าวันนี้มีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีอิซฮาก เฮอร์โซก ของอิสราเอลเดินทางถึงยูเออีเมื่อวานนี้ นับเป็นประมุขคนแรกของอิสราเอลที่เยือนยูเออี หลังจากทั้งสองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ในระดับปกติในปี 2563 ทำเนียบประธานาธิบดีอิสราเอลแถลงว่า การเยือนยูเออีจะดำเนินต่อไปตามกำหนด.-สำนักข่าวไทย

1 487 488 489 490 491 612