fbpx

ชี้จีนเดินหน้าขยายคลังแสงนิวเคลียร์ครั้งใหญ่ที่สุด

ฮ่องกง 26 เม.ย. – ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าจีนกำลังเดินหน้าขยายคลังแสงนิวเคลียร์ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และปรับปรุงระบบป้องปรามนิวเคลียร์ในกรณีที่เกิดความขัดแย้งในอนาคตกับสหรัฐ สถาบันวิจัยสันติภาพสากลสตอกโฮล์ม (SIPRI) ประเมินว่า จีนมีหัวรบนิวเคลียร์ประมาณ 350 ลูก ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับที่สหรัฐและรัสเซียมีอยู่ แต่รายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐประเมินเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ว่าคลังแสงนิวเคลียร์ของจีนกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว และอาจเพิ่มเป็น 1,500 หัวรบ ภายในปี 2578 เอเอฟพีระบุว่า นับตั้งแต่จีนทดสอบนิวเคลียร์ครั้งแรกในปี 2507 จีนได้แสดงท่าทีว่าต้องการมีคลังแสงนิวเคลียร์ในขนาดปานกลาง และยืนยันว่าจะไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ก่อนในกรณีที่เกิดความขัดแย้ง แต่ในช่วงหลายปีมานี้จีนภายใต้การปกครองของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เริ่มปรับปรุงกองทัพขนานใหญ่ เช่น ยกระดับอาวุธนิวเคลียร์ให้นอกเหนือจากการป้องปรามศัตรู เป็นสามารถตอบโต้การโจมตีในกรณีที่การป้องปรามล้มเหลว เดวิด โลแกน จากวิทยาลัยการทัพเรือสหรัฐ ชี้ว่า จีนกำลังเดินหน้าขยายและปรับปรุงกองกำลังนิวเคลียร์ครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ โดยไม่เพียงแต่เพิ่มกำลังผลิตหัวรบนิวเคลียร์ แต่ยังยกระดับความสามารถในการยิงหัวรบนิวเคลียร์ผ่าน 3 ช่องทาง คือ ขีปนาวุธ เครื่องบิน และเรือดำน้ำ นักยุทธศาสตร์ของจีนกังวลเรื่องสหรัฐอาจชิงโจมตีกองกำลังนิวเคลียร์ของจีนเพื่อเป็นการปลดอาวุธจีนก่อน การสั่งสมหัวรบนิวเคลียร์จึงน่าจะเป็นการสร้างหลักประกันว่าสหรัฐไม่สามารถกำจัดความสามารถของจีนในการป้องปรามนิวเคลียร์ ด้านอันกิต ปันดา จากมูลนิธิเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ มองว่า จีนคงประเมินแล้วว่าการมีกองกำลังนิวเคลียร์ที่ใหญ่ขึ้นจะทำให้สหรัฐไม่อยากเข้ามาเกี่ยวข้องในกรณีที่เกิดความขัดแย้งในอนาคตในช่องแคบไต้หวัน ขณะที่เอริก เฮกินโบธัม จากศูนย์นานาชาติศึกษาของเอ็มไอที […]

เรือนำพลเรือนเกือบ 1,700 ชีวิตออกจากซูดานถึงซาอุฯ แล้ว

เจดดาห์ 26 เม.ย.- ซาอุดีอาระเบียแจ้งว่า เรือที่นำพลเรือน 1,687 คนจากมากกว่า 50 ประเทศหนีความไม่สงบในซูดานได้เดินทางมาถึงซาอุดีอาระเบียแล้วในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น นับเป็นภารกิจกู้ภัยครั้งใหญ่ที่สุดของซาอุดีอาระเบีย กระทรวงต่างประเทศซาอุดีอาระเบียแถลงว่า พลเรือนกลุ่มนี้ได้รับการลำเลียงออกจากซูดานโดยเรือของซาอุดีอาระเบีย ประกอบด้วยชาวซาอุดีอาระเบีย 13 คน และคนจากหลายภูมิภาคทั้งตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป เอเชีย อเมริกาเหนือ อเมริกากลาง จนถึงขณะนี้ซาอุดีอาระเบียได้รับผู้อพยพออกจากซูดานหลายชุดแล้วทั้งทางอากาศและทางทะเลรวมทั้งหมด 2,148 คน ในจำนวนนี้มากกว่า 2,000 คนเป็นชาวต่างชาติ เริ่มจากเรือที่นำนักการทูตและเจ้าหน้าที่ต่างชาติประมาณ 150 คน เดินทางมาถึงเมืองเจดดาห์เมื่อวันเสาร์ ส่วนเมื่อวันจันทร์เครื่องบินลำเลียงซี-130 เฮอร์คิวลิสได้นำพลเมืองชาวเกาหลีใต้จำนวนหนึ่งมาถึงฐานทัพอากาศอับดุลลาห์ในเมืองเจดดาห์ และเรือที่นำคนเกือบ 200 คนจาก 14 ประเทศข้ามทะเลแดงมาจากเมืองพอร์ตซูดานของซูดาน กองกำลังที่ภักดีต่อนายพลอับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์มาน ผู้บัญชาการกองทัพและกองกำลังที่ภักดีต่อนายพลมูฮัมหมัด ฮัมดัน ดาโกล ผู้บัญชาการกองหนุนเคลื่อนที่เร็วหรืออาร์เอสเอฟ (RSF) ที่เป็นกองกำลังกึ่งทหาร สู้รบกันตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน มีผู้เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 459 คน บาดเจ็บมากกว่า 4,000 […]

สหรัฐ-ฟิลิปปินส์ซ้อมระดมยิงเรือรบในทะเลจีนใต้

สหรัฐและฟิลิปปินส์ระดมยิงใส่เรือรบที่จำลองว่าเป็นเรือศัตรูในทะเลจีนใต้ในวันนี้ อันเป็นช่วงสุดท้ายของการฝึกซ้อมทางทหารที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และเป็นครั้งแรกที่ทั้ง 2 ประเทศนี้ซ้อมด้วยกระสุนจริงในทะเลจีนใต้

ยูเอ็นประณามการสู้รบในซูดานที่โจมตีพลเรือน

สหประชาชาติ 26 เม.ย.- หัวหน้าคณะทำงานของสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) ในซูดานประณามการสู้รบในซูดานที่ไม่เคารพกฎหมายและบรรทัดฐานของการทำสงคราม จากการที่มีพลเรือนและโรงพยาบาลตกเป็นเป้าโจมตี นายโฟลเกอร์ แพธีส ผู้แทนพิเศษยูเอ็นด้านซูดานแถลงต่อคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น (UNSC) จากเมืองพอร์ตซูดานในซูดานว่า ทั้ง 2 ฝ่ายที่สู้รบกันไม่เคารพกฎหมายและบรรทัดฐานของการทำสงคราม จากการโจมตีพื้นที่ที่มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่นโดยไม่คำนึงถึงพลเรือน โรงพยาบาล หรือแม้แต่ยวดยานที่กำลังลำเลียงผู้บาดเจ็บและผู้ป่วย ขณะนี้ยังคงมีการสู้รบกันตามสถานที่ทางยุทธศาสตร์ในกรุงคาร์ทูม รวมถึงท่าอากาศยานนานาชาติคาร์ทูม บางพื้นที่มีการสู้รบรุนแรงขึ้นด้วย ทั้งที่สหรัฐประกาศหยุดยิงนาน 72 ชั่วโมงเมื่อวันจันทร์ระหว่างกองทัพและกองหนุนเคลื่อนที่เร็วหรืออาร์เอสเอฟ (RSF) ซึ่งเป็นกองกำลังกึ่งทหารที่สู้รบกันมาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน นายแพธีสกล่าวด้วยว่า ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนจากฝ่ายใดว่าพร้อมเจรจาอย่างจริงจัง บ่งชี้ว่าทั้ง 2 ฝ่ายอาจคิดว่าจะสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ ด้านนายอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นย้ำว่า การสู้รบในซูดาน ซึ่งเป็นประเทศในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกาที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของทวีปอาจลุกลามไปยังประเทศอื่น ๆ เนื่องจากซูดานมีพรมแดนติดกับ 7 ประเทศที่มีการสู้รบหรือมีความไม่สงบอยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย

สิงคโปร์แขวนคอนักโทษคดีกัญชา 1 กก.แล้ว

สิงคโปร์ 26 เม.ย.- สิงคโปร์ลงโทษประหารชีวิตด้วยการแขวนคอผู้ต้องขังที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาคบคิดกันลอบนำเข้ากัญชามากกว่า 1 กิโลกรัมแล้วในวันนี้ ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากนานาชาติให้สิงคโปร์ยกเลิกโทษประหารชีวิต โฆษกสำนักงานเรือนจำสิงคโปร์เผยว่า ผู้ต้องขังชายชาวสิงคโปร์วัย 46 ปี ถูกลงโทษประหารชีวิตแล้วในวันนี้ที่เรือนจำชางงี นับเป็นการประหารชีวิตในสิงคโปร์ครั้งแรกในรอบ 6 เดือน และครั้งที่ 12 นับจากเดือนมีนาคม 2565 หลังจากระงับไปนานกว่า 2 ปี นักโทษรายนี้ถูกตัดสินในปี 2560 ว่าพัวพันกับแผนการคบคิดกันลอบนำเข้ากัญชาหนัก 1,017.9 กรัม ซึ่งมากกว่า 2 เท่าของปริมาณขั้นต่ำที่จะต้องถูกลงโทษประหารชีวิต เขาถูกศาลชั้นต้นตัดสินในปี 2561 ให้ถูกประหารชีวิต และศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืน เซอร์ ริชาร์ด แบรนสัน มหาเศรษฐีชาวอังกฤษในฐานะกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการสากลว่าด้วยนโยบายยาเสพติดเขียนในบล็อกส่วนตัวเมื่อวันจันทร์ว่า ผู้ต้องขังไม่ได้มียาเสพติดอยู่ใกล้ตัวเลยในช่วงที่ถูกจับกุม และสิงคโปร์อาจจะทำให้คนบริสุทธิ์ต้องถูกประหาร ทำให้กระทรวงมหาดไทยสิงคโปร์ตอบโต้ในวันอังคารว่า ความผิดของผู้ต้องขังได้รับการพิสูจน์จนสิ้นสงสัยแล้ว หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2 เลขหมายที่อัยการระบุว่าเป็นของผู้ต้องขังเป็นหมายเลขที่ใช้ประสานงานเรื่องการลำเลียงยาเสพติด ด้านสํานักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ (OHCHR) แถลงแสดงความไม่เห็นด้วยในวันเดียวกันว่า มีเพียงไม่กี่ประเทศที่ยังคงใช้โทษประหารชีวิต ส่วนใหญ่เพราะเชื่อโดยไร้เหตุผลว่าจะช่วยยับยั้งการก่ออาชญากรรมได้ ทั้งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าได้ผลจริง อีกทั้งยังขัดต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนสากลที่อนุญาตให้ใช้โทษประหารชีวิตเฉพาะอาชญากรรมร้ายแรงที่สุดเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

ครอบครัวชายสิงคโปร์ขอความเมตตาก่อนถูกแขวนคอคดีกัญชา

สิงคโปร์ 23 เม.ย.- ครอบครัวของชายชาวสิงคโปร์ขอความเมตตาจากประธานาธิบดีและขอให้มีการพิจารณาคดีใหม่ ก่อนที่เขาจะถูกแขวนคอประหารชีวิตในสัปดาห์หน้า ในคดีลอบนำกัญชามากกว่า 1 กิโลกรัมเข้าประเทศ ชายชาวสิงคโปร์เชื้อสายอินเดียวัย 46 ปี ถูกตัดสินในปี 2560 ว่ามีความผิดโทษฐานคบคิดลอบนำเข้ากัญชาน้ำหนัก 1,017.9 กรัม ซึ่งมากกว่า 2 เท่าของปริมาณขั้นต่ำที่จะต้องถูกลงโทษประหารชีวิต ศาลชั้นต้นตัดสินในปีถัดมาให้ประหารชีวิต และศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนให้ประหารชีวิต และจะมีการลงโทษด้วยการแขวนคอในวันพุธนี้ ครอบครัวของเขาแถลงข่าวเป็นภาษาทมิฬในวันนี้ว่า เขาไม่ได้รับการไต่สวนที่เป็นธรรม พวกเขาจะยื่นคำร้องขอความเมตตาจากประธานาธิบดี และเชื่อว่าประธานาธิบดีจะอ่านทุกคำร้อง ครอบครัวและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิชี้ว่า คดีนี้มีช่องโหว่ ผู้ต้องหาไม่เคยจับต้องกัญชาที่เป็นของกลาง และถูกตำรวจสอบปากคำโดยไม่มีทนาย อีกทั้งยังไม่มีล่ามแปลภาษาทมิฬในช่วงที่ถูกบันทึกคำให้การกับตำรวจครั้งแรกด้วย ขณะที่สำนักงานปราบปรามยาเสพติดชี้แจงว่า ผู้ต้องหามีทนายให้คำปรึกษาตลอดกระบวนการ และผู้พิพากษาพบว่าผู้ต้องหามีความไม่จริงใจ เนื่องจากไม่ได้ร้องขอล่ามแปลภาษาทมิฬขณะให้ปากคำในภายหลัง สิงคโปร์กลับมาใช้การลงโทษประหารชีวิตด้วยการแขวนคออีกครั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2565 หลังจากงดไปนานกว่า 2 ปี โดยเมื่อปีที่แล้วมีการแขวนคอ 11 ครั้ง ทั้งหมดเป็นคดียาเสพติด ส่วนการแขวนคอที่หากจะมีขึ้นในวันพุธนี้จะเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน.-สำนักข่าวไทย

ฟิลิปปินส์-จีนจะเพิ่มช่องทางสื่อสารแก้ไขข้อพิพาททะเลจีนใต้

มะนิลา 23 เม.ย.- ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ของฟิลิปปินส์มั่นใจว่า จะสามารถแก้ไขข้อพิพาทเรื่องการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้ทับซ้อนกับจีนเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ทั้ง 2 ฝ่าย โดยเห็นพ้องกันเรื่องจะเพิ่มช่องทางการสื่อสารระหว่างกัน ประธานาธิบดีมาร์กอสเผยหลังจากพบสนทนากับนายฉิน กัง มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศจีนที่มาเยือนเป็นเวลา 2 วันเมื่อวันเสาร์ ในขณะที่สถานการณ์ในทะเลจีนใต้และช่องแคบไต้หวันทวีความตึงเครียดว่า ฟิลิปปินส์และจีนเห็นพ้องกันว่าจะเพิ่มช่องทางการสื่อสาร เพื่อให้สามารถแก้ไขได้ทันทีในกรณีที่เกิดเหตุในทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตกที่มีความเกี่ยวข้องกับฟิลิปปินส์และจีน ฟิลิปปินส์กำลังดำเนินการเรื่องนี้อยู่และกำลังรอความเห็นจากจีน โดยเชื่อมั่นว่าจะมีการแก้ไขประเด็นต่าง ๆ ในลักษณะที่จะเป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศ ทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตกเป็นคำที่ฟิลิปปินส์ใช้เรียกอย่างเป็นทางการสำหรับน่านน้ำทางฝั่งตะวันออกของทะเลจีนใต้ที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของฟิลิปปินส์ คณะอนุญาโตตุลาการชุดหนึ่งเคยมีคำตัดสินในปี 2559 ให้น่านน้ำนี้เป็นของฟิลิปปินส์ แต่จีนไม่ยอมรับคำตัดสินและได้เพิ่มกิจกรรมทางทหารในน่านน้ำพิพาท ทำให้ผู้นำฟิลิปปินส์ต้องเพิ่มความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงกับพันธมิตร เช่น สหรัฐ อออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เพื่อต้านทานอิทธิพลของจีน แต่ขณะเดียวกันก็ต้องเดินหน้าสานสัมพันธ์กับจีน เพราะเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ชาวเกาหลีใต้เกินครึ่งหนุนพัฒนานิวเคลียร์ต้านเกาหลีเหนือ

โซล 23 เม.ย.- ผลสำรวจความเห็นชาวเกาหลีใต้พบว่า ร้อยละ 56 สนับสนุนให้เกาหลีใต้พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เพื่อใช้ต้านทานภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ สำนักสำรวจเรียลมิเตอร์สอบถามความเห็นชาวเกาหลีใต้วัยผู้ใหญ่จำนวน 1,008 คนเมื่อสัปดาห์ก่อน ผู้ตอบร้อยละ 56.5 สนับสนุนให้เกาหลีใต้ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ด้วยตัวเอง และเห็นว่าควรต้องหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นหารือในโอกาสที่ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอลจะเดินทางไปประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐในวันจันทร์นี้ ขณะที่ผู้ตอบร้อยละ 40.8 คัดค้านการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ต่อข้อถามถึงเหตุผลที่สนับสนุนให้เกาหลีใต้พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ผู้ตอบร้อยละ 45.2 ชี้ว่า เกาหลีใต้ควรต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ และต่อข้อถามถึงเหตุผลที่คัดค้านการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ผู้ตอบร้อยละ 44.2 ชี้ว่า จะทำให้เกาหลีใต้ถูกนานาชาติคว่ำบาตร ประธานาธิบดียุนจะเยือนสหรัฐในฐานะประมุขของรัฐเป็นเวลา 6 วันเริ่มตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน เนื่องในวาระครบ 70 ปีที่ 2 ประเทศเป็นพันธมิตรกัน โดยคาดว่าประเด็นภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือจะเป็นหัวข้อหลักของการสนทนา.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียเตือนคนหลีกเลี่ยงไปแคนาดา

มอสโก 23 เม.ย.- รัสเซียแนะนำพลเมืองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปแคนาดา โดยอ้างว่ามีชาวรัสเซียถูกเลือกปฏิบัติจำนวนมาก รวมไปถึงการทำร้ายร่างกาย กระทรวงต่างประเทศรัสเซียระบุในคำแนะนำการเดินทางว่า เนื่องจากเกิดเหตุพลเมืองชาวรัสเซียถูกเลือกปฏิบัติจำนวนมากในแคนาดา รวมถึงการใช้ความรุนแรงทางร่างกาย กระทรวงจึงขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปแคนาดาเพื่อท่องเที่ยว การศึกษา และการทำธุรกิจ ส่วนชาวรัสเซียที่อยู่ในแคนาดาอยู่แล้ว ขอให้ใช้ความระมัดระวังโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่สาธารณะ คำแนะนำดังกล่าวลงวันที่ 20 เมษายน 2566 เผยแพร่เผยบัญชีเทเลแกรมของกระทรวงต่างประเทศรัสเซียเมื่อวันเสาร์ แคนาดาเป็นหนึ่งในประเทศที่แสดงความสนับสนุนยูเครนอย่างชัดเจนในสงครามที่เกิดขึ้นกับรัสเซีย และได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่และธุรกิจรัสเซียจำนวนมาก รวมถึงห้ามทำการค้าหลากหลายอย่าง นอกจากนี้ยังแนะนำพลเรือนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปรัสเซียตั้งแต่เกิดสงครามได้ไม่นาน ส่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัสเซียได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรกับเจ้าหน้าที่และบุคคลสาธารณะของแคนาดาทั้งหมด 333 คน โดยระบุว่าเพื่อตอบโต้ที่แคนาดาใช้มาตรการจำกัดกับรัสเซียและสนับสนุนยูเครน.-สำนักข่าวไทย

ฝรั่งเศสเริ่มอพยพคนออกจากซูดาน

ปารีส 23 เม.ย.- กระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศสแถลงวันนี้ว่า ฝรั่งเศสได้เริ่มอพยพพลเมืองและเจ้าหน้าที่สถานทูตออกจากซูดานแล้ว ขณะที่การสู้รบระหว่างกองกำลังของ 2 นายพลที่ขัดแย้งกันได้ล่วงเลยเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้ว กระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศสแถลงเพียงสั้น ๆ ว่า ได้เริ่มปฏิบัติการอพยพอย่างรวดเร็ว และจะให้ความช่วยเหลือพลเมืองยุโรปรวมถึงพลเมืองของประเทศหุ้นส่วนที่เป็นพันธมิตรกัน แหล่งข่าวการทูตที่ขอสงวนนามเผยว่า กองทัพซูดานและกองหนุนเคลื่อนที่เร็วหรืออาร์เอสเอฟ (RSF) ซึ่งเป็นกองกำลังกึ่งทหารที่สู้รบกันได้รับรองความปลอดภัยให้ฝรั่งเศสดำเนินปฏิบัติการอพยพ และว่ามีชาวฝรั่งเศสอาศัยอยู่ในซูดานประมาณ 250 คน.-สำนักข่าวไทย

ทหารสหรัฐอพยพคนออกจากสถานทูตในซูดาน

วอชิงตัน 23 เม.ย.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเผยว่า กองทัพสหรัฐได้อพยพคนออกจากสถานทูตสหรัฐในกรุงคาร์ทูมของซูดานแล้ว และเรียกร้องให้ยุติการสู้รบ “ที่ไร้เหตุผล” ในกรุงคาร์ทูมระหว่างกองทัพกับกองกำลังกึ่งทหารของซูดาน ประธานาธิบดีไบเดนแถลงเมื่อเย็นวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐว่า เขาได้สั่งการในวันเสาร์ให้กองทัพสหรัฐปฏิบัติการนำบุคลากรของรัฐบาลสหรัฐออกจากกรุงคาร์ทูม และขณะนี้สถานทูตสหรัฐได้ระงับทำการเป็นการชั่วคราว เขามีความภาคภูมิใจในตัวเจ้าหน้าที่สถานทูตที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญและเป็นมืออาชีพ เสริมสร้างมิตรภาพและความสัมพันธ์ระหว่างชาวอเมริกันกับประชาชนชาวซูดาน ผู้นำสหรัฐยังเรียกร้องให้มีการหยุดยิงโดยทันทีและไร้เงื่อนไข เปิดทางให้แก่การเข้าถึงด้านมนุษยธรรม และเคารพเจตนารมณ์ของประชาชนชาวซูดาน ด้านนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า ได้สั่งการให้อพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตและครอบครัวออกจากซูดาน เนื่องจากมีความเสี่ยงด้านความมั่นคงที่ร้ายแรงและเพิ่มขึ้น สหรัฐขอย้ำเตือนทั้ง 2 ฝ่ายที่เป็นปรปักษ์กันให้ปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมสากล ซึ่งรวมถึงการคุ้มครองพลเรือน และขอเรียกร้องให้ขยายข้อตกลงหยุดยิงให้นอกเหนือไปจากช่วงตรุษอีดิลฟิตริด้วย นายทหารสหรัฐนายหนึ่งเผยว่า ปฏิบัติการอพยพคนออกจากสถานทูตสหรัฐในกรุงคาร์ทูมมีเจ้าหน้าที่เข้าร่วมเพียง 100 นายเศษ ใช้เฮลิคอปเตอร์ซีเอช-47 ชีนุกจำนวน 3 ลำบินจากจิบูตีไปยังเอธิโอเปียแล้วต่อไปยังซูดาน โดยใช้เวลาไม่ถึง 30 นาทีอพยพคนจากภาคพื้นดิน นายจอห์น เบส ปลัดกระทรวงต่างประเทศสหรัฐเผยว่า มีคนได้รับอพยพไม่ถึง 100 คน ซึ่งมีนักการทูตต่างชาติรวมอยู่ด้วย และไม่น่าจะมีการอพยพชาวอเมริกันครั้งใหม่ในเร็ววันนี้ ปฏิบัติการครั้งนี้ดำเนินการโดยกระทรวงกลาโหมเท่านั้น ส่วนกองหนุนเคลื่อนที่เร็วหรืออาร์เอสเอฟ (RSF) ซึ่งเป็นกองกำลังกึ่งทหารที่กำลังสู้รบกับกองทัพซูดานประสานงานเพียงว่าจะไม่ยิงทหารสหรัฐเท่านั้น ก่อนหน้านี้อาร์เอสเอฟเผยว่า ได้ประสานกับกองกำลังสหรัฐที่ประกอบด้วยเครื่องบิน 6 ลำเรื่องอพยพนักการทูตและครอบครัวออกจากซูดานในเช้าวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น.-สำนักข่าวไทย

จีนร้องเรียนเรื่องผู้นำเกาหลีใต้พูดเกี่ยวกับไต้หวัน

ปักกิ่ง 23 เม.ย.- จีนเผยว่า ได้ร้องเรียนต่อเกาหลีใต้ในเรื่องที่ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอลของเกาหลีใต้กล่าวอย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับไต้หวัน กระทรวงต่างประเทศจีนแถลงว่า นายซุน เว่ยตง รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศจีนได้รับคำสั่งเมื่อวันพฤหัสบดีให้แสดงความไม่พอใจทางการทูตต่อเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำจีน เขาได้แจ้งกับเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ว่า คำกล่าวของผู้นำเกาหลีใต้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้อย่างสิ้นเชิง และได้แสดงความไม่พอใจอย่างยิ่ง โดยกล่าวว่าปัญหาไต้หวันเป็นเรื่องของจีน ไม่มีกลุ่มใดได้รับอนุญาตให้เข้ามาแทรกแซง ขอให้รัฐบาลเกาหลีใต้ยึดมั่นในหลักการจีนเดียว และระมัดระวังคำพูดและการกระทำที่เกี่ยวกับประเด็นไต้หวัน ประธานาธิบดียุนให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อกลางเดือนนี้ กล่าวถึงความตึงเครียดระหว่างจีนกับไต้หวันว่าเป็นประเด็นระดับโลกเช่นเดียวกับเรื่องเกาหลีเหนือ และกล่าวโทษความตึงเครียดที่รุนแรงขึ้นว่า เป็นเพราะมีความพยายามใช้กำลังเปลี่ยนแปลงสถานภาพปัจจุบัน ต่อมาโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนวิจารณ์ว่า เป็นความจริงที่รู้กันทั้งโลกอยู่แล้วว่า ประเด็นไต้หวันไม่สามารถเปรียบเทียบกับความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีได้ ทำให้กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ตำหนิจีนเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ไร้มารยาททางการทูตอย่างร้ายแรง.-สำนักข่าวไทย

1 164 165 166 167 168 477