บรัสเซลส์ 9 เม.ย.- หน่วยงานสังเกตการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหภาพยุโรปหรืออียู แจ้งว่า เดือนมีนาคม 2567 เป็นเดือนมีนาคมที่โลกร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา และเป็นเดือนที่โลกเดินหน้าร้อนทุบสถิติทุกเดือนมาเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน
บริการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโคเปอร์นิคัส (C3S) ซึ่งเป็น 1 ใน 6 บริการของโครงการโคเปอร์นิคัสของอียูออกสิ่งพิมพ์รายเดือนในวันนี้ว่า แต่ละเดือนในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาจนถึงเดือนมีนาคม โลกร้อนกว่าเดือนเดียวกันของทุกปีที่ผ่านมา และในช่วงเดือนเมษายน 2566 ถึงเดือนมีนาคม 2567 อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงขึ้น 1.58 องศาเซลเซียสจากอุณหภูมิเฉลี่ยช่วง ค.ศ.1850-1900 ซึ่งเป็นช่วงยุคก่อนอุตสาหกรรม และเป็นช่วง 12 เดือนที่ร้อนที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูลในปี 2483 ซาแมนธา เบอร์เจส รองผู้อำนวยการ C3S ระบุว่า เป็นเรื่องน่ากังวลอย่างยิ่งที่แนวโน้มระยะยาวมีแต่สถิติสูงสุด เพราะสะท้อนว่าสภาพภูมิอากาศกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงทำให้พื้นที่ป่าฝนแอมะซอนในทวีปอเมริกาใต้เกิดภาวะภัยแล้ง โดยเกิดไฟป่าในเวเนซุเอลาช่วงเดือนมกราคม-มีนาคมมากเป็นประวัติการณ์ และทำให้พื้นที่ทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกาเกิดภาวะภัยแล้งเช่นเดียวกัน พืชผลเสียหาย คนจำนวนมากตกอยู่ในภาวะหิวโหย นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลเตือนว่า จะเกิดภาวะปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่ในซีกโลกใต้ อันเป็นผลจากน้ำทะเลมีอุณหภูมิสูงขึ้น และอาจเป็นภาวะเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์โลก C3S ระบุว่า สาเหตุหลักที่ทำให้โลกร้อนผิดปกติคือ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกิจกรรมของคน.-814.-สำนักข่าวไทย