วอชิงตัน 9 เม.ย.- เชฟรอน บริษัทพลังงานใหญ่ของสหรัฐแจ้งว่า ได้ถอนการลงทุนในโครงการแหล่งก๊าซธรรมชาติยาดานา (Yadana) ในเมียนมาแล้ว หลังจากประณามการใช้ความรุนแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเมียนมาและประกาศจะถอนตัวจากเมียนมาเมื่อกว่า 2 ปีก่อน
โฆษกของเชฟรอนแถลงเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า เชฟรอนไม่ได้ขายหุ้นที่ถืออยู่ร้อยละ 41.1 ในโครงการนี้ แต่ได้โอนให้แก่ผู้ถือหุ้นที่เหลืออยู่คือ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ.ของไทย และวิสาหกิจน้ำมันและก๊าซเมียนมา (MOGE) การถอนการลงทุนเป็นไปตามที่บริษัทมีความตั้งใจจะถอนตัวออกจากเมียนมาอย่างมีการกำกับดูแลและเป็นระเบียบ หลังจากเมียนมาเกิดการรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 และเกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่ยังคงดำเนินอยู่ในขณะนี้
เชฟรอนเคยแถลงเมื่อเดือนมกราคม 2565 ว่า จะถอนตัวออกจากเมียนมา ต่อมาประกาศในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ว่า ตกลงจะขายสินทรัพย์ทั้งหมดที่อยู่ในเมียนมา รวมถึงหุ้นที่ถืออยู่ในโครงการยาดานา เชฟรอนและโททาลเอเนอร์ยีส์ บริษัทพลังงานของฝรั่งเศสเคยสั่งระงับการชำระเงินจากโครงการนี้ในปี 2564 เพราะเงินจะไปถึงมือรัฐบาลทหารเมียนมา เรียกเสียงชื่นชมจากกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยในเมียนมา จากนั้นโททาลได้ถอนตัวออกจากเมียนมาในปี 2565
โครงการแหล่งก๊าซธรรมชาติยาดานาตั้งอยู่ในอ่าวเมาะตะมะ ผลิตก๊าซได้ประมาณ 6,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ในจำนวนนี้ร้อยละ 70 ส่งออกมาไทย และอีกร้อยละ 30 เป็นของ MOGE เพื่อใช้ภายในประเทศของเมียนมา วิสาหกิจนี้ถูกรัฐบาลทหารเมียนมายึดผ่านการรัฐประหาร.-814.-สำนักข่าวไทย