เตือนปะการังทั่วโลกกำลังฟอกขาว

แมริแลนด์ 18 เม.ย.- อิทธิพลจากอุณหภูมิมหาสมุทรที่สูงขึ้นกำลังทำลายแนวปะการังทั่วโลก จนต้องเผชิญกับปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวรุนแรง องค์การบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐหรือโนอา (NOAA) เปิดเผยว่า ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่ครั้งที่ 4 ของโลก กำลังเกิดขึ้นในน่านน้ำทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ มีรายงานว่าพื้นที่ 3 ใน 4 ของแนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟ อันมีชื่อเสียงของออสเตรเลีย และเป็นแนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลก กำลังเกิดการฟอกขาวอย่างหนัก ขณะที่พบว่าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2566 พบปะการังฟอกขาวในกว่า 54 ประเทศ ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล รวมถึงผู้คนและเศรษฐกิจที่พึ่งพาแนวปะการัง โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวเชิงสำรวจและอนุรักษ์แนวปะการังที่สร้างมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในแต่ละปี โนอาระบุว่า สาเหตุหลักของปะการังฟอกขาวเกิดจากปัญหาโลกร้อน ทำให้อุณหภูมิมหาสมุทรร้อนขึ้น และในในปีนี้ปะการังเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงและรุนแรงขึ้นยาวนานกว่าที่เคย โดยอุณหภูมิทางทะเลในฤดูร้อนจะยาวนานขึ้นและร้อนขึ้น นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ท้ายที่สุดแล้วแนวปะการังมากถึงร้อยละ 70-90 อาจสูญหายไปจากโลก ขณะนี้นักอนุรักษ์หลายกลุ่มกำลังพยายามเพาะตัวอ่อนปะการังด้วยการทำธนาคารปะการังในพื้นที่ความเย็นจัดเพื่อขยายพันธุ์ปะการัง.-815(814).-สำนักข่าวไทย

เอฟบีไอเกรงจะเกิดเหตุร้ายในสหรัฐแบบกราดยิงในรัสเซีย

วอชิงตัน 11 เม.ย.- สำนักสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐจะแจ้งต่อคณะกรรมการในสภาผู้แทนราษฎรว่า เอฟบีไอกังวลว่าอาจจะเกิดเหตุร้ายในสหรัฐ คล้ายกับเหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นในสถานที่แสดงคอนเสิร์ตของรัสเซีย รอยเตอร์รายงานว่า นายคริสโตเฟอร์ เรย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอซึ่งจะเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการงบประมาณในวันนี้เตรียมจะกล่าวกับคณะกรรมาธิการว่า เมื่อมองย้อนกลับไปในประสบการณ์การทำงานด้านการบังคับใช้กฎหมายที่ผ่านมา เขาพบว่า มักมีช่วงเวลาที่ภัยคุกคามมากมายต่อความปลอดภัยสาธารณะและความมั่นคงแห่งชาติจะเกิดขึ้นพร้อมกันอย่างฉับพลัน เจ้าหน้าที่สหรัฐมีความกังวลมาโดยตลอดว่า บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ถูกกระตุ้นจากสงครามในกาซาจะก่อเหตุโจมตีในสหรัฐ และขณะนี้เอฟบีไอกำลังกังวลยิ่งขึ้นว่า อาจจะเกิดเหตุโจมตีในสหรัฐที่มีการเตรียมการวางแผน คล้ายกับที่กลุ่มไอซิส-เค (ISIS-K) กราดยิงสังหารหมู่ที่สถานที่แสดงคอนเสิร์ตชานกรุงมอสโกของรัสเซียเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 145 คน ผู้อำนวยการเอฟบีไอจะขอให้คณะกรรมาธิการต่ออายุโครงการสอดแนมของสหรัฐที่จะหมดอายุในเดือนเมษายนนี้ ด้วยการยืนยันว่าเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ในการต่อต้านปรปักษ์ของสหรัฐ ผู้อำนวยการเอฟบีไอจะกล่าวเรื่องนี้หลังจากเมื่อวานนี้สภาผู้แทนราษฎรไม่ให้ความเห็นชอบแผนการปรับปรุงโครงการนี้ โดยที่ สส.ทั้งจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันเห็นว่า ยังไม่มีมาตรการที่ดีพอในการจำกัดอำนาจของรัฐบาลด้านการสอดแนม.-814.-สำนักข่าวไทย

เผยกองกำลังอิสราเอลสังหารลูกผู้นำฮามาสโดยไม่แจ้งนายกฯ

เยรูซาเล็ม 11 เม.ย.- สื่ออิสราเอลรายงานวันนี้ว่า กองกำลังอิสราเอลใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศสังหารบุตรชาย 3 คนของผู้นำกลุ่มฮามาสในกาซา โดยไม่ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีกลาโหมก่อนลงมือ สำนักข่าววาลลาในอิสราเอลรายงานอ้างเจ้าหน้าที่อาวุโสหลายคนว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูและนายโยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมไม่ได้รับการแจ้งล่วงหน้าแม้แต่คนเดียวเรื่องปฏิบัติการดังกล่าวที่เป็นความร่วมมือระหว่างกองทัพอิสราเอลและชินเบ็ตซึ่งเป็นหน่วยงานความมั่นคงภายในของอิสราเอล รายงานระบุว่า นายอามีร์ นายโมฮัมเหม็ด และนายฮาเซ็ม ฮานิเยห์ ตกเป็นเป้าโจมตีในฐานะนักรบฮามาส ไม่ใช่ในฐานะบุตรชายของนายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองของฮามาส นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า หลาน 4 คนของนายฮานิเยห์ถูกสังหารในปฏิบัติการเดียวกันที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ด้วย นายฮานิเยห์กล่าวว่า ฮามาสมีข้อเรียกร้องที่ชัดเจนและเจาะจงในการที่จะตกลงเรื่องหยุดยิง ศัตรูกำลังหลงผิดหากคิดว่าการสังหารบุตรชายของเขาในช่วงที่การเจรจาหยุดยิงกำลังตึงเครียดและก่อนที่ฮามาสจะแสดงการตอบสนอง จะกดดันให้ฮามาสเปลี่ยนท่าทีได้ ทั่วโลกเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในกาซา เนื่องจากสงครามเข้าสู่เดือนที่ 7 แล้วหลังจากปะทุขึ้นตั้งแต่วันที่ 7  ตุลาคม 2566 แต่การเจรจาแทบไม่มีความคืบหน้า ฮามาสต้องการให้อิสราเอลยุติการรุกกาซา ถอนกำลังทหารออกไปทั้งหมด และอนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นกลับบ้าน ขณะที่อิสราเอลต้องการให้ปล่อยตัวประกัน 133 คนที่เชื่อว่ายังถูกควบคุมตัวอยู่ในกาซา แต่จะไม่ยุติสงครามจนกว่าฮามาสในฐานะกองกำลังจะถูกทำลาย อิสราเอลยืนยันด้วยว่า จะเดินหน้าแผนการบุกเมืองราฟาห์ ทางใต้ของกาซาที่มีคนลี้ภัยอยู่มากกว่า 1 ล้านคน.-814.-สำนักข่าวไทย

รัสเซีย-คาซัคสถานยังไม่พ้นอุทกภัย

โอเรนบุร์ก 11 เม.ย.- รัสเซียและคาซัคสถานยังคงเผชิญกับอุทกภัย เนื่องจากน้ำในแม่น้ำหลายสายยังคงมีระดับน้ำสูงขึ้น ทำให้หลายพื้นที่ประสบอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบเกือบศตวรรษ แม่น้ำสายหลักหลายสาย เช่น อูราลที่ไหลผ่านรัสเซียและคาซัคสถานไปลงทะเลสาบแคสเปียน มีระดับน้ำสูงขึ้นจนล้นตลิ่ง อันเป็นผลจากหิมะบนเทือกเขาอูราลละลาย ทำให้ประชาชนมากกว่า 110,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนแถบเทือกเขาอูราล แคว้นไซบีเรีย และคาซัคสถาน เมืองโอเรนบุร์กของรัสเซียที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอูราล และอยู่ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันออก 1,200 กิโลเมตร ประชากร 550,000 คนถูกน้ำท่วมทั้งเมือง ระดับน้ำในแม่น้ำอูราลเพิ่มขึ้นอีก 32 เซนติเมตร เป็น 10.54 เมตรในวันนี้ สูงกว่าระดับอันตรายไปแล้ว 1.24 เมตร ทางการเตือนว่า ระดับน้ำจะสูงขึ้นอีก ขณะที่กระทรวงฉุกเฉินของคาซัคสถานแจ้งในเช้าวันนี้ว่า จำนวนผู้ได้รับการอพยพยังคงอยู่ที่ 97,000 คน และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใน 8 แคว้นจากทั้งหมด 14 แคว้นทั่วประเทศ นอกจากพื้นที่ที่แม่น้ำอูราลไหลผ่านในรัสเซียและทางเหนือของคาซัคสถานที่เผชิญอุทกภัยหนักที่สุดแล้ว พื้นที่ทางใต้ของไซบีเรียตะวันตกซึ่งเป็นแอ่งน้ำมันและก๊าซขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และบางพื้นที่ใกล้แม่น้ำวอลกาที่เป็นแม่น้ำใหญ่ที่สุดในยุโรป ก็มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นเช่นกัน น้ำท่วมช่วงฤดูใบไม้ผลิเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วรัสเซียอยู่เสมอ เนื่องจากหิมะจำนวนมากบนเทือกเขาละลายลงมาเพิ่มปริมาณน้ำในแม่น้ำสายใหญ่ในรัสเซียและเอเชียกลาง เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินมองว่า ปีนี้น้ำท่วมรุนแรงผิดปกติ เพราะหลายปัจจัยประกอบกัน เริ่มจากพื้นดินมีน้ำขังอยู่ภายในตั้งแต่ยังไม่เข้าสู่ฤดูหนาว น้ำขังเหล่านี้กลายเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว จากนั้นก็ละลายอย่างรวดเร็วพร้อมกับหิมะที่สะสมอยู่ด้านบนพื้นดินเมื่ออากาศเริ่มอุ่นขึ้นในฤดูใบผลิ […]

คนในฝั่งเมียวดีเข้าแถวยาวเหยียดเข้าไทย

เมียวดี 11 เม.ย.- ประชาชนจำนวนมากในฝั่งเมืองเมียวดีของเมียนมาเข้าแถวยาวเหยียด เดินทางเข้าไทยผ่านด่านแม่สอดของจังหวัดตากในวันนี้ ผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์รายงานจากด่านแม่สอดว่า เห็นชาวเมียนมาเข้าแถวรอในฝั่งเมียวดี ขณะที่ฝั่งไทยมีทหารคอยตรวจสัมภาระผู้เดินทางเข้ามา ชายชาวเมียนมาคนหนึ่งที่ขนสัมภาระมาเป็นจำนวนมากยอมรับว่า มีความกังวล ขณะนี้สถานการณ์ในเมียวดียังไม่เป็นไร แต่ถ้าไกลออกไปข้างนอกยังมีการยิงกันอยู่ ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันโฆษกกลุ่มติดอาวุธและสื่อท้องถิ่นรายงานว่า ทหารเมียนมาประมาณ 200 นายได้ล่าถอยไปยังสะพานที่เชื่อมเมืองเมียวดีกับอำเภอแม่สอดในวันนี้ หลังจากถูกกองกำลังต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาโจมตีอย่างหนักมาหลายวัน รอยเตอร์อ้างเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตากว่า ปกติแล้วมีคนข้ามจากเมียวดีเข้ามาทางแม่สอดวันละ 2,000 คน แต่ในช่วง 3 วันที่ผ่านมาตัวเลขเพิ่มเป็นวันละเกือบ 4,000 คน รอยเตอร์รายงานด้วยว่า กองทัพไทยได้เพิ่มการรักษาความปลอดภัยตามแนวพรมแดน ด้วยการประจำการยานหุ้มเกราะติดปืนกล.-814.-สำนักข่าวไทย

ฝ่ายค้านเกาหลีใต้คว้าชัยเลือกตั้งสมาชิกสภา

โซล 11 เม.ย.- การเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติของเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ ผลออกมาแล้วปรากฎว่า ฝ่ายค้านได้รับชัยชนะครองเสียงข้างมากได้ต่อไป สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้รายงานว่า พันธมิตรพรรคฝ่ายค้านนำโดยพรรคประชาธิปไตยหรือดีพี (DP) ได้ที่นั่งรวมกัน 187 ที่นั่งจากทั้งหมด 300 ที่นั่ง ขณะที่พรรคพลังประชาชนหรือพีพีพี (PPP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลและพรรคพันธมิตรได้ที่นั่งรวมกัน 108 ที่นั่ง สะท้อนถึงความนิยมตกต่ำของนายยุน ซอก-ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และพรรคพีพีพีที่เผชิญปัญหารุมเร้ามากมาย โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจปากท้องประชาชน การพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้สมาชิกระดับสูงของพรรคพีพีพีหลายคนประกาศลาออก นาย ยูน ยังคงเหลือเวลาในวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีก 3 ปี แต่เมื่อไม่สามารถชิงเสียงข้างมากในสภามาได้เช่นนี้ จะทำให้เขาเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่บริหารประเทศโดยไม่มีเสียงข้างมากในสภา ซี่งจะยิ่งทำให้เขาผลักดันผลงานต่าง ๆ ได้ยากยิ่งขี้นไปอีก เขาต้องเผชิญแรงกดดันมากขึ้นในการแก้ปัญหาราคาสินค้าอาหารที่เพิ่มสูง ปัญหาสังคมสูงอายุ และกรณีแพทย์หยุดงานประท้วงต่อต้านนโยบายรัฐบาล นอกจากนั้นยังมีเรื่องอื้อฉาวกรณีภรรยาของเขารับของกำนัลเป็นเครื่องใช้หรูหรา รวมไปถึงข้อครหาทุจริตของคนในพรรคด้วย คณะกรรมการการเลือกตั้งของเกาหลีใต้เผยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้ออกไปใช้สิทธิมากถึงร้อยละ 67 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 44.28 ล้านคน ถือว่ามากที่สุดในรอบ 32 ปี.-812(814).-สำนักข่าวไทย

จีนผ่าตัดรักษาไต “นอกร่างกาย” ก่อนปลูกถ่ายกลับให้ผู้ป่วย

ฉางซา 11 เม.ย.- โรงพยาบาลจีนประสบความสำเร็จในการผ่าตัดเพื่อเอาเนื้องอกและหลอดเลือดโป่งพองออกจากไต ด้วยการนำไตออกมาจากร่างผู้ป่วยเพื่อผ่าตัด ก่อนปลูกถ่ายไตกลับเข้าไปอีกครั้ง สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า เดือนมีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์โรงพยาบาลเซียงหย่า สังกัดมหาวิทยาลัยเซ็นทรัลเซาธ์ ในมณฑลหูหนานทางตอนกลางของจีน ทำการผ่าตัดให้แก่ผู้ป่วยสตรีวัย 24 ปี ที่ต้องการเก็บไตข้างขวาของตัวเองเอาไว้ แม้มีเนื้องอกที่ไต และหลอดเลือดไตมีภาวะโป่งพอง ด้วยการนำไตออกมาจากร่างกายเพื่อผ่าตัด แล้วปลูกถ่ายกลับเข้าไป ซึ่งเป็นเคสที่หายาก เพราะวิธีดั้งเดิมคือการผ่าตัดนำไตออกทั้งหมด ขั้นตอนการผ่าตัดประกอบด้วยการผ่าเอาไตออก ล้างด้วยวิธีการถนอมไตโดยใช้ความเย็น และวางไตไว้บนเตียงผ่าตัดเพื่อนำเนื้องอกและหลอดเลือดโป่งพองออกอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงสร้างหลอดเลือดไตขึ้นใหม่และปลูกถ่ายไตกลับเข้าสู่ร่างกายของผู้ป่วย แพทย์ผู้ออกแบบการผ่าตัดเผยว่า รอยโรคทั้ง 2 จุดอยู่ใกล้กันมากเกินไป ทำให้พื้นที่สำหรับการผ่าตัดในช่องท้องอย่างปลอดภัยเหลือน้อยลง เนื้องอกจึงควรถูกนำออกมากำจัดนอกร่างกายหากต้องการเก็บไตไว้ในร่างกายดังเดิม ใช้เวลาในการผ่าตัดทั้งหมด 5 ชั่วโมง ซึ่งรวมถึงเวลาที่ไตขาดเลือด (cold ischemia) นาน 56 นาที ผู้ป่วยฟื้นตัวดีและออกจากโรงพยาบาลเมื่อไม่นานนี้.-814.-สำนักข่าวไทย

ทหารเมียนมาในเมียวดีล่าถอยมาถึงสะพานเชื่อมแม่สอด

เมียวดี  11 เม.ย.- โฆษกกลุ่มติดอาวุธและสื่อท้องถิ่นรายงานว่า ทหารเมียนมาประมาณ 200 นายได้ล่าถอยไปยังสะพานที่เชื่อมเมืองเมียวดีกับอำเภอแม่สอด จังหวัดตากของไทยในวันนี้ หลังจากถูกกองกำลังต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาโจมตีอย่างหนักมาหลายวัน โฆษกสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงหรือเคเอ็นยู (KNU) ซึ่งเป็นแกนนำในการโจมตีทหารเมียนมาในเมืองเมียวดีเผยว่า ทหารเมียนมาประมาณ 200 นายล่าถอยไปรวมตัวกันที่ด่านข้ามแดนเข้าประเทศไทย ขณะที่สื่อท้องถิ่นในเมียนมารายงานว่า ทางการไทยกำลังพูดคุยกับทหารเหล่านี้ เพื่อตัดสินใจว่าจะอนุญาตให้ลี้ภัยในไทยหรือไม่ รอยเตอร์อ้างเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตากว่า ปกติแล้วมีคนข้ามจากเมียวดีเข้ามาทางแม่สอดวันละ 2,000 คน แต่ในช่วง 3 วันที่ผ่านมาตัวเลขเพิ่มเป็นวันละเกือบ 4,000 คน รอยเตอร์รายงานด้วยว่า กองทัพไทยได้เพิ่มการรักษาความปลอดภัยตามแนวพรมแดน ด้วยการประจำการยานหุ้มเกราะติดปืนกล เคเอ็นยูเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า กองกำลังของทางกลุ่มได้โจมตีค่ายทหารใกล้เมียวดี และทำให้ทหาร 600 นายพร้อมครอบครัวยอมจำนน ด้านเครือข่ายสนับสนุนสันติภาพกะเหรี่ยงที่เป็นกลุ่มภาคประชาสังคมเผยว่า การสู้รบรอบล่าสุดระหว่างกองกำลังฝ่ายต่อต้านกับกองทัพเมียนมาทำให้มีคนพลัดถิ่นแล้วไม่ต่ำกว่า 2,000 คน.-814.-สำนักข่าวไทย

“คิม จอง-อึน” ชี้ถึงเวลาที่ต้องเตรียมพร้อมทำสงคราม

เปียงยาง 11 เม.ย.- คิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือระบุว่า สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่ไร้เสถียรภาพรอบเกาหลีเหนือทำให้ขณะนี้คือเวลาที่ต้องเตรียมพร้อมทำสงครามมากกว่าที่เคยเป็นมา สำนักข่าวกลางเกาหลีหรือเคซีเอ็นเอ (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า เมื่อวานนี้นายคิมได้ตรวจเยี่ยมมหาวิทยาลัยการทหารและการเมืองคิม จอง-อิล ที่ตั้งตามชื่อบิดาของเขาที่ถึงแก่อสัญกรรมในปี 2554 เขากล่าวกับบุคลากรและนักศึกษาว่า หากศัตรูเลือกที่จะเผชิญหน้าทางทหารกับเกาหลีเหนือ เกาหลีเหนือจะเด็ดหัวศัตรูอย่างไม่ลังเลด้วยการระดมสรรพกำลังทุกอย่างที่มีอยู่ในครอบครอง สถานการณ์ระหว่างประเทศที่ซับซ้อน และสถานการณ์การทหารและการเมืองไร้เสถียรภาพรอบเกาหลีเหนือ ทำให้ขณะนี้ถึงเวลาที่จะต้องเตรียมพร้อมทำสงครามอย่างรอบคอบมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา นายคิม ซึ่งขึ้นเป็นผู้นำประเทศนับจากบิดาถึงแก่อสัญกรรมได้เร่งพัฒนาด้านอาวุธในช่วงหลายปีมานี้ และกระชับความสัมพันธ์ทางทหารและการเมืองกับรัสเซีย โดยถูกกล่าวหาว่าให้การช่วยเหลือรัสเซียในการทำสงครามยูเครนแลกกับการรับความช่วยเหลือในโครงการทางทหารเชิงยุทธศาสตร์ และเมื่อต้นเดือนนี้เขาได้กำกับดูแลการทดสอบขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยกลางความเร็วเหนือเสียงที่ใช้เชื้อเพลิงแข็ง เป็นเชื้อเพลิงที่นักวิเคราะห์ระบุว่า จะส่งเสริมให้เกาหลีเหนือสามารถติดตั้งขีปนาวุธได้มีประสิทธิภาพมากกว่าเชื้อเพลิงเหลว.-814.-สำนักข่าวไทย

ลุฟท์ฮันซางดเที่ยวบินกรุงเตหะรานของอิหร่าน

สายการบินลุฟท์ฮันซาของเยอรมนี แจ้งว่า ได้งดให้บริการเที่ยวบินไป-กลับกรุงเตหะรานของอิหร่าน เนื่องจากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง เป็นการเฝ้าระวังเรื่องอิหร่านอาจแก้แค้นตามที่สันนิษฐานว่าอิสราเอลโจมตีสถานทูตอิหร่านในซีเรีย

ผู้นำสหรัฐ-ญี่ปุ่นชื่นมื่นในงานเลี้ยงอาหารค่ำ

วอชิงตัน 11 เม.ย.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐและนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่นกระชับความสัมพันธ์กันอย่างชื่นมื่นในงานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างเป็นทางการที่ผู้นำสหรัฐจัดเลี้ยงให้แก่ผู้นำญี่ปุ่นที่มาเยือน ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวในห้องจัดเลี้ยงเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐว่า ญี่ปุ่นและสหรัฐอาจห่างกันด้วยระยะทาง แต่ได้ต่อสู้ร่วมกันมาหลายชั่วอายุคนเพื่อความหวังเดียวกัน คุณค่าเดียวกัน การยึดมั่นในประชาธิปไตย เสรีภาพ และศักดิ์ศรีของทุกคนร่วมกัน และในวันนี้ความเป็นพันธมิตรได้แข็งแกร่งมากกว่าที่เคยเป็นมา ด้านนายกรัฐมนตรีคิชิดะกล่าวว่า ญี่ปุ่นและสหรัฐมีความเป็นเอกภาพมากกว่าที่เคย เขาเชื่อว่ามหาสมุทรแปซิฟิกได้นำ 2 ประเทศมาพบกันและใกล้ชิดกันเพราะจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกของคนรุ่นก่อนและจิตวิญญาณแห่งการอยู่แนวหน้าที่คนรุ่นปัจจุบันมีร่วมกัน และขอปิดท้ายคำกล่าวด้วยการยกประโยคสำคัญในภาพยนตร์แนวไซไฟเรื่องสตาร์เทร็คที่ว่า ท่องไปอย่างกล้าหาญในที่ที่ไม่เคยมีใครไปมาก่อน งานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างเป็นทางการที่ผู้นำสหรัฐจัดให้แก่ผู้นำญี่ปุ่นมีผู้มีชื่อเสียงชาวอเมริกันเข้าร่วมด้วยหลายคน เช่น อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน เจฟฟ์ เบโซส ผู้ก่อตั้งแอมะซอน โรเบิร์ต เดอ นีโร นักแสดงรุ่นลายคราม ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ผู้นำสหรัฐและญี่ปุ่นได้แถลงข่าวร่วมกันหลังเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอด เปิดเผยเรื่องแผนการร่วมมือทางทหารและโครงการต่าง ๆ ตั้งแต่ขีปนาวุธไปจนถึงการส่งยานลงจอดบนดวงจันทร์ โดยเป็นการประชับความเป็นพันธมิตรเพื่อต้านทานจีนและรัสเซีย.-814.-สำนักข่าวไทย

อดีตผู้นำไต้หวันพบ “สี จิ้นผิง”ที่จีน

ปักกิ่ง 10 เม.ย.- นายหม่า อิงจิ่ว อดีตประธานาธิบดีไต้หวันพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนที่กรุงปักกิ่งในวันนี้ เป็นการพบกันครั้งที่ 2 และมีขึ้นก่อนที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของไต้หวันจะสาบานตนรับตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม สื่อทางการจีนรายงานเรื่องประธานาธิบดีสีพบกับนายหม่าที่กรุงปักกิ่ง แต่ยังไม่ได้รายงานรายละเอียดเนื้อหาการพบกัน นายหม่าวัย 73 ปี ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันปี 2551-2559 เขาไปเยือนจีนเมื่อปี 2566 นับเป็นอดีตประธานาธิบดีไต้หวันคนแรกที่ไปเยือนจีน หลังจากรัฐบาลสาธารณรัฐจีนพ่ายแพ้สงครามกลางเมืองในปี 2492 แล้วหนีไปยังเกาะไต้หวัน และไม่เคยมีประธานาธิบดีไต้หวันในตำแหน่งไปเยือนจีนแม้แต่ครั้งเดียว อย่างไรก็ดี เขาเคยประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีสีนอกรอบการประชุมระหว่างประเทศที่สิงคโปร์เมื่อปลายปี 2558 นายหม่ายังคงเป็นสมาชิกอาวุโสของพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักของไต้หวันที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีให้แก่พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าหรือดีพีพี (DPP) เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกันเมื่อเดือนมกราคม พรรคก๊กมินตั๋งสนับสนุนการมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีน แต่ยืนยันว่าไม่ได้ฝักใฝ่จีน การเยือนจีนครั้งนี้ของนายหม่ามีขึ้นก่อนที่นายไล่ ชิงเต๋อ จากพรรคดีพีพีจะสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 พฤษภาคม สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานว่า นายหม่านำคณะที่มีนักเรียนนักศึกษารวมอยู่ด้วยเดินทางถึงกรุงปักกิ่งเมื่อวันอาทิตย์ หลังจากตระเวนเยือนมณฑลกวางโจวและมณฑลฉ่านซี เกียวโดรายงานว่า สื่อไต้หวันรายงานในตอนแรกว่า นายหม่าอาจพบกับประธานาธิบดีในวันจันทร์ แต่ต่อมารายงานว่ากำหนดการพบกันอาจถูกเลื่อนมาเป็นวันนี้ ซึ่งตรงกับวันที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐประชุมสุดยอดกับนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่นที่กรุงวอชิงตัน.-814.-สำนักข่าวไทย

1 162 163 164 165 166 633