ทส.เร่งเตรียมพร้อมรับมืออุทกภัย-แผ่นดินถล่มในฤดูน้ำหลาก

กรุงเทพฯ​ 25​ ก.ค. – “เฉลิมชัย” กำชับทุกหน่วยงานสังกัด​กระทรวง​ ทส. เฝ้าระวัง-ปฏิบัติการเชิงรุก ป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนจากเหตุ​อุทกภัย​และ​แผ่นดินถล่ม​ในฤดู​น้ำหลาก​ ย้ำวิเคราะห์​ข้อมูล​เพื่อ​แจ้ง​เตือน​อย่าง​ทันท่วงที​ พร้อม​ระดม​เจ้าหน้าที่​ช่วย​เหลือ​ประชาชน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า​ สั่งการ​ให้​ทุก​หน่วยงาน​เตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย แผ่นดินถล่ม และการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเน้นย้ำทั้งการเฝ้าระวัง​ ประเมินสถานการณ์​ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ในช่วงฤดูฝนที่อาจเกิดสถานการณ์น้ำท่วมและดินถล่มในหลายพื้นที่ของประเทศ ทั้งนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงสิ้นสุดฤดูฝน ปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้นและอาจมีพายุเข้าสู่ประเทศไทย 1-2 ลูก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่ จึงต้องเตรียมความพร้อมทั้งในด้านการป้องกันและการช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องตลอดฤดูฝน สำหรับ​มาตรการเร่งด่วนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้​มอบหมาย​ให้​หน่วยงาน​ที่​เกี่ยวข้อง​ดำเนินการ​ดังนี้ ส่วน​การเตรียมความพร้อมระยะยาวได้​กำชับ​แนวทาง​ดำเนินการ​ได้​แก่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานในสังกัด ทส. รายงานผลการปฏิบัติและสถานการณ์ภัยพิบัติให้ศูนย์อำนวยการและประสานงานให้ความช่วยเหลือประสบอุทกภัยของกระทรวง (ศอป.ทส.) ทุกวัน เวลา 10.00 น. จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ โดยเน้นย้ำการปฏิบัติการเชิงรุก เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นสำคัญ. – 512-สำนักข่าว​ไทย​

ตร.ไซเบอร์ ขอชาวโซเชียล ไม่แชร์-ไม่โพสต์-ไม่ส่งต่อข่าวปลอม

25 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ ขอความร่วมมือชาวโซเชียล ไม่แชร์ ไม่โพสต์ ไม่ส่งต่อข่าวปลอมหรือข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความมั่นคง กองทัพ หรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และข้าราชการตำรวจในสังกัด แถลงการณ์ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะบริเวณชายแดนประเทศไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะผู้ที่เป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อันน่าเศร้าดังกล่าว และขอส่งกำลังใจและความห่วงใยไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคงทุกนายตลอดจนพี่น้องประชาชนในพื้นที่แนวชายแดนที่อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ข้อพิพาทระหว่างประเทศในห้วงที่ผ่านมา โดยในช่วงเวลาที่สถานการณ์มีความอ่อนไหว ตำรวจไซเบอร์พบเบาะแสว่าได้มีการเผยแพร่ข่าวปลอม หรือ Fake News, คลิปบิดเบือน และข้อความปลุกปั่นในโซเชียลมีเดีย ที่อาจก่อให้เกิดความตื่นตระหนกในสังคม รวมทั้งพบการโพสต์ภาพหรือวิดีโอคลิปแสดงความรุนแรงต่อคนต่างด้าวที่เข้ามาทำมาหากินด้วยอาชีพสุจริตในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอความร่วมมือผู้ใช้บัญชีโซเชียล ดังนี้ โดยเฉพาะการโพสต์ปลุกระดมจะไปทำร้ายชาวกัมพูชาในประเทศ หรือโพสต์ภาพการบุกไปทำร้ายชาวกัมพูชา ล้วนแล้วแต่เป็นการทำผิดกฎหมายบ้านเมืองทั้งสิ้น เราควรกระทำตัวให้เป็นคนมีอารยะ รู้จักแยกแยะ หากพบมีการทำผิดในลักษณะดังกล่าวจะต้องถูกดำเนินคดีเช่นกัน สิ่งที่ประชาชนควรทำคือ-ติดตามข่าวสารจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ เช่น กองทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สื่อกระแสหลัก และหน่วยงานภาครัฐ-ใช้วิจารณญาณก่อนแชร์ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่สถานการณ์อ่อนไหว-แจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ที่ www.thaipoliceonline.go.th หรือโทรสายด่วน 1441 ตลอด 24 ชั่วโมง. -412-สำนักข่าวไทย

ออมสิน เร่งช่วยเหลือสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา และน้ำท่วมภาคเหนือ

กรุงเทพฯ 25 ก.ค. – ออมสิน เร่งช่วยเหลือสถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา และอุทกภัยภาคเหนือตอนบน พร้อมพักชำระหนี้ลดภาระ และให้สินเชื่อเพื่อผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบ นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินเร่งส่งมอบความช่วยเหลือเฉพาะหน้า แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวมถึงผู้ประสบภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะจังหวัดน่าน เชียงราย พะเยา แพร่ และลำปาง เบื้องต้น ธนาคารประกาศพักชำระเงินต้นแก่ลูกหนี้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากทั้ง 2 เหตุการณ์ ซึ่งส่งผลให้ขาดรายได้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามปกติ โดยให้ชำระเพียงดอกเบี้ยบางส่วน เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระหนี้ให้ลูกหนี้ และช่วยประคับประคองจนกว่าจะพ้นจากภาวะวิกฤต มาตรการพักชำระเงินต้น-จ่ายดอกเบี้ยบางส่วน สำหรับลูกหนี้สินเชื่อทุกประเภทของธนาคาร ซึ่งธนาคารจะจัดแผนการชำระหนี้ที่เหมาะสมกับระดับผลกระทบของลูกหนี้แต่ละราย โดยให้พักชำระเงินต้นจนถึงงวดเดือนธันวาคม 2568 และชำระดอกเบี้ยบางส่วนตามแผนการชำระหนี้ที่กำหนด ลูกหนี้ที่ประสบภัยสามารถติดต่อขอเข้าร่วมมาตรการฯ ได้ที่ธนาคารออมสินสาขาที่ใช้บริการสินเชื่อ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ ธนาคารได้ส่งมอบความช่วยเหลือที่จำเป็นเร่งด่วนลงในพื้นที่ของทั้ง 2 เหตุการณ์ โดยในส่วนของสถานการณ์น้ำท่วม ธนาคารได้มอบงบประมาณช่วยเหลือเร่งด่วน จำนวน 750,000 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่ […]

ฟรุ๊ตบอร์ด​เห็น​ชอบ​โครงการ​พัฒนา​ลำไย​ ดันราคาระยะยาว

กรุงเทพฯ​ 25​ ก.ค.​ – “อรรถกร” รมว.เกษตรฯ นำประชุมฟรุ๊ตบอร์ด เห็นชอบโครงการพัฒนาสวนลำไยคุณภาพ ทุ่ม 1,000 ล้านบาท เพิ่มลำไยเกรด A-AA เตรียมเสนอ ครม. มั่นใจแก้ปัญหายั่งยืน นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ครั้งที่ 5/2568 ว่า ที่ประชุมเห็นชอบโครงการพัฒนาสวนลำไยคุณภาพตัดแต่งทรงพุ่ม/ช่อผล ฟื้นฟูสวนลำไย เพื่อเพิ่มรายได้และยกระดับผลผลิต โดยเน้นการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในระยะยาว ทั้งด้านการผลิตและการตลาด เพื่อสร้างความมั่นคงในอาชีพชาวสวนลำไยและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในตลาดโลก สำหรับโครงการนี้ สนับสนุนค่าตัดแต่งทรงพุ่ม กิ่ง และช่อผล รวมถึงปัจจัยการผลิต อัตราไร่ละ 1,400 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ต่อครัวเรือน ภายใต้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขให้เกษตรกรดำเนินการตัดแต่งทรงพุ่ม/ช่อผล ฟื้นฟูสวน และเข้ารับการอบรมการผลิตลำไยคุณภาพ โดยตั้งเป้าหมายพื้นที่ 600,000 ไร่ ใน 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ […]

กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เผยครึ่งแรกปี 68 กำไรสุทธิ 1,121 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 25 ก.ค. – กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เผยผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2568 กำไรสุทธิ 1,121 ล้านบาท เติบโต 25.8% ขณะที่ LH Bank กำไรสุทธิ 1,103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.3% สินเชื่อโต 3.4% นายวรวุฒน์ โตเจริญธนาผล President และหัวหน้ากลุ่มงานการเงินและบัญชี บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG เปิดเผยว่า ปี 2568 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวที่ร้อยละ   1.3 – 2.3% YoY ตามการประมาณการของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2568) โดยมีแรงหนุนจากการลงทุนภาครัฐที่มีแนวโน้มขยายตัวดีตามการปรับเพิ่มกรอบงบประมาณรายจ่ายลงทุนประจำปีงบประมาณ 2568 และการส่งออกที่เร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีก่อนที่มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ดี […]

สธ.สั่งการ 9 ข้อเน้นย้ำการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและผู้อพยพ

ก.สาธารณสุข 25 ก.ค. – สธ.ติดตามสถานการณ์ปะทะชายแดน สั่งการ 9 ข้อเน้นย้ำการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและผู้อพยพ โดยมีผู้ได้รับผลกระทบ 44 ราย เสียชีวิต 13 ราย อพยพผู้ป่วยในแล้ว 429 ราย และพลเรือน 83,170 ราย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา โดยหลังการประชุมได้เปิดเผยว่า ในวันนี้มีหลายเรื่องที่ประชุมกัน หลักๆ เป็นข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เน้นย้ำเรื่องของข้อปฏิบัติทั้งหมด 9 ข้อ ตั้งแต่การตั้งศูนย์, การประเมินสถานการณ์, การวางระบบ, การส่งต่อผู้ป่วย, การเตรียมความพร้อม, การสำรองเวชภัณฑ์, การสำรองเลือด, การประสานงานกับพื้นที่ รวมไปถึงการดูแลเฝ้าระวังโรคอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคที่เกิดทางกายหรือทางจิตใจ รายงานผู้ได้รับผลกระทบล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. มีประชาชนได้รับผลกระทบทั้งสิ้นรวม 44 ราย เสียชีวิต 13 ราย บาดเจ็บสาหัส 6 ราย บาดเจ็บปานกลาง เคสสีเหลือง […]

สคร.เร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ

กรุงเทพฯ 25 ก.ค. -สคร.เร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ 3 การไฟฟ้า เบิกจ่ายมากที่สุด นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจที่อยู่ในการติดตามของ สคร. อย่างใกล้ชิด จำนวน 43 แห่ง แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มรัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีบัญชีตามปีงบประมาณ (รัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ) และกลุ่มรัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีบัญชีตามปีปฏิทิน (รัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน) โดยในปี 2568 มีกรอบงบลงทุน จำนวน 263,887 ล้านบาท และมีผลการเบิกจ่ายสะสมจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2568 จำนวน 149,448 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 103 ของแผนการเบิกจ่าย ประกอบด้วยผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ (ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 – เดือนมิถุนายน 2568) 34 แห่ง จำนวน 95,162 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 100 ของแผนการเบิกจ่าย […]

EXIM BANK ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้า

กรุงเทพฯ 25 ก.ค. -EXIM BANK ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้า ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดน พักชำระหนี้เงินต้น 1 ปี นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นจากเหตุปะทะกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่และขยายวงกว้างไปสู่ภาคเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการไทยในพื้นที่ EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบในระยะสั้น ตั้งแต่การยืดหนี้ เติมทุน และผ่อนปรนเงื่อนไขวงเงินกู้เดิม ไปจนถึงมาตรการระยะกลาง กระตุ้นการส่งออกไปตลาดใหม่ เพื่อช่วยผู้ประกอบการไทยก้าวผ่านความยากลำบากและสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ดังนี้ มาตรการระยะสั้น มุ่งเน้นการช่วยเหลือตามความต้องการของกิจการ “EXIM BANK ขอส่งความห่วงใย เป็นกำลังใจให้ทหารไทย และพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดน ขอให้ทุกท่านปลอดภัยและผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน ลูกค้าและผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการค้าระหว่างประเทศ สามารถรับปรึกษา หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ EXIM Contact Center โทร. 0 2169 9999 หรือ Inbox Facebook ‘EXIM Bank […]

บสย. จัด 2 มาตรการด่วน เยียวยาลูกค้า เหตุชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 25 ก.ค.- บสย.ลุยช่วย “ลูกค้า-ลูกหนี้” จากเหตุความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้ง “พักชำระค่าธรรมเนียม-ค่างวด” พร้อมเร่งเสริมสภาพคล่อง SMEs ด้วยโครงการค้ำประกันสินเชื่อวงเงินรวม 5,000 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำฯ 3 ปีแรก เสริมสภาพคล่อง ลดภาระทางการเงิน ช่วย SMEs พลิกฟื้นกิจการพร้อมเดินหน้าต่อได้ นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา ที่สร้างผลกระทบต่อประชาชน และกิจการร้านค้า ผู้ประกอบการ เป็นจำนวนมาก ล่าสุด บสย. ได้ออกมาตรการเร่งด่วน ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ลูกหนี้ที่ถูกจ่ายเคลม และลูกค้าของ บสย. ที่ได้รับผลกระทบให้สามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤต และประคับประคองธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้ นอกจากให้ความช่วยเหลือผ่านมาตรการต่างๆ บสย. ยังได้เฝ้าติดตามสถานการณ์และผลกระทบในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมมอบหมายให้สำนักงานเขต บสย. ที่รับผิดชอบพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งสื่อสารประชาสัมพันธ์มาตรการช่วยเหลือดังกล่าวไปยังลูกค้า และลูกหนี้ บสย. […]

สพฐ.ปิด 751 โรงเรียนพื้นที่เสี่ยงเหตุการณ์ไม่สงบ

ศธ. 25 ก.ค. – สพฐ.ร่วมเยียวยานักเรียน-ครู ที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ปิด 751 โรงเรียนพื้นที่เสี่ยง วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุด ตนเองได้รับรายงานจากนางรัตติกร ทองเนตร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (ผอ.สพม.) ศรีสะเกษ ยโสธร ว่า หลังเกิดเหตุปะทะทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ได้ให้โรงเรียนในสังกัดที่ติดขอบชายแดนไทย-กัมพูชา ทำการอพยพนักเรียนและปิดการเรียนการสอนอย่างเร่งด่วน พร้อมกำชับสถานศึกษาในสังกัดทุกแห่งให้สอดส่องความปลอดภัยของนักเรียน และดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้สั่งการกำชับไว้ อีกทั้งเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. เมื่อวานนี้ (24 ก.ค.) ฝ่ายกัมพูชาได้ยิงกระสุนปืนใหญ่ตกใส่ร้านสะดวกซื้อ ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. บ้านน้ำเย็น อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ในจำนวนนี้มีเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.3 ด้วย กระทรวงศึกษา โดย […]

สธ.ประชุมสรุปผู้บาดเจ็บ-ผู้เสียชีวิต เหตุปะทะชายแดนล่าสุด

ก.สาธารณสุข 25 ก.ค. – สธ.ประชุมติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บ 31 ราย นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์เหตุ ปะทะชายแดน ไทย-กัมพูชา พร้อมรายงานข้อมูลสถานการณ์ด้านการแพทย์และสาธารณสุข สรุปข้อมูลผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ตัวเลขล่าสุดวันที่ 25 กรกฏาคม 2568 เวลา 09.00 น. ประชาชนได้รับผลกระทบทั้งหมด 45 ราย แบ่งเป็นผู้เสียชีวิต 14 ราย ผู้บาดเจ็บสาหัสเคสสีแดง 7 ราย สีเหลือง 13 ราย สีเขียว 11 ราย โดยแบ่งเป็นรายจังหวัดดังนี้ ใน จ.อุบลราชธานี มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บกลุ่มอาการสีแดง 3 ราย /เหลือง 1 ราย, จังหวัดศรีสะเกษ มีผู้เสียชีวิต […]

ตลท.สั่งบอร์ด FVC ชี้แจงใช้เงินลงทุนนิคมอุตสาหกรรมเวิลด์ (ลำพูน)

กรุงเทพฯ 25 ก.ค. – ตลท.ขอให้คณะกรรมการบริษัท FVC ชี้แจงมาตรการและแนวทางกำกับดูแลเงินลงทุนที่ใช้ในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเวิลด์ (ลำพูน) ภายใน 6 ส.ค.68 พร้อมรายงานความคืบหน้า ส่งงบการเงินจนกว่าการลงทุนพัฒนานิคมฯ จะแล้วเสร็จ ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) (FVC) จะเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เพื่อขออนุมัติเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท เวิลด์ อินดัสเทรียล เอสเตท จ ากัด (WIE) และพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเวิลด์ (ลำพูน) มูลค่าเงินลงทุนและพัฒนาโครงการเท่ากับ 1,161 ล้านบาท คิดเป็นขนาดรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ร้อยละ 94.15 ซึ่งคณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาความครบถ้วนของเงินลงทุนและการคำนวณขนาดรายการแล้วนั้น แม้ขนาดรายการยังไม่ถึงหรือเกินกว่าร้อยละ 100 อันจะทำให้จัดเป็นการเข้าจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์โดยอ้อม (Backdoor Listing) รายละเอียดตามข่าวที่เกี่ยวข้องและรายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระที่เผยแพร่วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 แต่เพื่อเป็นประโยชน์ของผู้ลงทุนตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม และรายงานความคืบหน้าการลงทุน ดังนี้

1 51 52 53 54 55 790