Somyot Dangyoun

กัมพูชา 9 มิ.ย.66-ร.ท.ณัยณพ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกเเห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากผลงานของทัพนักกีฬาพาราไทยในมหกรรมกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ที่สามารถครองอันดับ 2 ของตารางรวมเหรียญรางวัล ภาพรวมถือว่าประสบความสำเร็จ เป็นที่น่าพอใจนักกีฬาพาราไทยสามารถสร้างผลงานได้ดีทั้งนักกีฬาที่มีประสบการณ์รวมถึงนักกีฬารุ่นใหม่ที่ก้าวขึ้นมารับใช้ชาติ และจะเป็นแนวทางที่ดีในการปรับปรุงและต่อยอดเพื่อลงชิงชัยในการแข่งขัน เอเชี่ยนเกมส์ 2023 ที่นครหางโจว ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 22-28 ตุลาคม ปีนี้รวมไปถึงรายการใหญ่อย่างพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม 2567 – 8 กันยายน 2567 ร.ท.ณัยณพ กล่าวต่อไปว่า ในการเตรียมทีมของเรา กีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ถือว่าเป็นการแข่งขันที่สร้างนักกีฬารุ่นใหม่ ขึ้นมาเสริมทีมร่วมกับนักกีฬารุ่นพี่ที่มีประสบการณ์ ซึ่งแกนหลักนักกีฬาของไทยในชนิดกีฬาหลักๆอย่าง กรีฑายังคงมี “กร” พงศกร แปยอ นักวีลแชร์เรซซิ่ง รวมถึง “ฟิว” อธิวัฒน์ แพงเหนือ เป็นแกนหลักล่าเหรียญรางวัลให้กับทีมอีกนานเพราะอายุยังน้อย ขณะที่กีฬาว่ายน้ำ เรามี “เงือกปิ่น” อัญชญา เกตุแก้ว คอยเก็บเหรียญให้กับไทย  ส่วนกีฬาอื่นๆ เช่น เทเบิลเทนนิส เรายังมีมือเก๋าอย่าง “รุ่ง” รุ่งโรจน์ ไทยนิยม คอยประคองน้องๆ ในทีม ที่สำคัญในอาเซียนพาราเกมส์ครั้งนี้เห็นได้ชัดว่ามีนักกีฬาดาวรุ่งหน้าใหม่ แจ้งเกิดได้มากมาย รวมถึงมีผลงานในแง่ของการทำลายสถิติทั้งกับของตัวเองและของอาเซียนพาราเกมส์อีกด้วย ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีของวงการกีฬาพาราของเมืองไทยโดยหลังจบอาเซียนพาราเกมส์ ที่กรุงพนมเปญ จะให้นักกีฬาพักสัก ก่อนที่จะเรียกนักกีฬากลับมาเก็บตัวฝึกซ้อมกันต่อ  เพราะในปี 2566 เรายังมีรายการสำคัญอย่างกีฬาเอเชี่ยนพาราเกมส์ 2023 ที่นครหางโจว ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 22-28 ตุลาคม รวมไปถึงรายการใหญ่อย่างพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่28 สิงหาคม 2567 – 8 กันยายน 2567 อีกด้วย-สำนักข่าวไทย

กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย 25 พ.ค.66-สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย จัดพิธีจับสลาก แบ่งสายการแข่งขันฟุตบอล ชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก สำหรับ การแข่งขันรายการดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 11 กลุ่ม และนำทีมแชมป์กลุ่มพร้อมด้วย รองแชมป์กลุ่มที่ดีที่สุด 4 จาก 11 กลุ่ม รวม 15 ชาติ ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ต่อไป โดยผลการจับสลากมีดังนี้ กลุ่ม เอ – จอร์แดน(เจ้าภาพ),ซีเรีย,โอมาน,บรูไน กลุ่ม บี – เกาหลีใต้(เจ้าภาพ),เมียนมา,คีร์กีซสถาน,กาตาร์ กลุ่ม ซี – เวียดนาม(เจ้าภาพ),สิงคโปร์,เยเมน,กวม กลุ่ม ดี – ญี่ปุ่น,บาห์เรน เจ้าภาพ,ปาเลสไตน์,ปากีสถาน กลุ่ม อี – อุซเบกิสถาน(เจ้าภาพ),อิหร่าน,ฮ่องกง,อัฟกานิสถาน กลุ่ม เอฟ – อิรัก,คูเวต(เจ้าภาพ),ติมอร์-เลสเต,มาเก๊า กลุ่ม จี – สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์,อินเดีย,มัลดีฟส์,จีน(เจ้าภาพ) กลุ่ม เอช – ไทย(เจ้าภาพ),มาเลเซีย,บังกลาเทศ,ฟิลิปปินส์ กลุ่ม ไอ – ออสเตรเลีย,ทาจิกิสถาน(เจ้าภาพ),สปป.ลาว,เกาหลีเหนือ กลุ่ม เจ – ซาอุดีอาระเบีย(เจ้าภาพ),กัมพูชา,เลบานอน,มองโกเลีย กลุ่ม เค – เติร์กเมนิสถาน,อินโดนีเซีย(เจ้าภาพ),ไต้หวัน สำหรับการแข่งขันรอบดังกล่าวจะแข่งขันกันในช่วงฟีฟ่า เดย์ เดือนกันยายน ระหว่างวันที่ 4-12 กันยายน 2566 โดย

กรุงเทพฯ 25 พ.ค.66-นายธิติ พฤกษ์ชะอุ่ม กรรมการผู้จัดการบริษัท แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จํากัด เปิดเผยว่า “แกรนด์สปอร์ต” เตรียมเปิดตัวชุดแข่งขันวอลเลย์บอลทีมชาติไทย ปี 2023 ภายใต้แนวคิด THE PHENOMENON การรวมพลังครั้งสำคัญของนักวอลเลย์บอลทีมชาติไทยที่จะมาสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ให้โลกต้องจดจำ โดยลวดลายของชุดได้รับแรงบันดาลใจจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ พายุหมุน ฟ้าร้อง สายฟ้าผ่า แผ่นดินไหว ธารลาวา มารวมกันเป็นลวดลายกราฟิคบนตัวชุด เพื่อสื่อถึงความแข็งแกร่งและทรงพลังของธรรมชาติ และยังเป็นการบอกให้ทุกคนได้รู้ว่าปีนี้ทีมวอลเลย์บอลทีมชาติไทยจะกลับมาสร้างปรากฏการณ์ให้แฟนวอลเลย์บอลได้ภาคภูมิใจอีกครั้ง โดยเฉพาะการแข่งขันรายการสำคัญคือ การแข่งขันรอบคัดเลือก วอลเลย์บอลหญิงโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่จะจัดขึ้นในปีนี้ด้วย “สำหรับแนวคิดชุดแข่งขันวอลเลย์บอลทีมชาติไทยในปีนี้ เราใช้คำว่า Phenomenon หมายถึงปรากฏการณ์อยากให้แฟน ๆได้ลุ้นได้เชียร์ว่าปีนี้ทีมวอลเลย์ของเราจะมาสร้างปรากฏการณ์ให้พวกเราได้เห็น หลังจากที่แต่ละคนได้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการเล่นในลีกต่างประเทศ ถึงเวลาที่ทุกคนจะกับมารวมพลังสร้างความภาคภูมิใจให้พวกเราอีกครั้ง สำหรับสีที่เลือกมาทำชุดแข่งขันในปีนี้ เรากำหนดไว้ 4 สี ซึ่งเป็นสีหลักที่นักกีฬารวมถึงแฟนวอลเลย์บอลชื่นชอบก็คือ น้ำเงิน แดง ขาว และดำ ตัวแทน ของ ดิน น้ำ ลม ไฟ และเป็นสีเอกลักษณ์ของทีมชาติไทยโดดเด่นด้วยลายกราฟิกปรากฏการณ์ธรรมชาติ” นายธิติ กล่าว นายธิติ กล่าวอีกว่า ในส่วนของดีไซน์ชุดแข่งขันวอลเลย์บอลทีมชาติไทยจะเป็นรูปทรงแขนกุดกระชับเข้ารูป รับกับสรีระของนักกีฬา ทำให้เคลื่อนไหวคล่องตัว บนหน้าอกขวาพิมพ์โลโก้แกรนด์สปอร์ต หน้าอกซ้ายติดอาร์มธงชาติไทย ด้วยเทคนิค 3D Glitter มีความคมชัด คงทน และสวยงาม คอเสื้อทรงคอวีซ้อนด้วยผ้าสีทูโทน พิมพ์สีบนบ่าทั้ง 2 ข้าง เสื้อและกางเกงเป็นสีเดียวกัน เนื้อผ้า Eco Qurad ทอลายพิเศษ น้ำหนักเบา นุ่มสบาย ระบายเหงื่อได้ดี  พร้อมนวัตกรรม Anti-Bacterial ลดการสะสมและยับยั้งแบคทีเรีย ลดการเกิดกลิ่น ทำให้รู้สึกสดชื่นตลอดการสวมใส่ “ตลอดระยะเวลาที่แกรนด์สปอร์ตได้ร่วมมือกับสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลฯ เราได้มีการพูดคุยกับนักกีฬาตลอดเป็นระยะ ๆ จากนั้นทางทีมดีไซเนอร์ของแกรนด์สปอร์ตก็ได้นำข้อมูลที่ได้รับมาประยุกต์จนกระทั่งทุกฝ่ายชื่นชอบนอกจากชุดแข่งขันแล้ว ชุดที่สำหรับใส่เดินทาง หรือชุด Official Set แกรนด์สปอร์ตได้มีการออกแบบเสื้อผ้าเหล่านี้ให้นักกีฬาสวมใส่ด้วยเพื่อสร้างความหลากหลายและความสนุกในเรื่องการแต่งตัวให้กับนักกีฬาอีกด้วย สำหรับในปีนี้นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยจะมีแมตช์การแข่งขันค่อนข้างเยอะ ทางแกรนด์สปอร์ตอยากให้พี่น้องประชาชนและแฟนกีฬาทุกท่านช่วยเชียร์น้อง ๆ นักกีฬา ให้พวกเขามีกำลังใจ ซึ่งทีมวอลเลย์บอลทีมชาติไทยมีโปรแกรมการแข่งขันตลอดทั้งปีครับ” นายธิติ กล่าวเสริม ด้าน “บีม” พิมพิชยา ก๊กรัมย์ นักตบสาวทีมชาติไทย กล่าวว่า “ลายเสื้อปีนี้มาในธีม Phenomenon หรือปรากฏการณ์ ซึ่งจะเห็นลายต่าง ๆ คือสายฟ้า พายุ และอื่น ๆ บนเสื้อ เพราะว่าปีนี้เราก็จะมาสร้างปรากฏการณ์กันค่ะส่วนตัวชอบสีน้ำเงินค่ะ เพราะว่าปีที่แล้วไม่มี แต่ปีนี้มีสีน้ำเงินกลับมาให้เราได้ใส่ก็เลยชอบค่ะ ใส่แล้วรู้สึกเนื้อผ้าดีมาก เบาสบายเวลาเล่นแล้วก็ไม่ต้องกังวลว่าการที่จะใส่แล้วเสื้อดูไม่พอดีอะไรอย่างนี้ กางเกงก็ชอบค่ะ เพราะว่าเนื้อผ้าดีมากเลยค่ะ กระชับสัดส่วนดีมากค่ะ ฝากถึงแฟน ๆ ชาวไทยทุกคนนะคะ ปีนี้พวกเราจะกลับมาสร้างปรากฏการณ์อีกครั้งหนึ่งค่ะ” ส่วน “โมเม” ธนัชชา สุขสด นักตบสาววัย 23 ปี กล่าวว่า “ส่วนตัวชอบสีดำมากที่สุดค่ะ เพราะว่าใส่แล้วดูแข็งแรงแล้วก็ดูทรงพลังมากเลยค่ะ สำหรับกางเกงใส่แล้วรู้สึกกระชับมากเลยค่ะ แล้วเวลาเคลื่อนไหว เวลาลงสนาม ก็รู้สึกว่าคล่องแคล่วมาก อีกอย่างหนึ่งตัวเสื้อจะมีลวดลายด้านหลัง ซึ่งเวลาลงเล่นไปก็จะเห็นลายด้วย สวยงามมากค่ะ ตอนนี้พวกเราเองก็ฝึกซ้อมกันมาอย่างหนักค่ะ ก็ฝากพี่น้องชาวไทยช่วยส่งแรงใจเชียร์ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยด้วยนะคะ”  ขณะที่ “เตย” หัตถยา บำรุงสุข เปิดเผยว่า “ชอบทุกชุดเลยค่ะสำหรับชุดแข่งขันในปีนี้ โดยเฉพาะสีแดงจะรู้สึกว่าเวลาใส่แล้วจะรู้สึกมีความร้อนแรงและรู้สึกมีพลังมาก ๆ  ยิ่งลวดลายบนเสื้อก็มีความจัดจ้านมาก ขอฝากให้แฟน ๆกีฬาวอลเลย์บอลชาวไทยช่วยเป็นกำลังใจให้พวกเรามาก ๆ ยิ่งรายการในปีนี้มีความสำคัญมาก ๆ ทุกรายการไม่ว่าจะเป็นรายการเล็กหรือว่ารายการใหญ่ เนื่องจากมีผลกับการคัดเลือกไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศสทั้งหมด ปิดท้ายที่ “น้องแป้น” หรือ “ปลาวาฬ” ปิยะนุช แป้นน้อย ลิเบอโร่สาวทีมชาติไทย กล่าวว่า “สำหรับเสื้อสีขาวนั้นคือเป็นกฎของ FIVB ที่ทุกทีมต้องมีสีขาวค่ะ ปีที่แล้วก็เห็นดราม่ากันนิดนึงว่าพวกเราใส่สีชาวแล้วแพ้ตลอด ไม่อยากให้ทุกคนคิดแบบนั้นนะคะ อยากให้ทุกคนโฟกัสเรื่องการแข่งขันมากกว่า ไม่ว่าจะสีไหนพวกเราก็เล่นเต็มที่ค่ะฝากติดตามและเป็นกำลังใจให้พวกเราค่ะ ปีนี้มีการแข่งขันหลายรายการมากเลยค่ะ และมีสนามแข่งที่ไทยด้วยก็อยากให้มาที่สนามแล้วก็เชียร์พวกเราเยอะ ๆ” สำหรับชุดแข่งขันวอลเลย์บอลทีมชาติไทย ปี 2023 มี 4 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน สีแดง สีขาว และสีดำ ไซซ์ S ถึงไซซ์XL ราคาตัวละ 790  บาท, ไซซ์ 2XL ราคาตัว 830 บาท นอกจากนี้ยังมีเสื้อแฟนคลับวอลเลย์บอลทีมชาติไทย ปี2023 ลวดลายเดียวกับชุดแข่งขันวอลเลย์บอลทีมชาติไทย ปี 2023 มี 4 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน สีแดง สีขาว และสีดำ เช่นเดียวกัน เสื้อแฟนคลับทรงผู้หญิง ไซซ์ S ถึงไซซ์ XL ราคาตัวละ 790 บาท, ไซซ์ 2XL ราคาตัวละ 830  บาท / เสื้อแฟนคลับทรงผู้ชาย ไซซ์ XS ถึงไซซ์ XL ราคาตัวละ 790 บาท และไซซ์ 2XL ถึง ไซซ์ 3XLราคาตัวละ 830  บาท พร้อมจำหน่าย วันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ที่ร้านแกรนด์สปอร์ต ช็อป ทุกสาขา / แกรนด์สปอร์ต ช็อป ออนไลน์ / Sports Mall ทุกสาขา และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ-สำนักข่าวไทย

 ‘ป๋อง’ กพล ทองพลับ พิธีกรชื่อดังและ เก่ง มนต์ชัย นักจัดรายการวิทยุ FM.99 ผู้เป็นแฟนบอลเดอะ กันเนอร์ส ตัวยงรวมกลุ่มแฟนคลับอาร์เซนอลประเทศไทยกว่า 200 ชีวิตรวมตัวกันนับถอยหลัง 10 เกมสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก2022/23 ในเกมที่”ปืนใหญ่” เปิดบ้านถล่มลีดส์ ยูไนเต็ด 4-1 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ที่ ร้านมัลดีฟส์ เหม่งจ๋าย โดย บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกครื้นโดยอีเวนท์นี้ได้รวมเหล่าอินฟลูเอนเซอร์และแอดมินเพจแฟนคลับอาร์เซนอลในประเทศไทยมาร่วมสร้างสีสันแจกของรางวัลมากมาย โดย ‘ป๋อง’ กพล ทองพลับ กล่าวว่า ฤดูกาลนี้ต้องขอชื่นชมนักเตะปืนใหญ่ ที่สร้างความสุขให้กับแฟนบอลอาร์เซน่อลทั่วโลก รวมถึงแฟนบอลอาร์เซน่อลในประเทศไทย ซึ่งนอกจากนี้ยังยกเครดิตให้กับ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือชาวสเปน ที่สร้างเกมรุกและรับในฤดูกาลนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม และหวังว่าจะนำทีมปืนใหญ่คว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้ ส่วนการจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อรวมตัวสาวกเดอะกันเนอร์ส ในไทยได้มารวมตัวเชียร์ทีมรักให้ก้าวคว้าแชมป์ ซึ่งมีแฟนบอลปืนใหญ่ตอบรับเป็นจำนวนมาก ซึ่งเชื่อว่าแฟนอาร์เซน่อลในไทยยังมีอีกมายมาย สำหรับ อาร์เซน่อล แข่ง 29 นัด ชนะ 23 เสมอ 3 แพ้ 3 มี 72 คะแนน นำหน้าอันดับ 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่  8 คะแนนแต่แข่งมากกว่า 1 นัด ขณะการแข่งขันของอาร์เซน่อล เหลืออีก 9 นัด ในฤดูกาลนี้

19 มี.ค.66-มาเลเซีย การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ “Sepang 12 Hours” บนเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิตประเทศมาเลเซีย สนามความยาว 5.543 ก.ม. เป็นการกลับมาจัดอีกครั้งนับตั้งแต่ปี 2016 รายการนี้แข่งขันแบบเอนดูรานซ์สำหรับคลาสจีที 3 และเป็นทัวริ่งคาร์ที่ได้ชื่อว่ายากและโหดที่สุดในทวีปเอเชีย ด้วยความยาวนานถึง 12 ชั่วโมงท่ามกลางอากาศร้อนชื้นของมาเลเซียที่แปรปรวนได้ตลอดวัน รายการนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของอินเตอร์คอนติเนนตัล จีทีชาลเลนจ์อีกด้วย “ต๊อด” ปิติ ภิรมย์ภักดี ได้ร่วมแข่งขันรายการนี้ด้วยภายใต้ทีมเอเอไอ มอเตอร์สปอร์ตส์ พร้อมกับนักแข่งอีก 2 คนคือธนาตย์ เสถียรถิระกุล นักขับชาวไทยอีกคน และ ยิน-ยู เชน นักขับชาวไต้หวัน โดยใช้รถบีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม4 จีที3 หมายเลข 91 ผลการแข่งขันปรากฏว่าทีมเอเอไอ มอเตอร์สปอร์ตส์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม มีหลายช่วงที่สามารถขึ้นไปนำอันดับหนึ่งโอเวอร์ออล ก่อนสุดท้ายจะพาบีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม4 จีที3 หมายเลข 91 จบการแข่งขันในอันดับหกโอเวอร์ออล แต่เป็นอันดับหนึ่งในรุ่นจีที3 แอม ด้วยสถิติ 8 ชั่วโมง 1 นาที 46.571 วินาที อันดับสองในรุ่นจีที3 แอม เป็นรถหมายเลข 51 จากทีมเอแมค มอเตอร์สปอร์ตซึ่งขับโดย แอนดรูว์ แมคเพียร์สัน, วิลเลียม พอร์เตอร์ และ อังเดร ไฮมการ์ทเนอร์ ตามหลังทีพี 12 อยู่ 1 นาที 43.989 วินาที และอันดับสามรถหมายเลข216 ของทีมโมเดนา มอเตอร์สปอร์ตส์ ที่ขับโดย จอห์น เชน, ฟรานซิส ทีเจีย และ คริสเตียน เชีย ส่วนอันดับหนึ่งโอเวอร์ออลเป็นรถหมายเลข 18 ของทีมแอบโซลูท เรซซิง ที่ขับโดยแอนดรูว์ ฮาร์ยันโต, ยู ก๊วย และมาร์คัส วิลเคลฮอก ที่วิ่งไปทั้งหมด 215 รอบโดยใช้เวลาไป 8 ชั่วโมง 1 นาที 44.878 วินาที ทิ้งอันดับสองรถหมายเลข26 จากทีมบี-ควิก แอบโซลูท เรซซิง 16.253 วินาที และอันดับสามรถหมายเลข 16 จากทีมอีบีเอ็ม กิกา เรซซิง ตามหลัง 22.214 วินาที-สำนักข่าวไทย

12 มี.ค.66 ที่โรงแรมบุรีเทล จังหวัดบุรีรัมย์ ได้มีพิธีปิดโครงการ “อบรมทักษะรู้เท่าทันสื่อกีฬา” ครั้งสุดท้าย ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ ร่วมกับ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมี นายวันกล้า ขวัญแก้ว นายกสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ เป็นประธาน พร้อมด้วย นายยุทธชัย พงศ์พณิช รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ให้เกียรติร่วมมอบวุฒิบัตรแก่ผู้ผ่านการอบรม ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์, เคเบิ้ลทีวี, วิทยุกระจายเสียง, สื่อออนไลน์และ ยูทูบเบอร์ ในจังหวัดบุรีรัมย์ และใกล้เคียง กว่า 30 คน โดยการอบรมทั้ง 2 วันที่ผ่านมา (11-12 มีนาคม 2566) มีวิทยากร นำโดย ดร.ณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์ ประธานมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา, นายทีปกร โกมลพันธ์พร อัยการประจำสำนักอัยการสูงสุด, ดร.ศรีดา ตันทะอธิพานิชกรรมการผู้จัดการมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย และคณะสื่อมวลชน นำโดย นายธีรัช โพธิ์พานิช, นายสุรเดชอภัยวงศ์, นายณฤต ศรีทอง, นายสมยศ แดงยวน, นายเกริกชัย คุณโฑ, นายวิรวิชญ์ เจริญเชื้อ, นายกล้าณรงค์ มาโชค และ นายวิศรุต มีบำรุง มาให้ความรู้ทั้งในเรื่องการใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างไรไม่ให้ถูกฟ้อง แนวทางการร่างพระราชบัญญัติการพนันฉบับแก้ไขปรับปรุงใหม่, หลักการสร้างคอนเทนท์เพื่อดึงดูดใจผู้อ่าน/ผู้ชม, การพัฒนาคอนเทนท์ด้วยนวัตกรรมเสียง AI ในรูปแบบแพลตฟอร์มดิจิทัล, กฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และ เทคนิคกระบวนการสัมภาษณ์บุคคลเพื่อนำมาประกอบข่าวแบบง่ายด้วยโทรศัพท์มือถือ  สำหรับโครงการ “อบรมทักษะรู้เท่าทันสื่อกีฬา” ได้จัดครบ 4 ครั้งแล้ว เริ่มตั้งแต่ ภาคกลางและตะวันตก ที่จังหวัดราชบุรี, ภาคใต้ ที่จังหวัดภูเก็ต, ภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ และปิดท้าย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดบุรีรัมย์

11 มี.ค.66 โรงแรมบุรีเทล จ.บุรีรัมย์ ได้มีพิธีเปิดโครงการ “อบรมทักษะรู้เท่าทันสื่อกีฬา” ครั้งที่ 4 ในโซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดโดย กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ พิธีเปิดมี นายธีรัช โพธิ์พานิช อุปนายกนายกสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายทีปกรโกมลพันธ์พร อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด, นายยุทธชัย พงศ์พณิช รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์, นายสุเทพ เยี่ยมศิริ อัยการจังหวัดบุรีรัมย์ และ ดร.ศรีดา ตันทะอธิพานิช กรรมการผู้จัดการมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย ร่วมงานในครั้งนี้ โดยมีสมาชิกเเละภาคีเครือข่ายเข้าร่วมอบรมกันอย่างคึกคัก ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์, เคเบิ้ลทีวี, วิทยุกระจายเสียง, สื่อออนไลน์ และ ยูทูบเบอร์ ในจังหวัดบุรีรัมย์ และใกล้เคียง กว่า 30 คน นายธีรัช โพธิ์พานิช กล่าวว่า ​​“สื่อมวลชน เป็นหนึ่งในวิชาชีพที่สำคัญ ที่มีบทบาทอย่างมากในสังคมปัจจุบันที่มีช่องทางการสื่อสารให้ประชาชนได้เข้าถึงได้หลากหลาย โดยเฉพาะ สื่อออนไลน์ ที่เข้าถึงได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ ได้จัดโครงการอบรมทักษะรู้เท่าทันสื่อกีฬา ทั้งหมด 4 ภาค 4 จังหวัด ซึ่งได้จัดมาแล้ว3 ครั้ง ที่จังหวัดราชบุรี, ภูเก็ต และ เชียงใหม่ ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนเป็นจำนวนมาก “ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการอบรมรู้เท่าทันสื่อกีฬาในครั้งนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์ในการเสริมสร้างองค์ความรู้ เพิ่มทักษะ ความเข้าใจ และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผู้เข้ารับการอบรมในการเปลี่ยนเเปลงสังคมอย่างสร้างสรรค์ ให้สื่อมวลชนสามารถนำเสนอข่าวสารได้อย่างถูกต้อง ไม่ก่อให้เกิดการชี้นำ ไม่ยุยงส่งเสริม หรือนำไปสู่ธุรกิจแฝง ที่ขัดต่อกฎหมายและศิลธรรมอันดีของสังคม และไม่กลายเป็นเครื่องมือในการกระทำผิดกฎหมายของกลุ่มบุคคลใด”  สำหรับการอบรมจัดขึ้น 2 วัน ในวันที่ 11-12 มีนาคม 2566 โดยผู้เข้าร่วมอบรมจะได้ความรู้ในเรื่องการใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างไรไม่ให้ถูกฟ้อง, แนวทางการร่างพระราชบัญญัติการพนันฉบับแก้ไขปรับปรุงใหม่, กฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์, ทำข่าวอย่างไรไม่ให้ละเมิดสิทธิเด็ก, หลักการสร้างคอนเทนท์เพื่อดึงดูดใจผู้อ่าน/ผู้ชม, การพัฒนาคอนเทนท์ด้วยนวัตกรรมเสียง AI ในรูปแบบแพลตฟอร์มดิจิทัล และ เทคนิคกระบวนการสัมภาษณ์บุคคลเพื่อนำมาประกอบข่าวแบบง่ายด้วยโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะมีภาคปฎิบัติจริงและทำแบบทดสอบ จากนั้นจะมี​พิธีมอบประกาศณียบัตรให้กับผู้ผ่านการอบรม-สำนักข่าวไทย

5 มี.ค.66 สมาคมกีฬาแข่งรถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย (MSAT) ร่วมกับกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จัดกิจกรรม “Little Wann be Wow Rider” หรือ “ลิตเติ้ล แว้น บี ว้าว ไรเดอร์” เปลี่ยนมุมมอง ปรับทัศนคติเด็กแว้นทั่วประเทศสู่การเป็นนักขับอาชีพบนสนามแข่งขันจริงต่อเนื่องเป็นสนามสองที่บริเวณลาน BC สแควร์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ ราชประสงค์ กรุงเทพฯ โดยกิจกรรมในสนามที่สองนี้ ยังคงเน้นการอบรมทักษะการขับขี่ในสนามแข่งภาคทฤษฎี และสาธิต ไม่ว่าจะเป็นการอบรมการช่วยเหลือ และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น, การใช้เบรก, คันเร่ง, การควบคุมรถ (ท่านั่ง, มือ, เท้า, เข่า, ศอก), การขับขี่ทางโค้ง (จุดเลี้ยว, วงกลม, เลข8) รวมถึงปิดกิจกรรมปรับทัศนคติ (Life Coach) เพื่อการขับขี่ที่ถูกต้องและปลอดภัย ขณะที่ “ตาล” รัชฎา นาคเจริญศรี ผู้ดูแลโครงการ ลิตเติ้ล แว้น บี ว้าว ไรเดอร์ เผยว่า “ในสนามที่ 2 นี้ได้รับการตอบรับจากน้องๆเด็กแว้น สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ได้พยายามคัดเลือกน้องๆที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้ามา เพื่อจะได้ถูกพัฒนาเรื่องทักษะการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ถูกต้อง รวมถึงยังเป็นการเปิดโอกาสให้น้องๆได้เป็นนักแข่งมืออาชีพได้ต่อไป” ด้าน “บีม” ศรัณยู ประชากริช นักแสดงและพิธีกรขวัญใจเด็กแว้นในฐานะพรีเซนเตอร์ของโครงการ ก็ได้ลงสนามวาดลวดลายการขับขี่ให้น้องๆเด็กแว้นได้ชมกัน กล่าวว่า ดีใจที่ได้เห็นน้องๆเด็กแว้นเข้ามาร่วมโครงการเป็นจำนวนมากเพราะนี่คือโอกาสที่จะได้เข้ามาเรียนรู้ทักษะและการขับขี่ที่ได้มาตรฐาน รวมถึงอุปกรณ์เซฟตี้ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการขับขี่อีก แล้วหวังว่าทุกคนจะได้ความรู้และพัฒนาตัวเองต่อไปในอนาคต ส่วน ”ซุป” อนุชา นาคเจริญศรี นักบิดดีกรีแชมป์ประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ฝึกสอนในโครงการ ยอมรับว่า น้องๆหลายคนที่เข้าร่วมโครงการถือว่ามีทักษะพื้นฐานที่ดีมากๆ ดังนั้นหากนำไปต่อยอดในทางที่ถูกก็จะสามารถกลายไปเป็นนักแข่งในสนามได้เช่นกัน รวมถึงโครงการนี้ยังมีผู้หญิงเข้าร่วม ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีอีกด้วย สำหรับการจัดกิจกรรมในสนามที่ 3 ผู้สนใจสามารถติดรายละเอียดการสมัครได้ที่แฟนเพจ ลิตเติ้ล แว้น บี ว้าว ไรเดอร์  ทั้งนี้เยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับสิทธิพิเศษ ทั้งการร่วมชมการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกรายการโมโตจีพี ที่สนามช้าง อินเตอร์ เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ช่วงเดือนตุลาคม รวมถึงเยาวชนที่ทำคะแนนสูงสุด 2 คนจะได้รับทริปเอ็กซ์คลูซีพเดินทางไปชมโรงงาน BMW Motorrad ที่ประเทศเยอรมนี พร้อมกับ “ตาล” รัชดา นาคเจริญศรี นักแข่งรถจักรยานยนต์ ไอดอลของวงการมอเตอร์สปอร์ต และอีกส่วนจะได้สัมผัสประสบการณ์เรซซิ่งในสนามแข่งขันจริง 1 วัน รวมทั้งกิจกรรม CSR ออนทัวร์ทุกภาค เพื่อช่วยเหลือสังคมอีกด้วย

กรุงเทพฯ 26 ก.พ.65-สมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย จัดมอบรางวัลเกียรติยศผู้ปิดทองหลังพระ ประจำปี 2565 ครั้งที่ 16 โดยได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ เป็นประธานในการมอบรางวัล ที่ห้องประชุมมหาวีระวงศ์ อาคารพุทธวิชชาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร รางวัลเกียรติยศผู้ปิดทองหลังพระ ประจำปี 2565 ครั้งที่ 16 เกิดขึ้นจาก นายศิโรจน์ มิ่งขวัญ นายกสมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย และ “บิ๊กสุ”สุทิน บัวตูม ประธานที่ปรึกษาสมาคมนักข่าวฯ และผู้จัดการทีมฟุตซอลทีมชาติไทย พร้อมคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกจากประวัติผลงานทำคุณประโยชน์ ผู้เสียสละ เพื่อสังคมต่อเนื่องยาวนาน จำนวน 40 รางวัล ในส่วนของวงการกีฬาไทยที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ประกอบด้วย รางวัลบุคคล ได้แก่ พลตรีวรวุฒิ ทองศรีงาม อดีตเลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย , นาย สมยศ แดงยวน ผู้สื่อข่าวกีฬาอาวุโส สำนักข่าวไทย อสมท (ช่อง 9 MCOT ) , นายพัลลภ ศรีไพรวัลย์ บก.อาวุโสข่าวกีฬาหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ, นาย วิศรุต มีบำรุง ผู้สื่อข่าว กองบก.ฟุตบอลสยาม บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด(มหาชน) ส่วนรางวัลองค์กร ได้แก่ สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ ที่นำโดย นายวันกล้า ขวัญแก้ว นายกสมาคมฯ ร่วมรับรางวัล  ส่วนรางวัลสำคัญที่เป็นไฮไลท์ คือ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ผู้ปิดทองหลังพระ ที่ดูแลเด็กนักเรียนครอบครัวฐานะยากจน และเด็กกำพร้าที่เรียนดีแต่ยากจน ในพื้นที่ทางภาคเหนือ โดยเฉพาะ อ.แม่พริก จ.ลำปาง ส่งเรียนจนจบการศึกษามีงานทำ , พันจ่าตรีอนุชิต พรมดอนกลอย นายทหารสังกัดหน่วยซีล กองทัพเรือ ที่กระโดดน้ำช่วยชีวิตสองแม่ลูก หลังจากขับรถเสียหลักตกคลองข้างทาง บริเวณสะพานบ้านคำแก้ว ต.คำแก้ว อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ,คุณครูจิตอาสา “ครูปัทม์” หรือ น.ส.ปัทมาพร นพรัตน์ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านเพชรน้ำผึ้ง อ.ลานสักจ.อุทัยธานี ทำอาหารกลางวันพรีเมียมทุกมื้อ จับมือชุมชนและโซเชียล มอบอาหารสุดน่ากินให้นักเรียน ในวันที่วัตถุดิบแพงขึ้นทุกอย่าง ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ กล่าวว่า ผู้ปิดทองหลังพระ คือให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ให้ไม่ต้องหิ้วแสงเพื่อให้คนอื่นๆ มาชื่นชม โดยเฉพาะ 3 ปี ที่ยากลำบากในชีวิต โรคร้ายโควิด-19 จากคนรวยที่สุดสิ้นเนื้อประดาตัว หมดสิ้นความเสียสละไม่จบสิ้นกับโรคร้าย บุคคลกรทางแพทย์ และพยาบาล คือผู้เสียสละมากสุด เป็นผู้ปิดทองหลังพระจริงๆเชิญชวนร่วมจุดเทียนคนละเล่มแห่งความดี เพื่อให้ส่องแสงสว่างความดี ต้องช่วยกันจุด เครื่องกระตุ้นความดีไม่มีสิ้นสุด การทำความดีจากสิ่งเล็กๆ จะยิ่งใหญ่เสมอ

ราชบุรี 26 ก.พ.66-สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ ร่วมกับ มูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา จัดงานวิ่งการกุศลเพื่อสัตว์ป่าครั้งที่ 2 ในชื่อ “ดิ อาร์ทนิมอล รัน 2 @ สวนผึ้งไฮแลนด์” โดยออกสตาร์ทและเข้าเส้นชัยที่ สวนผึ้งไฮแลนด์ อ.สวนผึ้งจ.ราชบุรี โดยพิธีเปิดและมอบรางวัลได้รับเกียรติจาก ดร.ณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์ ประธานมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬาเป็นประธาน พร้อมด้วย นายณัฏฐศักย์ ลักษิตานนท์ เจ้าของ สวนผึ้งไฮแลนด์, นายวันกล้า ขวัญแก้ว นายกสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ และ มนัส บุญจำนงค์ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกชาวจังหวัดราชบุรี โดยมีนักวิ่งเข้าร่วมกิจกรรมคึกคักกว่า 400 คน ผลการแข่งขัน ระยะ 6.5 กิโลเมตร ชาย อันอับ 1 นิยม แถบหอม ได้รับถ้วยจาก เจ้ากรมการทหารช่าง, อันดับ 2 ฉัตรมงคล ชัยวิจิตร ได้รับถ้วยจาก เมืองไทยประกันภัย, อันดับ 3 จตุพร สว่างอารมณ์ ได้รับถ้วยจาก อบต.สวนผึ้ง  ระยะ 6.5 กิโลเมตร หญิง อันดับ 1 อัญมณี กล้าผจัญ ได้รับถ้วยจาก สวนผึ้งไฮแลนด์, อันดับ 2 สุธัญญาธรณ์ เรืองเดชได้รับถ้วยจาก สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์, อันดับ 3 กนกพร ชลธี ได้รับถ้วยจาก อบต.ตะนาวศรี ระยะ 16.5 กิโลเมตร ชาย อันดับ 1 กิตติ ประชาญสิทธิ์ ได้รับถ้วยจาก มูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา, อันดับ 2 กวินนามประดิษฐ ได้รับถ้วยจาก สุทิน บัวตูม ผจก.ทีมฟุตซอล ทีมชาติไทย, อันดับ 3 เบญจพล คูณวัฒนาพงษ์ ได้รับถ้วยจากสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย, อันดับ 4 สิริศักดิ์ ภุมรา ได้รับถ้วยจาก สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย, อันดับ 5 ภูมิพันธ์ สาโรจน์วนิช ได้รับถ้วยจาก สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ระยะ 16.5 กิโลเมตร หญิง อันดับ 1 ศิรินาถ อินทร์พิทักษ์ ได้รับถ้วยจาก มูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา, อันดับ 2 นิรบลโค้วถาวร ได้รับถ้วยจาก สุทิน บัวตูม ผจก.ทีมฟุตซอล ทีมชาติไทย, อันดับ 3 สุทัชชา แต้นำชัย ได้รับถ้วยจาก นายอำเภอสวนผึ้ง, อันดับ 4  ผกากรอง ลีปา ได้รับถ้วยจาก สมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย, อันดับ 5 สินี ธเนศศรียานนท์ ได้รับถ้วยจาก สภ.อ.สวนผึ้ง นอกจากการแข่งขันแล้ว สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์ ได้มอบอุปกรณ์กีฬาให้กับ 7 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนบ้านสวนผึ้ง, โรงเรียนบ้านห้วยผาก, โรงเรียนบ้านท่ามะขาม, โรงเรียนบ้านกล้วย, โรงเรียนวัดนาขุนแสน, โรงเรียนชุมชนบ้านบ่อ, โรงเรียน ตชด. บ้านถ้ำหิน รวมทั้งมอบเงินช่วยเหลือสัตว์ป่าให้กับ สถานีเพาะพันธุ์สัตว์ป่าเขาสน -สำนักข่าวไทย

23 ก.พ.66 ขอนแก่น-การแข่งขันกอล์ฟอาชีพสะสมคะแนนอันดับโลก ออล ไทยแลนด์ กอล์ฟ ทัวร์ 2023 รายการ “สิงห์ อีสานโอเพ่น ครั้งที่ 16“ ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 23-26 กุมภาพันธ์ 2566 ณ สนามสิงห์ปาร์ค ขอนแก่นกอล์ฟคลับ ระยะ 7,475 หลา พาร์ 72 จ.ขอนแก่น ผู้ชนะจะรับเงินรางวัลไปครอง 450,000 บาท พร้อมคะแนนสะสมอันดับโลก รอบแรกของการแข่งขัน แดนไท บุญมา นักกอล์ฟวัย 27 ปีจากสุโขทัยเจ้าของแชมป์ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ 3 รายการ เริ่มเล่นทางฝั่งหลุม 10 และประเดิมด้วยการเก็บสองเบอร์ดี้ติดต่อกันที่หลุม 11 และ 12 ก่อนไปสะดุดออกโบกี้ที่หลุม 13 แต่แก้ตัวด้วยการเก็บคืนมาอีก 6 เบอร์ดี้รวมถึง 2 เบอร์ดี้ในสามหลุมสุดท้ายด้วยก่อนขึ้นคลับเฮ้าส์ในฐานะผู้นำรอบแรกด้วยสกอร์ 7 อันเดอร์พาร์ 65 แดนไท ซึ่งเคยคว้าแชมป์สิงห์ อีสาน โอเพ่น ที่สนามสิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟคลับ สองสมัยในปี 2017 และ 2019 ยอมรับว่าได้เปรียบสภาพอากาศในช่วงเช้าทำให้ผลงานออกมาดี โดยหนุ่มสุโขทัยกล่าวว่า “รูปเกมเป็นที่น่าพอใจเลยครับ เพราะว่าไม่ได้ตีสกอร์แบบนี้มาค่อนข้างนาน เนื่องจากส่วนมากไปเจอคอนดิชั่นที่ลมแรง แต่วันนี้โชคดีที่ได้ออกเช้าลมยังไม่มากและสามารถสร้างโอกาสจากตรงนั้นได้ ตีค่อนข้างที่จะมีโอกาสทำเบอร์ดี้ได้เยอะ บวกกันพัตต์ดีด้วยก็เลยทำสกอร์ออกมาได้ดี แดนไท ยังกล่าวอีกว่าไม่อยากดดันตัวเองมาก แต่อยากพัฒนาการเล่นลูกสั้นที่เจ้าตัวยังไม่ค่อยพอใจนัก “จริงๆตั้งเป้าอยากจะมาซ้อมช็อตที่ต้องการจะพัฒนาต่อไป ไม่อยากที่จะกดดันตัวเองมากก็เลยอยากจะมาเล่นในสิ่งที่เราซ้อมมา โดยเฉพาะในเรื่องของลูกสั้นที่ผมยังไม่ค่อนพอใจเท่าไหร่ เรียกว่าลูกสั้นยังไม่ดีเท่าที่ต้องการครับ” ทางด้าน รฐนน วรรณศรีจันทร์ นักกอล์ฟวัย 27 ปีจากจันทบุรี เจ้าของแชมป์ออลไทยแลนด์ 3 รายการซึ่งรวมถึงชัยชนะในรายการสิงห์ อีสาน โอเพ่น เมื่อปี 2018 ประเดิมรอบแรกด้วยการเก็บ 4 เบอร์ดี้ในการเล่นห้าหลุมแรก ก่อนจบรอบแรกเก็บเข้ามา 7 เบอร์ดี้ เสียไป 1 โบกี้ ตามหลังผู้นำสโตรคเดียวที่สกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 66 เท่ากับ วาริษ มั่นธรณ์ นักกอล์ฟวัย 19 ปีจากนครพนม ที่เก็บเข้ามา 6 เบอร์ดี้แบบไม่เสียโบกี้ สำหรับรายการนี้สนับสนุนโดย สิงห์คอร์เปอเรชั่น, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย รวมถึงพันธมิตรผู้ร่วมสนับสนุนจัดแข่งขันรายการ-สำนักข่าวไทย