“เงือก-ฉลาม” ชมรมว่ายน้ำสิงห์ คว้ารางวัลสโมสรยอดเยี่ยม ปิดศึกว่ายน้ำชิงแชมป์ปทท. ภาค กทม.

การแข่งขันกีฬาว่ายน้ำชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ภาคกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2566 รายการ  PTT Thailand Swimming Championships 2023  ที่สระว่ายน้ำ 50 เมตร ศูนย์กีฬาประชานิเวศน์ กรุงเทพฯ ผลแข่งขันปรากฏว่าฉลาม-เงือก จากชมรมว่ายน้ำสิงห์  สร้างผลงานยอดเยี่ยมคว้าเหรียญทอง และถ้วยคะแนนรวมให้ “ชมรมว่ายน้ำสิงห์” ไปครองได้สำเร็จอีกครั้ง นำโดย “น้องแกรมม่า” ภูริชญา จันยะมิตรี เงือกสาวดีกรีทีมชาติวัย 18 ปี คว้า  5 เหรียญทอง ทำคะแนนรวมได้ 82 คะแนน  เช่นเดียวกับ รุ่น 13 ปี ด.ญ.พชรพรรณ ไววาจีย์ ช่วยทีมทำได้  82 คะแนน และ ด.ญ.วริศรา นพทอง 80 คะแนน  ขณะที่รุ่น 9 ปี  ด.ญ.จิดาภา รัตนเพียร ทำได้ 44 คะแนน และด.ช. กวินทัต รัตนพงษ์  20 คะแนน ทำให้ชมรมว่ายน้ำสิงห์  คว้าอันดับคะแนนรวมสูงสุด อันดับที่ 1 ด้วยผลงาน 690 คะแนน พร้อมคว้ารางวัลสโมสรยอดเยี่ยมไปครอง  ส่วนอันดับที่ 2 เป็นของศูนย์กีฬาประชานิเวศน์ ทำได้ 606 คะแนน และอันดับที่ 3 เป็นของสกทร.กรมสวัสดิการทหารเรือ  546 คะแนน  ส่วนอันดับที่ 4 แบงคอก สวิม อคาเดมี่ ทำคะแนนได้ 470 คะแนน, อันดับที่5 เวลลิงตันคอลเลจ ทำคะแนนได้ 366 คะแนน, อันดับที่ 6 วิชั่นสวิมมิ่ง ทำคะแนนได้ 342 คะแนน, อันดับที่ 7 โรงเรียนกีฬากรุงเทพฯ ทำคะแนนได้ 278 คะแนน, อันดับที่ 8 มายด์เฮ้าส์สวิมมิ่งคลับ ทำคะแนนได้ 266 คะแนน, อันดับที่ 9 เบญจรงค์ ทำคะแนนได้ 271 คะแนน, อันดับที่ 10 มหาวิทยาลัยมหิดล ทำคะแนนได้ 215คะแนน

นายกสมาคมฯ หารือ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลซาอุดีอาระเบีย ร่วมยกระดับฟุตบอลไทย พร้อมสนับสนุนเป็นเจ้าภาพบอลโลก 2034

พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย พาทิศ ศุภะพงศ์ เลขาธิการสมาคมฯ ได้พบปะหารือกับ ยาสเซอร์ อัล มิเซฮาล ประธานสหพันธ์ฟุตบอลซาอุดีอาระเบีย ระหว่างร่วมงานมอบรางวัลAFC Annual Awards 2023 ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์  เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา โดย พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ได้ยืนยันกับ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลซาอุดีอาระเบีย ว่าไทยพร้อมให้การสนับสนุนประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2034 ตามนโยบายของรัฐบาลไทย  นอกจากนี้ ยังได้หารือด้านการเพิ่มโอกาสให้ บริษัท ต่างๆ เข้ามาสนับสนุน ผ่านการลงทุนด้านการตลาดในฟุตบอลลีกอาชีพของไทย รวมถึงการพัฒนากีฬาฟุตบอลร่วมกันระหว่างทั้งสองประเทศที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

เยาวชนทั่วกรุงเทพกว่า 200 ชีวิต ร่วมฝึกฟุตบอลโครงการ TIP SPIRIT สนาม 4-เฟ้นหาช้างเผือกสู่ FINAL MATCH

วันที่ 30 ตุลาคม 2566 หลังจากที่โครงการ TIP SPIRT นักกีฬาเลือดใหม่ ใส่สุดพลัง จัดเสร็จสิ้นไปแล้วทั้งหมด 4 สนาม ล่าสุดโครงการในสนามที่ 4 ณ ศูนย์กีฬาบางบอน ภายใต้ความร่วมมือของ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด(มหาชน), กรุงเทพมหานคร และมูลนิธิเพื่อนักกีฬาไทย ช่วงระหว่างวันที่ 28 – 29 ตุลาคม 2566 มีเยาวชนราว 200 คน เข้าร่วมโครงการ โดยมีการฝึกสอนจากสตาฟฟ์โค้ชมืออาชีพ และอดีตทีมชาติไทย ไม่ว่าจะเป็น “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ อดีตกุนซือ ชลบุรี เอฟซี และทีมชาติไทย ยู-19, “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ อดีตกุนซือทีมชาติไทย ยู-23 รวมถึง วีระยุทธสวัสดี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย หัวหน้าวิทยากรในโครงการ รวมถึงทีมโค้ชระดับประเทศ ได้แก่ ณรงค์ สุวรรณโชติ, วีระพงษ์ เพ็งลี, อัมรินทร์ เยาดำ, พ.ต.ภาณุพงศ์ ผิวอ่อน และ กฤษณะ วงษ์บุตรดี ซึ่งก็เสร็จสิ้นไปตามวัตถุประสงค์ น้องๆ เยาวชนได้เรียนรู้ทักษะ ตามฐานต่างๆ ที่ได้จัดเตรียมไว้ให้ ไม่ว่าจะเป็น รับ ส่ง โหม่ง ยิง เดาะเลี้ยง อย่างถูกวิธี “โค้ชติ๋ว” วีระยุทธ สวัสดี ในฐานะหัวหน้า วิทยากรโครงการ ให้สัมภาษณ์ว่า “โครงการนี้ จากความร่วมมือของ ทิพยประกันภัย, กรุงเทพมหานคร และ มูลนิธิเพื่อนักกีฬาไทย ช่วยส่งต่อโอกาสให้กับน้องๆ เยาวชนได้เรียนรู้ทักษะฟุตบอลอย่างถูกต้องจากทีมโค้ชมืออาชีพ” “ฟุตบอลจะแบ่งเป็นยุคๆ ยุคของผมโค้ชจะเน้นทักษะ ทักษะสำหรับผมสำคัญมาก คือจะต้องรับบอลส่งบอลแม่น การจับบอลต้องอยู่กับตัว สามารถเล่นต่อได้เลย แต่สมัยนี้บางที่จะเน้นความแข็งแกร่ง หรือความสามารถเฉพาะตัวมากกว่าการเล่นเป็นทีม จะทำให้สู้กับชาติอื่นๆ ไม่ได้” “สำหรับโครงการนี้ ซึ่งผมเป็นวิทยากร ได้แบ่งการฝึกสอนคือ รับ ส่ง โหม่ง ยิง เดาะ เลี้ยง เพราะฟุตบอลมี 6 สิ่งนี้เป็นพื้นฐานที่ทั่วโลกฝึกกัน อย่างวันนี้มีผู้ปกครองมาบอกว่าดีใจมากๆ ที่ลูกชายได้เรียนรู้การโหม่งบอลที่ถูกวิธีหนแรก เราบอกให้น้องๆ เก็บคาง เงยหน้า จัดระเบียบอย่างไร ต้องขอบคุณ ทิพยประกันภัย กับการจัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้ ในการให้โอกาสเยาวชน สักวันถ้ามีน้องๆ กลุ่มนี้ก้าวไปเป็นทีมชาติไทย เล่นฟุตบอลระดับสูง พวกเขาจะคิดถึง และพูดถึง ทิพยประกันภัย ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากๆ” ทั้งนี้ โครงการ “TIP SPIRIT นักกีฬาเลือดใหม่ ใส่สุดพลัง” ยังมีจัดอีกทั้งหมด 2 สนาม ดังนี้ สนามที่ 5 วันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2566 ณ โรงเรียนนนทรีวิทยา เขตยานนาวา (ฟุตบอล) เวลา 07.30-16.00 น. สนามที่ 6 วันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 ณ สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง (ฟุตบอล) Final Match เวลา 07.30-16.00 น. *ประกาศผลผู้ผ่านเข้าร่วม ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 ผ่านทางเฟซบุ๊ก TIP ZONE โดย ทิพยประกันภัย

“วิว-เยาวภา” ฮีโร่เทควันโดเหรียญทองแดงโอลิมปิก คว้าเหรียญเงิน Brazillian Jujitsu รายการAFG October Evolution Open 2023

การแข่งขัน Brazillian Jujitsu รายการ AFG October Evolution Open 2023  ที่มหาวิทยาลัยรังสิต รุ่นเฟเธอร์เวทหญิง (58.5 กิโลกรัม)​ รอบรองชนะเลิศ วิว เยาวภา บุรพลชัย จากสโมสร เดอะเลเจนด์อารีน่าหัวหิน ชนะ คา ยี คาเรนมอก จากฮ่องกง โดยการทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ด้วยท่าหักแขน  (Submission Armbar) ผ่านเข้าไปในรอบชิงชนะเลิศพบกับ โจอันนา แลม  จากสหรัฐอเมริกา โดยวิว เยาวภา แพ้คะแนนไป 11-2 ทำให้ฮีโร่โอลิมปิกคว้าเหรียญเงินไปได้ในรายการนี้ โดยรายการ AFG International Open เป็นรายการแข่งขันบราซิลเลี่ยนยูยิตสูนานาชาติ ซึ่งการจัดในครั้งนี้เป็นการร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยรังสิต สมาคมกีฬายูยิตสูแห่งประเทศไทย และ บริษัทเอเชียไฟท์เกียร์ จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์ในการเผยแพร่กีฬายูยิตสูให้เป็นที่รู้จักในประเทศไทย พร้อมทั้งสร้างเวทีการแข่งขันเพื่อพัฒนาทักษะของผู้เล่นตั้งแต่ระดับยุวชน เยาวชน และประชาชน ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศไทย  โดยการแข่งขันในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมการแข่งขัน 838 คน จาก 44 ประเทศ วิว เยาวภา กล่าวว่า ” การแข่งในครั้งนี้ถือเป็นการส่งเสริมและพัฒนากีฬาศิลปะป้องกันตัวของประเทศไทย ซึ่งมีชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เป็นการตอกย้ำว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางของกีฬาศิลปะป้องกันตัวระดับโลก ทั้งในเรื่องของการฝึกซ้อมและในเรื่องของการจัดการแข่งขัน โดยเฉพาะ มวยไทยMMA เทควันโด ยูยิตสู เพื่อเป็นการส่งเสริมเรื่องของการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ โดยใช้กีฬาเป็นซอฟท์พาวเวอร์”-สำนักข่าวไทย

“ณัยณพ” ประธานพาราไทย มั่นใจ “ทีมวอลเลย์บอลนั่ง” โชว์ฟอร์มเฉียบในเอเชียนพาราเกมส์

ร.ท.ณัยณพ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกเเห่งประเทศไทย เดินทางไปดูการฝึกซ้อมและให้กำลังใจทีมนักกีฬาวอลเลย์บอลนั่งชาย-หญิง ทีมชาติไทย ที่ สนามฝึกซ้อมวอลเลย์บอลนั่งภายใน ใจฟ้าอะคาเดมี่ จ.ลพบุรี ที่กำลังเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อเตรียมเข้าร่วมการแข่งขัน “เอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4” ระหว่างวันที่ 22-28 ตุลาคม 2566 ณ นครหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ร.ท.ณัยณพ ภิรมย์ภักดี เปิดเผยว่า ได้เห็นถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจของนักกีฬาทุกคน เพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกของทีมวอลเลย์บอลนั่งทีมชาติไทยที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันเอเชียนพาราเกมส์ เป็นโอกาสที่ดีที่นักวอลเลย์บอลนั่งของเราจะได้โชว์ศักยภาพ ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าทีมวอลเลย์บอลนั่งทั้งชายและหญิงของเราจะทำผลงานออกมาได้ดีอย่างแน่นอน ด้าน ดร.สุจินต์ สว่างศรี นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลคนพิการไทย เปิดเผยถึงความพร้อมของทีมวอลเลย์บอลนั่งชาย-หญิงทีมชาติไทย ว่า ที่ผ่านมาเราได้มีการเตรียมความพร้อมมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาเกือบ 1 ปีแล้ว ตั้งแต่ก่อนการแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์ ที่ กัมพูชา ทำให้สภาพทีมถือว่าทุกคนพร้อมเต็มที่ ก็หวังว่านักกีฬาของเราจะทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด ตามที่ได้ฝึกซ้อมกันมา ขณะที่ วันนา ลาดี กัปตันทีมวอลเลย์บอลนั่งหญิงทีมชาติไทย กล่าวว่า  พวกเรามีความมุ่งมั่นเป็นอย่างมากเพราะนี่เป็นการได้เข้าร่วมการแข่งขันเอเชียนพาราเกมส์ครั้งแรกของทีมเรา ซึ่งในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเราได้ลงแข่งขันในศึกชิงแชมป์เอเชีย ที่ คาซัคสถาน ทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น เป้าหมายครั้งนี้อยากทำผลงานติด 1 ใน 3 เพื่อโอกาสคว้าเหรียญรางวัลมาครองให้ได้ อยากขอให้แฟนกีฬาชาวไทยช่วยเชียร์และเป็นกำลังใจให้ทีมวอลเลย์บอลนั่งทีมชาติไทยด้วย สำหรับนักกีฬาพาราไทยรวมถึงเจ้าหน้าที่ทีมทั้งหมด 491 คน จะลงชิงชัยใน “เอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4” ทั้งสิ้น 22 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย ยิงธนู, กรีฑา, แบดมินตัน, บอคเซีย, เรือแคนู, หมากรุก, จักรยาน, ฟุตบอล 5 คน, หมากล้อม, โกลบอล, ยูโด, ลอนโบวล์ส, ยกน้ำหนัก, เรือพาย, ยิงปืน, วอลเลย์บอลนั่ง, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด, วีลแชร์บาสเกตบอล, วีลแชร์ฟันดาบ และวีลแชร์เทนนิส ทั้งนี้ผลงานทัพนักกีฬาพาราไทยในการแข่งขัน “เอเชียนพาราเกมส์ 2018” ครั้งที่ผ่านมา ที่ประเทศอินโดนีเซีย ทำผลงาน 23 เหรียญทอง 32 เหรียญเงิน 50 เหรียญทองแดง จบการแข่งขันในอับดับที่ 7

อสมท จัดเต็ม “MCOT RUN 2023” วิ่ง 4 ภาค ชูคอนเซปต์ Low carbon run challenge

อสมท 28 ก.ย. – นายผาติยุทธ  ใจสว่าง รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการจัดงาน MCOT RUN 2023 วิ่ง 4 ภาค ว่า “อสมท จัดกิจกรรม MCOT RUN 2023 วิ่ง 4 ภาค ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 5 โดยเครือข่ายสถานีวิทยุ อสมท ภูมิภาค 41 สถานีทั่วประเทศ ผนึกกำลังจัดกิจกรรมนี้ขึ้นใน 4 ภูมิภาค ภายใต้แนวคิด Low carbon run challenge ประกอบด้วย สนามที่ 1 วิ่งในสวนที่ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี ในวันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน 2566  สนามที่ 2 วิ่งชมธรรมชาติที่ เขาน้อย จ.น่าน วันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน 2566 สนามที่ 3 วิ่งชมทะเล ที่หาดสมิหลา จ.สงขลา วันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม 2566 และสนามที่ 4  วิ่งชมวิวแม่น้ำโขง ที่จ.นครพนม วันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม 2566  เปิดรับสมัคร 3 ระยะคือ 5 กิโลเมตร ค่าสมัคร 549 บาท , 10.5 กิโลเมตร ค่าสมัคร 649 บาท และ 21 กิโลเมตร ค่าสมัคร 1,000 บาท สมัครได้ที่ https://race.thai.run หลังจบกิจกรรมวิ่งในแต่ละสนาม อสมท จะจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ในพื้นที่ ภายในงานเปิดตัวเสื้อวิ่งจากแบรนด์ WARRIX (วอริกซ์) ที่มีการออกแบบให้มีสีสัน สอดคล้องกับเอกลักษณ์ท้องถิ่นของแต่ละจังหวัด จังหวัดชลบุรี เสื้อสีม่วง ลายคลื่นน้ำทะเล, จังหวัดน่าน เสื้อสีเขียวมิ้นท์ ลวยลายทิวเขา และอักษรล้านนา คำว่า “น่าน”, จังหวัดสงขลา เสื้อสีน้ำเงินคราม มีสัญลักษณ์รูปปั้นนางเงือก และประตูเมืองสงขลา ปิดท้ายที่จังหวัดนครพนม เสื้อสีเหลือง ด้านหน้าเป็นลวยลายเกล็ดพญานาค และด้านหลัง เป็นสัญลักษณ์สะพานมิตรภาพไทย- ลาว แห่งที่ 3  จุดเช็กอินของจังหวัดนครพนม   สำหรับความหมายของเหรียญในการแข่งขันนั้น ใช้อักษรย่อของ อสมท คือ MCOT เป็นตัวเชื่อม ประกอบกับ ใช้อัตลักษณ์ของจังหวัดนั้นๆ คือ ดอกไม้ประจำจังหวัด และสถานที่สำคัญของจังหวัด นำมาสื่อสารให้สอดคล้องกันเมื่อนำเหรียญ ทั้ง 4 สนาม มาต่อกัน จะได้ข้อความ “MCOT” ผู้ที่สนใจสามารถสมัครได้ ทาง Website : race.thai.run หรือ Line ID : @mcotrun ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หรือติดตามที่ Facebook : MCOT RUN และ Facebook : MCOT ทั่วไทย . – สำนักข่าวไทย

คุณหญิงปัทมา ตอบต่างชาติ เหตุทัพไทยมากกว่าจีน นักกีฬาหวังต่อยอดอชก. สู่การควอลิฟาย อลป.ปารีส 

25 ก.ย.66-จีน คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า ทัพนักกีฬาทีมชาติไทย ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 “หางโจว 2022” ที่เมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน มีจำนวน 939 คน โดยตนเองได้รับสอบถามถึงเรื่องนี้จากนานาประเทศว่า ไทยเราส่งนักกีฬามากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้มากกว่าเจ้าภาพจีน ที่มีจำนวน 884 คน ซึ่งเราก็ตอบเขาไปว่า ประเทศไทย มีความตื่นตัวต่อเอเชี่ยนเกมส์เป็นอย่างมาก “เราก็เข้าใจ และมั่นใจว่าทุกชนิดกีฬาทุกสมาคมกีฬา ย่อมอยากที่จะผลักดันให้นักกีฬาของตัวเองได้มีโอกาสในการไขว่คว้าหาประสบการณ์ และแสดงศักยภาพออกมาในเอเชี่ยนเกมส์ ซึ่งเป็นมหกรรมกีฬาแรกของเอเชียแบบเต็มรูปแบบหลังโควิด-19 ยุติลงอย่างราบคาบ ไม่รวมในซีเกมส์ที่มีน้อยประเทศ แต่เราพูดถึงเต็มรูปแบบทั้งทวีปสำหรับพวกเราชาวเอเชีย หางโจวเกมส์จึงนับเป็นครั้งแรกหลังจากโรคระบาด” ไอโอซีเมมเบอร์ กล่าวต่อว่า สำหรับโจทย์ใหญ่ของนักกีฬาไทยทุกคนตอนนี้ คือ โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งก็เท่ากับว่าการมาเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้เป็นเป้าหมายของทุกคนที่จะต้องฝึกซ้อม เพื่อมาชิงชัยในเอเชี่ยนเกมส์ จากนั้นก็จะเข้าสู่ปารีส 2024 แม้ว่าการควอลิฟายจะยาก และเข้มข้นกว่าเอเชี่ยนเกมส์มาก แต่นักกีฬาหลายคนก็ใช้เป็นสนามซ้อมใหญ่ของตัวเอง ก่อนจะก้าวไปสู่มหกรรมโอลิมปิก

อัยการไทย-เกาหลี ประสานความร่วมมือปราบอาชญากรรมข้ามชาติระหว่างกัน

 21 กันยายน 2566 เกาหลีใต้-นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ รักษาการ รองอัยการสูงสุด และคณะ ได้รับเชิญจากสำนักงานอัยการสูงสุดแห่งสาธารณรัฐเกาหลี และสถาบันอาชญวิทยาและการยุติธรรมแห่งเกาหลี (Korean Institute of Criminology and Justice (KICJ)) ให้ไปเยี่ยมเยือนอย่างเป็นทางการ เพื่อหารือการปฏิบัติการตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสำนักงานอัยการสูงสุดกับสำนักงานอัยการสูงสุดแห่งสาธารณรัฐเกาหลีฉบับลงวันที่ 28 มิถุนายน 2554 และระหว่างสำนักงานอัยการสูงสุดกับสถาบัน KICJ ฉบับลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2554 ตามลำดับ โดยการเยี่ยมเยือนสำนักงานอัยการสูงสุดแห่งสาธารณรัฐเกาหลี Mr.  Sung Sang Heun ผู้ช่วยอัยการสูงสุด ซึ่งรับผิดชอบงานด้านต่างประเทศ และคณะ ได้ให้การต้อนรับและหารือความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติระหว่างไทยกับสาธารณรัฐเกาหลี โดยเฉพาะด้านคดีการหลอกลวงแรงงานไทย คดีค้ามนุษย์ คดีค้ายาเสพติดและแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ รวมทั้งความร่วมมือในเครือข่ายงานยุติธรรมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAJust) โครงการแลกเปลี่ยนพนักงานอัยการระหว่างสำนักงานอัยการสูงสุดของทั้งสองฝ่าย และการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการสอบสวนให้แก่พนักงานอัยการไทย นอกจากนั้นคณะฝ่ายไทยได้แจ้งถึงความริเริ่มของสำนักงานอัยการสูงสุดไทยในการก่อตั้งองค์กรอัยการอาเซียนที่จะสามารถสร้างความร่วมมือระดับพหุภาคีกับสำนักงานอัยการสูงสุดแห่งสาธารณรัฐเกาหลีได้ สำหรับการเยี่ยมเยือนสถาบัน KICJ Mr. Park Junhwi รองประธานสถาบัน KICJ และคณะ ได้ให้การต้อนรับและหารือการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการวิจัยเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมของไทยและเกาหลี การส่งพนักงานอัยการไทยไปปฏิบัติการเป็นนักวิจัยรับเชิญ (Visiting Researcher) ณ สถาบัน KICJ 

ณัยณพ ประธานพาราฯ มั่นใจทีมพาราไทยฟิตพร้อมสู้ศึก เอเชียนพาราเกมส์ ที่จีน

18 ก.ย.66-ร.ท.ณัยณพ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกเเห่งประเทศไทย ได้เดินทางไปดูการฝึกซ้อมของนักกีฬาพาราไทยที่กำลังเก็บตัวเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน “เอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4” ระหว่างวันที่ 22-28 ตุลาคม 2566 ณ นครหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ศูนย์ฝึกกีฬาคนพิการ จ.สุพรรณบุรี โดย ร.ท.ณัยณพ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกเเห่งประเทศไทย กล่าวหลังดูการฝึกซ้อมของนักกีฬาพาราไทยว่า นักกีฬาของเรามีความพร้อมรวมถึงมีความมั่นใจ ซึ่งนักกีฬาชุดนี้ได้เก็บตัวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 ยาวมาตั้งแต่ก่อนแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์ที่กัมพูชา เราเชื่อมั่นว่าจะทำผลงานได้ดี ถึงแม้ว่าในหลายๆประเทศจะพัฒนากีฬาคนพิการได้อย่างรวดเร็ว แต่จากความพร้อมของเราเชื่อว่านักกีฬาพาราไทยจะสามารถสร้างผลงานได้ดีกว่าการแข่งขันเอเชียนพาราเกมส์ครั้งที่ผ่านมา ที่อินโดนีเซีย ที่ได้อันดับที่ 7 ผลงาน 23 เหรียญทอง 32 เหรียญเงิน50 เหรียญทองแดง “นอกจากนี้สิ่งที่คณะกรรมการพาราลิมปิกไทยให้ความสำคัญมาตลอด คือ การสร้างนักกีฬาดาวรุ่งหน้าใหม่ ซึ่งในการแข่งขันเอเชียนพาราเกมส์ครั้งนี้ก็มีนักกีฬาดาวรุ่งฝีมือดีหน้าใหม่หลายคนเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อสร้างประสบการณ์ เป็นการเตรียมความพร้อมสู่เป้าหมายหลักของเรา คือ พาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส ที่คาดหวังว่าจะมีนักกีฬาไทยผ่านควอลิฟายเพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสได้ในการคว้าเหรียญรางวัลให้กับประเทศไทยมากกว่าเดิม” ขณะที่นายไมตรี คงเรือง เลขาธิการสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาคมกีฬาคนพิการที่มีนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ เผยถึงความพร้อมในการเตรียมนักกีฬาว่า ขณะนี้นักกีฬาภายใต้การดูแลของสมาคมฯมีความพร้อมเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว เราฝึกซ้อมและเก็บตัวมานาน ทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่านักกีฬาของเราจะเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่จะสร้างความสำเร็จในการแข่งขันครั้งนี้ “ตั้งแต่เริ่มเก็บตัวจนถึงความสำเร็จในอาเซียนพาราเกมส์ ที่ กัมพูชา เห็นได้ชัดว่านักกีฬาของเรามีพัฒนาการที่ดีขึ้นนักกีฬาประเภทสถิติสามารถทำลายสถิติได้หลายรายการ ที่สำคัญเป็นนักกีฬารุ่นใหม่ที่แจ้งเกิดขึ้นมา เช่น กีฬาว่ายน้ำ จากเดิมเราได้ 10 กว่าเหรียญ แต่ครั้งนี้ได้มา 20 กว่าเหรียญทอง และมีนักกีฬาที่สามารถทำลายสถิติเอเชียได้ ผลงานจากอาเซียนพาราเกมส์นั้นเป็นตัวบ่งบอกทิศทางที่เราทำ มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในอนาคต ซึ่งเราหวังว่ามันจะนำไปสู่การต่อยอดโดยมีจุดหมายปลายทางคือ ปารีส 2024 ส่วนเอเชียนพาราเกมส์ครั้งนี้ เราได้เหรียญรางวัลไม่น้อยกว่าเดิมแน่นอน ด้านนายภัทรพันธ์ กฤษณา นายกสมาคมวีลแชร์บาสเกตบอลไทย หนึ่งในสมาคมกีฬาคนพิการที่มีความพร้อมในการปรับโครงสร้างตาม IPC (International Paralympic Committee) เผยว่า “สำหรับทีมชายดูจากสายแล้วมีโอกาสผ่านเข้าถึงรอบรอง แต่เราอาจจะต้องไปเจอจีนเจ้าภาพในรอบ 8 ทีม ซึ่งเราชนะเขามา 3 ครั้งรวด และในครั้งนี้เราน่าจะสามารถผ่านไปได้ ส่วนรอบรองฯ คาดว่าน่าจะเข้าไปเจอกับญี่ปุ่นซึ่งมีดีกรีเหรียญเงินพาราลิมปิก แม้ว่าจะเป็นงานยาก แต่ในวันที่เราพร้อมอะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้าวันแข่งเราสามารถเค้นฟอร์มการเล่นที่ดีออกมาได้ เราก็สามารถสู้ได้ทุกทีม ซึ่งเป้าหมายของทีมชายคืออย่างน้อยต้องติด 1 ใน 3 ให้ได้” “ส่วนทีมหญิงครั้งที่แล้วเราได้เหรียญทองแดง จากการชนะอิหร่าน 1 แต้ม ในครั้งนี้เรามีการเตรียมทีมมาเป็นอย่างดีวางแผนการซ้อมอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ประกอบกับมีนักกีฬาดาวรุ่งเข้ามาเสริม เล่นเข้าขากันได้ดี มั่นใจว่าทีมหญิงของเราอย่างน้อยที่สุดต้องรักษาเหรียญทองแดงไว้ให้ได้” ด้านทองสา มารศรี นักยกน้ำหนักพาราลิมปิกทีมชาติไทย กล่าวว่า “ตั้งแต่อาเซียนพาราเกมส์มา โค้ชวางแผนให้ฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ร่างกายมีความฟิตอยู่ตลอดเวลา ส่วนเป้าหมายในครั้งนี้วางเอาไว้ติด 1 ใน 3 เพื่อคว้าเหรียญกลับมาให้ได้” สำหรับนักกีฬาพาราไทยรวมถึงเจ้าหน้าที่ทีมทั้งหมด 491 คน จะลงชิงชัยใน “เอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4” ทั้งสิ้น 22 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย ยิงธนู, กรีฑา, แบดมินตัน, บอคเซีย, เรือแคนู, หมากรุก, จักรยาน, ฟุตบอล 5 คน, หมากล้อม, โกลบอล, ยูโด, ลอนโบวล์ส, ยกน้ำหนัก, เรือพาย, ยิงปืน, วอลเลย์บอลนั่ง, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด, วีลแชร์บาสเกตบอล, วีลแชร์ฟันดาบ และวีลแชร์เทนนิส ซึ่งผลงานทัพนักกีฬาพาราไทยในการแข่งขัน “เอเชียนพาราเกมส์ 2018” ครั้งที่ผ่านมา ที่ประเทศอินโดนีเซีย ทำผลงาน 23 เหรียญทอง 32 เหรียญเงิน 50 เหรียญทองแดง จบการแข่งขันในอับดับที่ 7

“คุณหญิงปัทมา” หารือ “สุดาวรรณ” เดินหน้าพัฒนากีฬา 

18 ก.ย. – คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือไอโอซีเมมเบอร์ เปิดเผยว่า โธมัส บาค ประธานไอโอซี ได้ส่งหนังสือผ่านมายังตน เพื่อร่วมแสดงความยินดีกับนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ได้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี “ข้อความในหนังสือมีใจความสำคัญระบุว่า โธมัส บาค ประธานไอโอซี ได้ร่วมแสดงความยินดีกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ขอให้ประสบความสำเร็จในการทำงาน ทั้งนี้ ไอโอซี มุ่งหวังที่จะประสานความร่วมมือกับรัฐบาลไทย รวมทั้งคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย โดยมีคุณหญิงปัทมาคอยช่วยประสานการทำงานร่วมกันในอนาคต โดยที่ผ่านมาประเทศไทยประสบความสำเร็จในการจัดการแข่งขันกีฬารายการระดับนานาชาติมากมาย ความร่วมมือกันจะยิ่งทำให้ทุกอย่างแข็งแกร่งขึ้น” ขณะเดียวกัน คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล พร้อมด้วย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้เข้าพบนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา วันนี้ (18 กันยายน 2566) โดยไอโอซีเมมเบอร์หญิงแกร่งของไทย กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถึงการเดินหน้าพัฒนากีฬาในภาพรวมร่วมกัน พร้อมกับการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาโอลิมปิก เยาวชน หรือยูธโอลิมปิกเกมส์ ในปี 2030.-สำนักข่าวไทย

“โค้ชเตี้ย-โค้ชโย่ง-พ่อจุ้ง” นำทัพ เปิดโครงการ TIP SPIRIT สนามที่ 1 เยาวชนตบเท้าร่วมเกือบ 300 คน 

16 ก.ย.2566 นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร, ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน),  “บิ๊กแป๊ะ” นายถิรชัย วุฒิธรรม ประธานมูลนิธิเพื่อนักกีฬาไทย ร่วมเป็นประธานเปิดโครงการ “TIP SPIRIT นักกีฬาเลือดใหม่ ใส่สุดพลัง” สนามที่ 1 (ฟุตบอล) วันที่ 16-17 กันยายน 2566 ณ สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ภายในงานมีทีมโค้ชมืออาชีพร่วมฝึกสอนเยาวชนกว่า 250 ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ อดีตกุนซือชลบุรี เอฟซี และ ทีมชาติไทย ยู-19, “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ อดีตกุนซือทีมชาติไทย ยู-23, กฤตภพ สรงกระสินธ์ คุณพ่อ ชนาธิป สรงกระสินธ์ รวมถึง วีระยุทธ สวัสดี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย ซึ่งเป็นหัวหน้าวิทยากรในโครงการนี้ และทีมโค้ชระดับประเทศ ได้แก่ ณรงค์ สุวรรณโชติ, วีรพงษ์ เพ็งลี, อัมรินทร์ เยาดำ, พ.ต.ภานุพงศ์ ผิวอ่อนและ กฤษณะ วงษ์บุตรดี โดย ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “TIP รู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีส่วนร่วมในการก่อตั้งโครงการความร่วมมือนี้ขึ้นมา ระหว่าง กทม. และมูลนิธิเพื่อนักกีฬาไทย และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งในวันนี้ที่ได้รับการตอบรับจากน้องๆ เยาวชน อนาคตนักกีฬารุ่นใหม่ ที่เข้าร่วมโครงการมากมายขนาดนี้” “การเข้าร่วมโครงการ TIP SPIRIT นี้ จะเป็นโอกาสที่ดีให้น้องๆ ได้ฝึกฝนและเรียนรู้ทักษะทางด้านกีฬา รวมไปถึงเสริมสร้างทางด้านจิตใจ ให้มีความเป็นนักกีฬา ตามแบบอย่างของนักกีฬามืออาชีพตัวจริง ที่เป็นฮีโร่ของเรา ที่มาเข้าร่วมโครงการบอกเคล็ดลับ เทคนิคต่างๆ ให้กับน้องๆ ในวันนี้ด้วย” “หวังว่าโครงการของเรานี้จะเป็นจุดเริ่มต้นให้น้องๆ ได้พัฒนาศักยภาพตัวเองขึ้นเป็นนักกีฬามืออาชีพ และเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติได้ในอนาคตต่อไป เหมือนดั่งคำกล่าวที่ทุกท่านน่าจะเคยได้ยินว่า ‘กีฬาสร้างคน คนสร้างชาติ’ ครับ” ส่วน กฤตภพ สรงกระสินธ์ คุณพ่อ ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักฟุตบอลทีมชาติไทย เปิดเผยว่า “ฟุตบอลเป็นกีฬาที่หาเลี้ยงชีพได้ และเป็นกีฬามวลมนุษยชาติ มีเพียงกีฬาเดียว ที่ 4 ปี จัดขึ้น 1 ครั้ง คือฟุตบอลโลก  ถ้าเล่นฟุตบอลเก่ง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในประเทศไทยก็ติดทีมชาติไทยได้ ขอให้ทุกคนตั้งใจและมุ่งมั่นกับเป้าหมายที่วางไว้ ขอให้ทุกคนทำสำเร็จ โครงการ “TIP SPIRIT นักกีฬาเลือดใหม่ ใส่สุดพลัง” จะจัดทั้งหมด 6 สนาม ดังนี้ สนามที่ 1 วันที่ 16-17 กันยายน 2566 ณ สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง (ฟุตบอล) เวลา 7.30-16.00 น. สนามที่ 2 วันที่ 30 กันยายน-1 ตุลาคม 2566 ณ สนามเฉลิมพระเกียรติ มีนบุรี (ฟุตบอล) เวลา 7.30-16.00 น. สนามที่ 3 วันที่ 14-15 ตุลาคม 2566 ณ สนามเฉลิมพระเกียรติ บางมด (วอลเลย์บอล) เวลา 7.30-16.00 น. สนามที่ 4 วันที่ 28-29 ตุลาคม 2566 ณ ศูนย์กีฬาบางบอน (ฟุตบอล) เวลา 7.30-16.00 น. สนามที่ 5 วันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2566 ณ โรงเรียนนนทรีวิทยา เขตยานนาวา (ฟุตบอล) เวลา 7.30-16.00 น. สนามที่ 6 วันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 ณ สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง (ฟุตบอล) Final Match เวลา 7.30-16.00 น.

1 17 18 19 20 21 88