อัยการฟ้อง 18 แกนนำราษฎร

กทม. 8 มี.ค. – อัยการสั่งฟ้องแกนนำกลุ่มราษฎร 18 คน คดีชุมนุมท้องสนามหลวง เมื่อ 19-20 กันยายน ปี 2563 ใน 10 ข้อหาหนัก นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง พร้อมด้วย นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน , นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ และแกนนำกลุ่มราษฎร รวม 18 คน เดินทางมาที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก ตามนัดหมายของพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ที่นัดหมายสั่งฟ้องคดีร่วมกันชุมนุมที่สนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 กันยายน 2563 โดยนางสาวปนัสยา กล่าวว่า คาดหวังจะได้รับความยุติธรรมจากศาลและได้รับการประกันตัวระหว่างการพิจารณาคดี เพราะหากศาลยังไม่มีคำพิพากษาก็ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งผู้ที่ไม่ได้การประกันก่อนหน้านี้ จะได้รับการปล่อยตัวเช่นกัน แต่ก็ได้เตรียมใจไว้แล้วและครอบครัวตัวเองก็ค่อนข้างเข้มแข็งหากจะต้องเข้าเรือนจำ ก็ยังมีคนที่เหลือเดินหน้าต่อสู้ต่อ ด้าน นายกฤษฎางค์ นุตจรัส […]

ปืนช๊อตไฟฟ้าของจริง

รพ.ตร. 1 มี.ค. – ผบ.ตร. ยอมรับมีตำรวจบางนายพกปืนช๊อตไฟฟ้าจริง แต่ยังไม่ทันได้ใช้ ส่วนกระสุนยางและกระบองเลือกใช้ตามสถานการณ์เฉพาะหน้า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) พร้อมด้วยพลตำรวจโทภัครพงษ์ พงศ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) เข้าเยี่ยมอาการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการกระชับพื้นที่การชุมนุมเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ จำนวน 25 คน พร้อมมอบเงินบำรุงขวัญกำลังใจ ผบ.ตร. กล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้เปลี่ยนไปจากเดิม ไม่มีแกนนำ ไม่มีการใช้เครื่องขยายเสียง จึงทำให้ยากต่อการควบคุม และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความรุนแรง พร้อมย้ำตำรวจไม่ได้สนับสนุนการใช้ความรุนแรง ส่วนการใช้กระสุนยางควบคุมการชุมนุมนั้น ตำรวจไม่ได้เรียงตามระดับความรุนแรงของอาวุธ แต่เลือกใช้อุปกรณ์ตามสถานการณ์เฉพาะหน้า เช่น การใช้กระสุนปืนยางใช้ในกรณีที่เกิดการปะทะ แต่หากเป็นการเผชิญหน้าหน้าจะใช้กระบอง ยืนยันตำรวจมีการแจ้งเตือนก่อน และอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนก็เป็นไปตามหลักสากล โดยยอมรับว่ามีตำรวจบางนายพกปืนช็อตไฟฟ้า แต่ยังไม่ทันได้ใช้งาน และผู้ที่พกก็เป็นผู้ที่ผ่านการฝึกฝนแล้ว กรณีชุดควบคุมฝูงชนคุมตัวผู้ชุมนุมออกไปจากพื้นที่ และไม่สามารถตอบคำถามผู้ชุมนุมได้ว่า จะคุมตัวไปที่ไหนให้ไปถามนายนั้น ผบ.ตร. ระบุว่า ตามหลักปฏิบัติการหัวหน้าหน่วยจะทราบแต่ตำรวจผู้ปฏิบัติการจะไม่ทราบจึงตอบไปแบบนั้น โดยหลังจากนี้ กำชับให้มีการประชาสัมพันธ์มากขึ้น กรณีตำรวจหัวใจวายเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการชุมนุม ทำให้กถูกตั้งข้อสังเกตว่าใช้งานตำรวจหนักโดยไม่ให้พักผ่อน ผบ.ตร. ยืนยันว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามวงรอบปกติ.-สำนักข่าวไทย

สอบเพื่อน-แฟนสาว “นายเก่ง” คดีพริตตี้ “วาวา”

ตำรวจเรียกสอบเพื่อนและแฟนสาว “นายเก่ง” คลายปมการเสียชีวิตของพริตตี้ “วาวา” ส่วนพยานสอบแล้ว 11 ปาก มั่นใจสอบเสร็จทุกปากสัปดาห์นี้

แจ้งจับเพจข่าวแพร่เอกสารโยงไอซ์ 1,500 กิโล

กทม. 17 ก.พ.- “พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล” ส่งตัวแทนเเจ้งความเอาผิดเพจข่าวเเพร่เอกสารราชการและตัดต่อภาพ กรณีจับไอซ์ 1.5 พันกิโลกรัม เมื่อปี 2562 ทำให้ เสื่อมเสียชื่อเสียง พันตำรวจโทเอกศิษฐ์ โตอดิเทพย์ คณะทำงานป้องกันยุทธการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมเฉพาะทาง เป็นผู้รับมอบอำนาจจากพลตำรวจโทต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามดำเนินคดีกับเพจที่ชื่อว่า “สนับสนุนปฏิรูปตำรวจ” ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา พันตำรวจโทเอกศิษฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเพจดังกล่าวได้โพสต์หนังสือราชการ คือ คำสั่งให้รายงานชี้เเจงกรณีจับผู้ต้องหาคดียาเสพติดพร้อมไอซ์ 1,500 กิโลกรัม ที่ จ.ตาก เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2562 โดยผู้ต้องหาให้การซัดทอดถึงทหารยศพันเอกและนายตำรวจยศพลตำรวจโท ซึ่งตามหลักต้องสืบสวนขยายผลเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง เเต่พนักงานสอบสวนกลับไม่ขยายผลและสรุปสำนวนคดีส่งอัยการสั่งฟ้อง ขณะที่กองบัญชการตำรวจภูธรภาค 6 ก็ไม่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีโดยเอกสารดังกล่าวลงนามโดยผู้บังคับบัญชาระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวพลตำรวจโทต่อศักดิ์ ถูกพาดพิงด้วยตามข้อความในคำสั่งฯ เเละเพจ “สนับสนุนปฏิรูปตำรวจ” ได้นำเอกสารซึ่งเป็นความลับทางราชการมาเผยเเพร่ อีกทั้งนำภาพของพลตำรวจโทต่อศักดิ์ มาใช้ประกอบทำให้ประชาชนเข้าใจผิดเเละเสื่อมเสียชื่อเสียง ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่เกิดขึ้นนี้มาจากความขัดเเย้งระหว่างนายตำรวจระดับสูง 2 นายใช่หรือไม่ […]

ตร.ยืนยันชายถูกทำร้ายกลางม็อบ ไม่ใช่แพทย์อาสา

บช.น. 15 ก.พ. – โฆษกตำรวจนครบาล ยืนยันชายถูกทำร้ายกลางม็อบราษฎรคืนก่อนวาเลนไทน์ ไม่ใช่แพทย์อาสา พลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) และโฆษกตำรวจนครบาล กล่าวถึงกรณีตำรวจควบคุมฝูงชนถูกกล่าวหาทำร้ายแพทย์อาสาระหว่างการชุมนุมของกลุ่มราษฎร เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า จากการตรวจสอบตำรวจควบคุมตัวผู้ชุมนุม 11 คน ในจำนวนนี้ มี 8 คน ใช้ความรุนแรงขว้างปาสิ่งของ ระเบิดเพลิง และทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย จึงจับกุมในข้อหาเมาสุรา และภายหลังได้ทำการเปรียบเทียบปรับ นอกจากนี้ มี 1 คน อ้างเป็นแพทย์อาสา หรือพยาบาลอาสา ตำรวจได้ตรวจสอบประวัติกลับไม่พบเคยเรียนหรือศึกษาหลักสูตรทางด้านการแพทย์หรือสหวิชาชีพพยาบาล จึงเป็นเพียงแค่คำกล่าวอ้างลอย ๆ เท่านั้น อีกทั้ง วันนี้แพทยสภาแถลงว่า บุคคลดังกล่าวไม่ใช่แพทย์อาสาในระบบของแพทย์สภา ซึ่งหลังจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใดจะจัดระเบียบ กลุ่มแพทย์อาสาเพื่อให้เกิดความชัดเจนป้องกันการกล่าวอ้างเพราะที่ผ่านมามีบุคคลเข้าไปร่วมชุมนุมและอ้างตัวเป็นผู้สื่อข่าว อ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยงานต่าง ๆ และอ้างเป็นแพทย์ หรือพยาบาลอาสา ทำให้การทำงานของตำรวจมีปัญหาตามไปด้วย ซึ่งช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการเคลียร์พื้นที่ได้ปฏิบัติการตามยุทธวิธี คือประกาศขอให้ผู้ชุมนุมหรือผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องยุติการชุมนุม และแยกย้ายออกจากพื้นที่ ปรากฏว่ายังมีผู้ชุมนุมบางส่วนฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามและใช้กำลังกับเจ้าหน้าที่ […]

จับ “เจ๊เพชร” ขาใหญ่ขนเมียนมาส่งตลาดกลางกุ้ง

ผบ.ตร.นำแถลงจับ “เจ๊เพชร” เอเย่นต์ใหญ่ฝั่งไทย นำเข้า-ส่งออกแรงงานเมียนมา ส่งตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร ต้นเหตุโควิดระบาดระลอกใหม

เริ่มแล้ว! ม็อบเมียนมาต้านรัฐประหาร

กทม.8 ก.พ. – ชาวเมียนมาในไทย เริ่มทำกิจกรรมต่อต้านรัฐประหารหน้า UN ประจำประเทศไทย ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ บริเวณด้านหน้าองค์การสหประชาชาติ หรือ UN ประจำประเทศไทย เวลาประมาณ 14.30 น. พบว่าเริ่มมีชาวเมียนมาที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทยทยอยเดินทางมาจัดกิจกรรมต่อต้านรัฐประหารในมียนมา พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางออง ซานซูจี หญิงชาวเมียนมา เปิดเผยว่า ทำงานเป็นแม่บ้านในไทยมา 20ปี พูดภาษาไทยได้ชัดเจน การชุมนุมก็เพื่อต่อต้านการยึดอำนาจในประเทศของตนเองร่วมกับชาวเมียนมาอีกหลายคน ยืนยันมาชุมนุมวันนี้ พวกตนไม่ได้นัดหมายกันและไม่ต้องการทำร้ายประเทศไทยหรือก่อความวุ่นวาย เพียงขอพื้นที่ในการแสดงออกเท่านั้น โดยทุกคนยินดีให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่และนั่งอยู่ในพื้นที่ที่จัดเอาไว้ไม่ลงถนนไปปิดการจราจร ส่วนช่วงนี้มีการระบาดของโควิด-19 ก็กังวลแต่ได้พยายามป้องกันด้วยการสวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่าง ส่วนการรักษาความปลอดภัยที่ทำการ UN มีตำรวจ สน.นางเลิ้ง ยืนสังเกตการณ์และปิดประตูทางเข้าออก โดยเจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือผู้ชุมนุม ให้ทำกิจกรรมบริเวณเกาะกลางถนน เพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร.-สำนักข่าวไทย

ถึงคิว “ดีเจมะตูม” พบตำรวจ

ตำรวจออกหมายเรียก “ดีเจมะตูม” รับทราบข้อหาผิด พ.ร.บ. โรคติดต่อและพ.ร.ก.ฉุกเฉิน กรณีจัดเลี้ยงวัดเกิด 15 ก.พ.นี้ ขณะที่กลุ่มเพื่อน ๆ เข้าพบ ตำรวจวันนี้

ททท.ลุยเช็กบิลโกง “เราเที่ยวด้วยกัน”

กทม. 29 ม.ค. –ททท.เตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับคนโกงโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ยกขบวนการ สัปดาห์หน้า ด้านรอง ผบ.ตร. สั่งติวเข้มรองผู้การฯ ทั่วประเทศ ก่อนส่งคดีให้ท้องที่รับไม้ต่อ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่าวันที่ 4 และ 5 กุมภาพันธ์นี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) มีคำสั่งเรียกรองผู้บังคับการทุกจังหวัดทั่วประเทศ เข้ามาอบรมเรื่องการสอบสวนดำเนินคดีโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” และโครงการ “คนละครึ่ง” ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ ย่านหลักสี่ เนื่องจากการสืบสวนพบการทุจริตรโดยเฉพาะ “เราเที่ยวด้วยกัน” พบการกระทำผิดกระจายไปทั่วประเทศ โดยกองปราบปรามจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการรับคดีไว้เบื้องต้น ก่อนส่งเรื่องเรื่องต่อให้แต่ละจังหวัดไปดำเนินการสอบสวนต่อเพื่อความรวดเร็ว ส่วนการประชุมร่วมระหว่างตำรวจกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เพื่อหามาตรการในการป้องกันการโกง หรือทุจริตโครงการต่าง ๆ ของรัฐที่ช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” จะเสนอธนาคารกรุงไทยให้ปรับปรุงระบบแอปพลิเคชัน ทั้งถุงเงิน และเป๋าตัง เพื่อปิดช่องโหว่การทุจริตและป้องกันความเสียหายให้รัฐ สัปดาห์หน้า ททท. ประสานจะเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับการโกง “เราเที่ยวด้วยกัน” เนื่องจากพบว่าความเสียหายกระจายไปในทุกพื้นที่ทั่วประเทศและสร้างความเสียหายให้กับรัฐจำนวนมาก.-สำนักไทย

นายกฯ สั่งเอาผิดปกปิดไทม์ไลน์โควิด

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 29 ม.ค. – นายกฯ สั่ง ผบ.ตร.ใช้อำนาจ พ.ร.บ.โรคติดต่อ เอาผิดคนติดโควิด-19 ปกปิดข้อมูลไทม์ไลน์ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยัน ตำรวจสามารถดำเนินคดีกับผู้ป่วยโควิด-19 ที่ปกปิดข้อมูลไทม์ไลน์ โดยให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปดำเนินการสอบสวนได้ทันที ด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า ตำรวจจะใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อฯ ดำเนินคดีกับผู้ป่วยโควิดที่ปกปิดข้อมูลในการสอบสวนโรค โดยให้เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะเจ้าทุกข์เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งตำรวจพร้อมรับแจ้งความและสอบสวนดำเนินคดี ส่วนกรณีผู้ป่วยโควิดที่เป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตรไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลไทม์ไลน์ ผบ.ตร.ย้ำว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีเจตนาไม่เปิดเผยข้อมูลจริงจะดำเนินการโดยไม่ละเว้น.-สำนักข่าวไทย

ฉากเด็ดคดี”น้องชมพู่”15 ก.พ.

กทม. 29 ม.ค. – “อัจฉริยะ” ลั่น! 15 ก.พ.นี้ ตำรวจขอออกหมายจับคนร้ายคดี “น้องชมพู่” 3 ข้อหา ต่อให้จ้างทนายความเก่งแค่ไหนก็ไม่รอด นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่าให้รอวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ คดีการเสียชีวิตของ “น้องชมพู่” เด็กหญิงวัย 3 ขวบ จะมีความชัดเจนโดยตำรวจจะขอออกหมายจับคนร้าย 3 ข้อหา คือกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย , กักขังหน่วงเหนียวและพรากผู้เยาว์ฯ ระหว่างนี้ตำรวจจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อให้ผู้กระทำความผิดไม่มีโอกาสได้ต่อสู้คดีได้ ซึ่งพยานหลักฐานสำคัญที่นำไปสู่การออกหมายจับ คือหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนจะมีจำนวนกี่คนที่ถูกออกหมายจับขอให้รอวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พร้อมยืนยันคนร้ายไม่รอดและคดีจะเสร็จสิ้นในเดือนหน้า แม้จะใช้ทนายเก่งแค่ไหนก็ไม่รอด -สำนักข่าวไทย

1 2 3