เมืองเคอร์ซอนของยูเครนประสบปัญหาขาดแคลนพลังงานอีกครั้ง

เคียฟ 1 ธ.ค. – เมืองเคอร์ซอน ทางตอนใต้ของยูเครน ต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลนพลังงานอีกครั้ง หลังถูกรัสเซียยิงปืนใหญ่โจมตีอย่างหนัก ทั้งที่พื้นที่บางส่วนของแคว้นดังกล่าวเพิ่งกลับมามีไฟฟ้าใช้เมื่อสัปดาห์ก่อน นับตั้งแต่ที่ยูเครนยึดเมืองเคอร์ซอนคืนมาจากรัสเซียในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน นายยาโรสลาฟ ยานูเชวิช ผู้ว่าการแคว้นเคอร์ซอน ระบุในแถลงการณ์ผ่านเทเลแกรม แอปพลิเคชั่นสนทนาออนไลน์แบบเข้ารหัสว่า รัสเซียได้ยิงปืนใหญ่โจมตีอย่างหนักจนทำให้เมืองเคอร์ซอนต้องประสบปัญหาขาดแคลนพลังงานอีกครั้งทั้งที่พื้นที่บางส่วนเพิ่งกลับมามีไฟฟ้าใช้เมื่อสัปดาห์ก่อน หลังจากที่ต้องตกอยู่ในสภาพขาดแคลนน้ำประปาและไฟฟ้ามาเป็นเวลานานหลายสัปดาห์ ทั้งยังระบุว่า เจ้าหน้าที่ด้านพลังงานของเมืองเคอร์ซอนกำลังเร่งแก้ไขปัญหาพลังงานไม่พอใช้อยู่ในขณะนี้ ในขณะเดียวกัน กองเสนาธิการของยูเครน ระบุในรายงานความคืบหน้าประจำวันว่า ขณะนี้ กองทัพรัสเซียมีจำนวนทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ลดลงที่เมืองโอเลชกี ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองเคอร์ซอนที่อีกฟากฝั่งของแม่น้ำดนิโปรและถูกยึดครองโดยรัสเซีย ทั้งนี้ ประชาชนในแคว้นเคอร์ซอนต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสถานการณ์อันตรายเนื่องจากถูกรัสเซียยิงปืนใหญ่โจมตีในหลายพื้นที่อยู่เป็นประจำ โดยที่กองทัพรัสเซียได้ถอยทัพไปปักหลักอยู่ในพื้นที่อีกฝั่งของแม่น้ำดนิโปรเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

เผยจีนจะอนุญาตให้ผู้ป่วยโควิดบางส่วนกักตัวที่บ้านได้

ปักกิ่ง 1 ธ.ค. – จีนจะอนุญาตให้ประชาชนบางส่วนที่มีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกกักตัวที่บ้านได้ โดยคาดว่าทางการจีนจะประกาศมาตรการเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เผยนาม 2 คนที่ระบุว่า ทางการจีนจะอนุญาตให้ประชาชนบางส่วนที่มีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกกักตัวในบ้านได้ ซึ่งรวมถึงสตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว ส่วนผู้ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโควิดก็จะได้รับอนุญาตให้กักตัวที่บ้านได้เช่นกันหากสภาพที่อยู่อาศัยมีความเหมาะสมตามข้อกำหนดของทางการจีน ทั้งยังระบุว่า ทางการจีนจะหันไปสนับสนุนการใช้ชุดตรวจโควิดด้วยตัวเองมากขึ้น และลดการตรวจหาเชื้อโควิดในประชาชนเป็นวงกว้าง รวมถึงการตรวจหาเชื้อโควิดแบบปฏิกิริยาลูกโซ่พอลิเมอเรสแบบย้อนกลับ (RT-PCR) อย่างไรก็ดี คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับรายงานของรอยเตอร์ส ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนระบุเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ว่า ทางการจีนกำลังพิจารณาถึงข้อวิตกกังวลเร่งด่วนของประชาชนที่เรียกร้องให้มีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิดมากขึ้น ทั้งนี้ รายงานของรอยเตอร์สมีขึ้นในขณะที่จีนต้องเผชิญกับเหตุประท้วงต่อต้านมาตรการควบคุมโรคโควิดที่เข้มงวด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก ในหลายเมืองสำคัญของจีน เช่น นครเซี่ยงไฮ้ นครกวางโจว และกรุงปักกิ่ง เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

“นิวยอร์ก-สิงคโปร์” รั้งแชมป์เมืองค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก

ครนิวยอร์กของสหรัฐ และสิงคโปร์ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดประจำปี 2565 ร่วมกัน ท่ามกลางสถานการณ์ที่หลายเมืองใหญ่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาราคาพลังงานและภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น

มาตรการคุมโควิดของจีนทำเกษตรกรปล่อยพืชเน่าเสียคาแปลง

เกษตรกรจีนตัดสินใจไถกลบพืชผลทางการเกษตร หรือปล่อยให้พืชผลเน่าเสียในแปลงเพาะปลูก หลังไร้ช่องทางกระจายสินค้าและไม่มีตลาดรองรับ เนื่องจากการใช้มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดของทางการจีน

จำคุก 17 ปีครึ่ง ชายต่อยหน้าหญิงเอเชียกว่า 100 ครั้ง

นิวยอร์ก 1 ธ.ค. – ศาลในนครนิวยอร์กของสหรัฐตัดสินจำคุก 17 ปี 6 เดือน ชายก่อเหตุต่อยหน้าหญิงสูงวัยชาวอเมริกันเชื้อสายฟิลิปปินส์ วัย 67 ปี กว่า 100 ครั้ง และกระทืบร่างกายของหญิงคนดังกล่าวในขณะที่เธอล้มลงบนพื้นที่เมืองยองเกอร์สในนครนิวยอร์กเมื่อวันที่ 11 มี.ค. อัยการเขตของเทศมณฑลเวสต์เชสเตอร์ในนครนิวยอร์ก เผยว่า วันนี้ถือเป็นการปิดคดีและอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังรุนแรงที่สุดคดีหนึ่งของเทศมณฑลเวสต์เชสเตอร์ นายแทมเมล เอสโค วัย 42 ปี ได้ถูกตัดสินว่ามีความผิดในเดือนกันยายนฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยมีเจตนา และถูกตัดสินจำคุก 17 ปี 6 เดือน รวมถึงคำสั่งควบคุมความประพฤติเป็นเวลา 5 ปีหลังพ้นโทษในเรือนจำ ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดของสำนักงานตำรวจเมืองยองเกอร์ส เผยให้เห็นว่า หญิงสูงวัยชาวอเมริกันเชื้อสายฟิลิปปินส์ได้เดินผ่านนายเอสโคเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ก่อนที่เขาจะเริ่มด่าทอหญิงสูงวัยด้วยถ้อยคำเหยียดเชื้อชาติ แต่เธอก็ไม่ได้สนใจและรีบเดินเข้าอพาร์ตเมนต์เพื่อไขกุญแจเปิดประตูห้องพัก อย่างไรก็ดี นายเอสโคได้เดินตามหลังเธอ และต่อยเข้าที่ศีรษะจนหญิงสูงวัยล้มลงบนพื้น ภาพจากกล้องวงจรปิดยังเผยให้เห็นว่า นายเอสโคได้รัวหมัดใส่หญิงรายนี้กว่า 100 ครั้ง กระทืบร่างกายของเธอซ้ำไปมาอีกหลายครั้ง และถ่มน้ำลายใส่ จนทำให้เธอได้รับบาดเจ็บจากภาวะเลือดออกในสมอง กระดูกใบหน้าหักหลายจุด […]

“มัสก์” เผยเคลียร์เรื่องเข้าใจผิดกับแอปเปิลแล้ว

แคลิฟอร์เนีย 1 ธ.ค. – อีลอน มัสก์ เจ้าของกิจการทวิตเตอร์คนใหม่ ระบุว่า เขาได้พบกับ ทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ของแอปเปิล เมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น และได้พูดคุยปรับความเข้าใจในเรื่องเข้าใจผิดที่เขาคิดว่าแอปเปิลจะถอดแอปพลิเคชั่นทวิตเตอร์ออกจากแอปสโตร์ (App Store) แล้ว มัสก์ระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า เขาได้พูดคุยกับคุกเพื่อปรับความเข้าใจในเรื่องเข้าใจผิดที่เขาคิดว่าแอปเปิลจะถอดแอปพลิเคชั่นทวิตเตอร์ออกจากแอปสโตร์แล้ว และคุกก็ได้ยืนยันชัดเจนว่าไม่เคยคิดที่จะทำเช่นนั้น นอกจากนี้ มัสก์ยังได้ทวีตโพสต์ที่เป็นวิดีโอคลิปที่แสดงให้เห็นภาพอาคารสำนักงานใหญ่อันสวยงามของแอปเปิล ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองคูเปอร์ติโนในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ พร้อมทั้งระบุว่า การพูดคุยระหว่างเขากับคุกเป็นไปด้วยดี ก่อนหน้านี้ มัสก์ ซึ่งเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ได้ออกมาโจมตีแอปเปิล ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่ากิจการมากที่สุดในโลก เมื่อช่วงต้นสัปดาห์เกี่ยวกับค่าบริการและกฎระเบียบของแอปสโตร์ ทั้งยังกล่าวหาแอปเปิลว่าขู่ถอดแอปพลิเคชั่นทวิตเตอร์ออกจากแอปสโตร์อีกด้วย อย่างไรก็ดี แอปเปิล ซึ่งไม่ได้ออกแถลงการณ์ต่อคำกล่าวอ้างของมัสก์ ระบุเพียงว่า บริษัทได้แจ้งให้นักพัฒนาแอปพลิเคชั่นทราบถึงความจำเป็นในการปรับปรุงแอปพลิเคชั่นเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของแอปสโตร์ตามปกติ ทั้งนี้ นับตั้งแต่ที่ซื้อกิจการของทวิตเตอร์ มัสก์ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายหลายอย่างของบริษัท เช่น การคืนบัญชีผู้ใช้งานทวิตเตอร์ที่ถูกแบน ซึ่งรวมถึงบัญชีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ.-สำนักข่าวไทย

ดินถล่มถนนมอเตอร์เวย์ในบราซิล สูญหายกว่า 30 คน

บราซิเลีย 1 ธ.ค. – เกิดเหตุดินถล่มทับถนนทางหลวงพิเศษในพื้นที่ทางตอนใต้ของบราซิล เนื่องจากสภาพอากาศย่ำแย่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน และอาจมีผู้สูญหายราว 30-50 คน เจ้าหน้าที่ของรัฐปารานา ทางตอนใต้ของบราซิล ระบุว่า เกิดเหตุดินถล่มรุนแรงบนถนนทางหลวงพิเศษแห่งหนึ่งในรัฐปารานาในขณะที่มีรถยนต์อย่างน้อย 16 คันแล่นอยู่บนถนนและถูกดินถล่มทับ ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ กล่าวว่า เหตุดินถล่มในครั้งนี้เกิดขึ้นจากสภาพอากาศที่ย่ำแย่ และปฏิบัติการช่วยชีวิตก็เป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากจุดเกิดเหตุตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ส่วนทางการรัฐปารานา เผยว่า ขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตจากเหตุดินถล่มอย่างน้อย 2 คน และคาดว่าอาจมีผู้สูญหายราว 30-50 คน ในขณะเดียวกัน หน่วยฉุกเฉินของรัฐปารานา ระบุว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถช่วยผู้รอดชีวิตจากเหตุดินถล่มได้ 6 คน ซึ่งรวมถึงนายกเทศมนตรีของเมืองกัวราตูบา ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งที่มีชื่อเสียงในรัฐปารานา โดยที่เขาระบุผ่านคลิปวิดีโอในสื่อโซเชียลมีเดียว่า เขารอดชีวิตมาได้ราวปาฏิหาริย์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่ากลัวมาก เพราะจู่ ๆ ดินบนภูเขาที่อยู่ริมถนนก็ถล่มลงมาใส่รถยนต์ที่แล่นผ่านไปมา และพัดพารถหายไปกับกองดิน ทั้งนี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของบราซิล (INMET) รายงานว่า อาจเกิดเหตุดินถล่มขึ้นอีกหลายครั้งในบราซิล เนื่องจากได้ประกาศแจ้งเตือนฝนตกหนักในหลายรัฐของบราซิล.-สำนักข่าวไทย

“H&M” จะปลดพนักงาน 1,500 คน เพื่อลดต้นทุน

เอชแอนด์เอ็ม (H&M) บริษัทผู้ผลิตสินค้าแฟชั่นเครื่องแต่งกายของสวีเดน จะปรับลดจำนวนพนักงาน 1,500 คน เพื่อลดต้นทุน ท่ามกลางความต้องการซื้อสินค้าที่ลดลง เนื่องจากผู้ซื้อกำลังเผชิญกับปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น

สองนายกฯ หญิงปฎิเสธว่าหารือกันเพราะอายุใกล้กัน

เวลลิงตัน 30 พ.ย. – นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ และนายกรัฐมนตรีซานนา มาริน ของฟินแลนด์ ปฏิเสธข้อสงสัยของผู้สื่อข่าวชายที่ถามขึ้นว่า การที่ผู้นำทั้งสองคนนัดพบปะหารือกันที่นิวซีแลนด์เป็นเพราะทั้งคู่มีอายุใกล้เคียงกันและมีหลายสิ่งที่คล้ายกัน นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์น วัย 42 ปี และนายกรัฐมนตรีมาริน วัย 37 ปี ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวชายคนดังกล่าวจากสถานีวิทยุนิวส์ทอล์ก ซีบี (Newstalk ZB) ของนิวซีแลนด์ว่า ทั้งสองคนนัดหารือกันเพราะเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เพราะเป็นผู้นำหญิงอายุน้อยเหมือนกัน นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นยังตั้งคำถามกับผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวว่า เธอสงสัยว่าเขาจะตั้งคำถามนี้กับผู้นำประเทศที่เป็นผู้ชายหรือไม่ ทั้งยังระบุว่า แม้เธอกับนายกรัฐมนตรีมารินเป็นผู้หญิงที่ได้ก้าวเข้ามามีบทบาททางการเมืองที่มีผู้ชายเป็นใหญ่ก็จริง แต่การที่ทั้งคู่พบกันคงไม่ใช่เพราะเหตุผลที่ว่าทั้งสองคนเป็นผู้หญิงเหมือนกันอย่างแน่นอน นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ทางการค้าของนิวซีแลนด์กับฟินแลนด์ว่า การพบหารือกันในวันนี้เป็นโอกาสดีที่จะส่งเสริมการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นที่ว่าทั้งสองคนเป็นผู้หญิงเหมือนกัน ขณะที่บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ขณะนี้ นายกรัฐมนตรีมารินกำลังปฏิบัติภารกิจเยือนนิวซีแลนด์อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก และถือเป็นนายกรัฐมนตรีฟินแลนด์คนแรกที่เยือนนิวซีแลนด์ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นกับนายกรัฐมนตรีมารินยังได้เปิดการหารือระดับทวิภาคีร่วมกันในประเด็นต่าง ๆ เช่น ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ปัญหาค่าครองชีพ การให้ความสนับสนุนแก่ยูเครนหลังถูกรัสเซียบุกโจมตี และเหตุชุมนุมประท้วงในอิหร่าน.-สำนักข่าวไทย

พบชาย 3 คนแอบนั่งหางเสือเรือที่เดินทางจากไนจีเรียมาสเปน

มาดริด 30 พ.ย. – หน่วยยามฝั่งของสเปนพบชาย 3 คนแอบนั่งซ่อนตัวอยู่ที่หางเสือเรือขนาดใหญ่ของเรือบรรทุกน้ำมันเป็นเวลา 11 วัน นับตั้งแต่เรือลำนี้ออกเดินทางจากไนจีเรียมายังหมู่เกาะคานารีของสเปน หน่วยยามฝั่งของสเปนเผยแพร่ภาพถ่ายชาย 3 คนนั่งอยู่บนหางเสือเรือขนาดใหญ่ของเรือบรรทุกน้ำมัน ‘อลิธีนี 2’ (Alithini ll) ในขณะที่เรือลำนี้เดินทางถึงเมืองลาส ปัลมาส บนเกาะแกรน คานาเรีย เมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่เท้าของชายทั้งสามคนอยู่เหนือผิวน้ำเพียงไม่กี่นิ้ว ทั้งยังระบุว่า ทั้งสามคนได้รับการส่งตัวเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาภาวะขาดน้ำและภาวะอุณหภูมิกายต่ำแล้ว ขณะที่ที่ปรึกษาด้านการย้ายถิ่นฐานของทางการหมู่เกาะคานารีระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก และคงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้ที่แอบลักลอบเดินทางมากับเรือโดยผิดกฎหมายอาจจะไม่ได้โชคดีจนมีชีวิตรอดเสมอไป มารีน ทราฟฟิก (Marine Traffic) เว็บไซต์ติดตามการเดินเรือแบบเรียลไทม์ ระบุว่า เรือบรรทุกน้ำมันลำนี้ได้เดินทางออกจากเมืองลากอสของไนจีเรียในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกเมื่อวันที่ 17 พ.ย. มายังหมู่เกาะคานารีของสเปน ซึ่งเป็นระยะทางราว 3,200 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินทางนานถึง 11 วัน ขณะที่หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทม์สของสหรัฐ รายงานว่า มีผู้อพยพและผู้ลี้ภัยชาวแอฟริกันหลายพันคนแอบลักลอบเดินทางมายังหมู่เกาะคานารีของสเปนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาด้วยวิธีการที่อันตรายบนเรือที่แออัดจากหลายพื้นที่ของทวีปแอฟริกา เช่น ชายฝั่งของโมร็อกโก ดินแดนเวสเทิร์นซาฮาราที่ตกเป็นข้อพิพาทและเป็นส่วนหนึ่งของโมร็อกโก มอริเตเนีย ประเทศในแถบแอฟริกาตะวันตกเฉียงเหนือ และเซเนกัล […]

ระเบิดฆ่าตัวตายในปากีสถาน เสียชีวิต 3 คน

อิสลามาบัด 30 พ.ย. – เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่มุ่งเป้าโจมตีตำรวจสายตรวจที่เมืองเควตตา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน ในวันนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และผู้บาดเจ็บ 28 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจของเมืองเควตตากล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่มุ่งเป้าโจมตีตำรวจสายตรวจที่เมืองเควตตาในวันนี้ ทำให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 30 คน ซึ่งรวมถึงตำรวจ 15 นาย และมีผู้เสียชีวิต 3 คน เป็นตำรวจ 1 นาย ผู้หญิง 1 คน และเด็กเล็ก 1 คน ทั้งยังระบุว่า เหตุระเบิดฆ่าตัวตายเกิดขึ้นในขณะที่ตำรวจสายตรวจชุดดังกล่าวกำลังปฏิบัติหน้าที่คุ้มกันการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอ ขณะที่รอยเตอร์สรายงานว่า กองกำลังตอลิบานในปากีสถานอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งมีขึ้นหลังจากที่กองกำลังตอลิบานในปากีสถานได้ทำข้อตกลงหยุดยิงกับรัฐบาลปากีสถานในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รอยเตอร์สยังรายงานว่า กองกำลังติดอาวุธอิสลามในปากีสถานมักก่อเหตุโจมตีกลุ่มเจ้าหน้าที่ฉีดวัคซีนโปลิโออยู่บ่อยครั้ง เพราะเชื่อว่ากลุ่มชาติตะวันตกพยายามใช้การฉีดวัคซีนเพื่อเข้ามาสอดแนมพวกตน ทั้งนี้ เมืองเควตตา ซึ่งเป็นเมืองเอกของแคว้นบาลูจิสถานของปากีสถาน ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนอัฟกานิสถานกับอิรัก ซึ่งเป็นที่หลบซ่อนของกองกำลังติดอาวุธอิสลามและกลุ่มแบ่งแยกดินแดน.-สำนักข่าวไทย

ชาวจีนปะทะตำรวจในนครกวางโจวเรื่องไม่พอใจมาตรการโควิด

ปักกิ่ง 30 พ.ย. – ชาวจีนในนครกวางโจวในมณฑลกวางตุ้งของจีนปะทะกับตำรวจปราบจลาจลที่สวมชุดป้องกันเชื้อโรคเมื่อคืนวันอังคาร เนื่องจากไม่พอใจที่ทางการจีนใช้มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดมาเป็นเวลาเกือบ 3 ปี สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานอ้างคลิปวิดีโอในทวิตเตอร์ที่แสดงให้เห็นภาพตำรวจจีนหลายสิบนายในชุดป้องกันเชื้อโรคสีขาวเดินถือโล่เหนือศีรษะ พร้อมเคลื่อนขบวนไปตามสิ่งกีดขวางบนท้องถนนที่เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการล็อกดาวน์ ในขณะที่มีคนขว้างปาวัตถุใส่ขบวนตำรวจในเขตไห่จูของนครกวางโจว ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตและตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจีน ก่อนที่จะมีภาพตำรวจควบคุมตัวชาวจีนจำนวนหนึ่งที่ถูกสวมกุญแจมือไปยังสถานที่ที่ยังไม่ทราบแน่ชัด ขณะที่คลิปวิดีโออื่น ๆ ปรากฏภาพชาวจีนหลายคนขว้างปาวัตถุแข็งใส่ตำรวจ และตำรวจปากระป๋องแก๊สน้ำตาไปตกท่ามกลางกลุ่มคนขนาดเล็ก จนทำให้คนกลุ่มนี้พากันวิ่งหนีและสลายตัวในทันที ขณะที่โพสต์ในสื่อโซเชียลมีเดียระบุว่าเหตุปะทะดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันอังคาร และมีต้นเหตุมาจากความไม่พอใจต่อการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรคโควิด ในขณะเดียวกัน นครเจิ้งโจวในมณฑลเหอหนาน ทางตอนกลางของจีน ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงงานผลิตไอโฟนขนาดใหญ่ของฟ็อกซ์คอนน์ บริษัทเทคโนโลยีของไต้หวัน และเคยเกิดเหตุคนงานก่อความไม่สงบที่โรงงาน ได้ประกาศอนุญาตให้ภาคธุรกิจกลับมาเปิดดำเนินงานได้อีกครั้งภายใต้กฎระเบียบด้านโควิด เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต โรงออกกำลังกาย และร้านอาหาร แต่ก็ประกาศรายชื่ออาคารหลายแห่งที่ยังต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคโควิดในระดับสูง คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 37,828 คน เมื่อวันอังคาร แต่ไม่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่ โดยกรุงปักกิ่งพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 4,522 คน เพิ่มขึ้นจากวันจันทร์ที่มี 4,386 คน ส่วนนครเซี่ยงไฮ้พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 187 คน เพิ่มขึ้นจากวันจันทร์ที่มี 178 คน ด้านนครกวางโจว ซึ่งมีประชากรเกือบ […]

1 20 21 22 23 24 315