เผย “คิม จอง อึน” เป็นคนสั่งทดสอบยิงขีปนาวุธรุ่นใหม่

เปียงยาง 25 มี.ค.-สื่อของเกาหลีเหนือรายงานว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เป็นผู้สั่งการและควบคุมการทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่เมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อยกระดับการป้องปรามนิวเคลียร์จากสหรัฐ สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือเคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือ เผยวันนี้ว่า นายคิมเป็นผู้สั่งการโดยตรงให้เกาหลีเหนือทดสอบการยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า ฮวาซอง-17 เมื่อวานนี้ พร้อมทั้งเผยแพร่ภาพนายคิม ซึ่งสวมเสื้อหนังสีดำและแว่นกันแดดสีดำ กำลังเดินข้ามลานบินที่มีขีปนาวุธขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนรถขนย้าย ทั้งนี้ ขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่สามารถทะยานไต่ระดับความสูงราว 6,248 กิโลเมตร และเดินทางไปในอากาศได้ไกล 1,090 กิโลเมตรภายในเวลา 1 ชั่วโมง ก่อนตกในพื้นที่น่านน้ำเปิดของทะเลญี่ปุ่น เคซีเอ็นเอยังรายงานอ้างคำพูดของนายคิมที่ระบุว่า เกาหลีเหนือจะนำขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่มาใช้ในภารกิจป้องปรามสงครามนิวเคลียร์ เขามองว่าการคิดค้นอาวุธนิวเคลียร์ด้านยุทธศาสตร์ครั้งใหม่ของเกาหลีเหนือจะทำให้ทั่วโลกกลับมาตระหนักถึงขีดความสามารถของกองทัพเกาหลีเหนืออีกครั้ง นอกจากนี้ เคซีเอ็นเอยังระบุว่า ความสำเร็จจากการทดสอบยิงขีปนาวุธฮวาซอง-17 แสดงให้เห็นว่าเกาหลีเหนือพร้อมเผชิญหน้าในระยะยาวกับสหรัฐแล้ว ขณะนี้ เกาหลีเหนือยังคงถูกนานาชาติคว่ำบาตรจากโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ส่วนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะเปิดประชุมวาระฉุกเฉินในวันนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับการทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปของเกาหลีเหนือ ก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้ สหรัฐ และนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่ขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ได้ออกแถลงการณ์ประณามการทดสอบยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือว่าเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่างชัดเจน ส่วนญี่ปุ่นระบุว่า การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและความปลอดภัยของภูมิภาค. -สำนักข่าวไทย

ยูเครนอ้างรัสเซียต้องการจบสงคราม 9 พ.ค.นี้

เคียฟ 25 มี.ค.-เจ้าหน้าที่ของยูเครนเผยว่า รัสเซียต้องการปิดฉากสงครามกับยูเครนในวันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันที่รัสเซียฉลองชัยชนะจากการทำสงครามโลกครั้งที่ 2 กับกองทัพนาซีเมื่อกว่า 70 ปีก่อน เจ้าหน้าที่ของกองทัพยูเครนเผยกับสำนักข่าว เดอะ เคียฟ อินดิเพนเดนต์ (The Kyiv Independent) ของยูเครนว่า หน่วยข่าวกรองยูเครนชี้ว่า รัสเซียต้องการยุติสงครามในวันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งรัสเซียกำหนดให้เป็นวันแห่งชัยชนะ (Victory Day) เพื่อรำลึกถึงการฉลองชัยชนะของรัสเซียในการทำสงครามโลกครั้งที่ 2 กับกองทัพนาซีของเยอรมนีเมื่อกว่า 70 ปีก่อน เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวยังระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ยังคงกล่าวอ้างโดยไม่มีหลักฐานว่า รัสเซียจำเป็นต้องบุกโจมตียูเครนเพื่อกำจัดกลุ่มนาซีให้หมดไปจากยูเครน แม้ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนมีเชื้อสายยิวก็ตาม ดังนั้น วันที่ 9 พฤษภาคมจึงมีความสำคัญต่อรัสเซียทั้งในอดีตและปัจจุบัน การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ยูเครนมีขึ้นในขณะที่รัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครนครบ 1 เดือนเมื่อวานนี้ แม้รัสเซียได้บุกถล่มหลายเมืองของยูเครนจนย่อยยับ แต่ก็อ้างว่ามุ่งเป้าโจมตีกลุ่มนาซีมากกว่าพลเรือนยูเครน ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ของรัสเซียเคยอ้างว่า กองทัพรัสเซียได้ทิ้งระเบิดใส่ห้องปฏิบัติการทดลองนิวเคลียร์ในเมืองคาร์คิฟเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เพราะกองพันอาซอฟ (Azov Battalion) […]

ชาติตะวันตกประณามการโจมตียูเครนของรัสเซียว่าป่าเถื่อน

บรัสเซลส์ 25 มี.ค. – ผู้นำชาติตะวันตกประกาศสนับสนุนความช่วยเหลือด้านทหารและมนุษยธรรมให้แก่ยูเครน รวมถึงประณามการบุกโจมตียูเครนของรัสเซียว่าเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน เนื่องจากยังมีพลเรือนหลายพันคนต้องหลบภัยอยู่ใต้ดินในเมืองมารีอูปอลที่ถูกรัสเซียปิดล้อมและทิ้งระเบิดถล่ม บรรดาผู้นำขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือจี 7 และทวีปยุโรป ได้จัดประชุมสุดยอดผู้นำร่วมกันเป็นครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดี โดยระบุว่า สถานการณ์ขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนถือเป็นเหตุรุนแรงที่สุดของทวีปยุโรปนับตั้งแต่สงครามคาบสมุทรบอลข่านในช่วงทศวรรษหลังปี 1990 ขณะที่นาโตประกาศแผนส่งกองทหารชุดใหม่ไปยัง 4 ประเทศในภูมิภาคยุโรปตะวันออกที่มีพรมแดนใกล้ยูเครน ส่วนสหรัฐและอังกฤษประกาศเพิ่มความช่วยเหลือให้แก่ยูเครน รวมถึงการใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมเพื่อกดดันรัสเซีย เช่น การประกาศคว่ำบาตรผู้หญิงคนหนึ่งที่รัฐบาลอังกฤษระบุว่าเป็นบุตรบุญธรรมของนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย อย่างไรก็ตาม มาตรการที่ออกมาไม่มีเรื่องที่เป็นข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนที่ให้คว่ำบาตรการนำเข้าพลังงานของรัสเซียและกำหนดเขตห้ามบินเหนือประเทศยูเครน ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือ ชาติตะวันตกยังคงหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน และทั่วโลกยังคงจับตาการกระทำอันโหดร้ายของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ต่อชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ขณะที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ระบุว่า ประธานาธิบดีปูตินได้กระทำการล้ำเส้นจนเข้าขั้นป่าเถื่อนไปแล้ว ด้านรัฐบาลรัสเซียได้ออกมาตอบโต้การประชุมสุดยอดผู้นำของกลุ่มชาติตะวันตกว่า ชาติตะวันตกต้องโทษตัวเองที่ทำให้เกิดสงครามในยูเครนขึ้นจากการสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ยูเครน ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เผยว่า มีผู้เสียชีวิตหลายพันรายนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกโจมตีเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และทำให้มีผู้อพยพออกนอกประเทศราว […]

นักข่าวหญิงรัสเซียถูกยิงเสียชีวิตในยูเครน

เคียฟ 24 มี.ค. – นักข่าวหญิงชาวรัสเซียถูกยิงเสียชีวิตในกรุงเคียฟของยูเครน หลังกองทัพรัสเซียระดมยิงโจมตีย่านที่พักอาศัยแห่งหนึ่งในขณะที่เธอกำลังบันทึกภาพความเสียหายจากการโจมตียูเครนของรัสเซียในครั้งก่อนหน้า ดิ อินไซเดอร์ (The Insider) เว็บไซต์ข่าวอิสระของรัสเซีย เผยว่า ออคซานา โบลินา นักข่าวหญิงของเว็บไซต์ ดิ อินไซเดอร์ เสียชีวิตท่ามกลางการยิงโจมตีในขณะที่เธอลงพื้นที่ทำข่าวเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นในเขตโปดิลของกรุงเคียฟ นอกจากนี้ ยังมีพลเรือนอีก 1 รายเสียชีวิต และมีทีมงานอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บ โดยที่ทั้งสองคนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ดิ อินไซเดอร์ยังระบุว่า โบลินาเคยทำงานให้กับมูลนิธิต่อต้านคอร์รัปชั่นของนายอเล็กซี นาวัลนี แกนนำฝ่ายค้านรัสเซียที่เคยถูกวางยาพิษและเพิ่งถูกศาลรัสเซียตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาฉ้อโกงและดูหมิ่นศาลเมื่อวันอังคาร จนกระทั่งมูลนิธิดังกล่าวถูกทางการรัสเซียระบุว่าเป็นกลุ่มหัวรุนแรง จากนั้น โบลินาก็เดินทางออกจากรัสเซียและทำงานเป็นผู้สื่อข่าวตีแผ่การคอร์รัปชั่นในรัสเซียให้กับดิอินไซเดอร์ ทั้งนี้ โบลินาได้รายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในกรุงเคียฟและเมืองลวีฟ ทางตะวันตกของยูเครน นับตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ดิ อินไซเดอร์ระบุในแถลงการณ์ว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวและเพื่อนฝูงของโบลินา และดิอินไซเดอร์จะยังคงรายงานข่าวสถานการณ์สงครามในยูเครนต่อไป รวมถึงข่าวการก่ออาชญากรรมสงครามของรัสเซีย เช่น การยิงโจมตีใส่ย่านที่อยู่อาศัยจนทำให้มีพลเรือนและนักข่าวเสียชีวิต ขณะที่นายเซอร์กี โทมิเลนโก หัวหน้าสหภาพนักข่าวของยูเครน ระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า โบลินาถูกยิงเสียชีวิตในขณะที่เธอกำลังรายงานข่าวเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการโจมตียูเครนของรัสเซีย นายโทมิเลนโกยังเผยว่า มีช่างภาพของสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นยูเครนที่ติดอยู่ในเมืองมารีอูปอลถูกยิงเสียชีวิตเช่นกัน รวมถึงนักข่าวและสื่อมวลชนรายอื่น […]

คาดเกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปครั้งแรกในรอบ 5 ปี

เปียงยาง 24 มี.ค. – กองทัพเกาหลีเหนือและญี่ปุ่นระบุว่า เกาหลีเหนือทดสอบยิงวัตถุไม่ทราบชนิดที่คาดว่าเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ออกไปนอกชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศในวันนี้ ซึ่งถือเป็นการทดสอบยิงขีปนาวุธขนาดใหญ่ที่สุดอย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกของเกาหลีเหนือนับตั้งแต่ปี 2560 คณะเสนาธิการร่วมกองทัพเกาหลีใต้ เผยว่า เกาหลีใต้ตรวจจับการยิงวัตถุไม่ทราบชนิดของเกาหลีเหนือขึ้นสู่ท้องฟ้า โดยคาดว่าวัตถุดังกล่าวเป็นขีปนาวุธพิสัยไกลและอาจเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป ขณะที่กระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ยังไม่ได้ออกมายืนยันในทันทีว่าเกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปจริงหรือไม่ โดยที่เกาหลีเหนือไม่ได้ทดสอบยิงขีปนาวุธชนิดดังกล่าวอย่างเต็มรูปแบบมาตั้งแต่ปี 2560 ส่วนหน่วยยามฝั่งของญี่ปุ่นระบุว่า เกาหลีเหนือยิงวัตถุดังกล่าวไปตกพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษที่ตั้งอยู่ห่างจากจังหวัดอาโอโมริของญี่ปุ่นไปทางตะวันตกราว 170 กิโลเมตรเมื่อเวลา 15.44 น. ตามเวลาในญี่ปุ่น หรือตรงกับเวลา 13.44 น. ตามเวลาประเทศไทย ทั้งนี้ การทดสอบยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดในวันนี้ของเกาหลีเหนือนับเป็นการยิงขีปนาวุธทิ้งตัวลูกที่ 13 ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นความถี่ที่ผิดปกติจนทำให้สหรัฐ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ออกมาตำหนิการกระทำดังกล่าว ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้ ระบุว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ได้ละเมิดข้อตกลงการหยุดพักการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป และประณามการทดสอบยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง ก่อนหน้านี้ กองทัพเกาหลีใต้เผยว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธไม่ทราบชนิดขึ้นสู่ท้องฟ้าเมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา แต่ประสบความล้มเหลว ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเกาหลีเหนือกำลังเตรียมทดสอบยิงขีปนาวุธขนาดใหญ่ที่สุด ขณะที่เจ้าหน้าที่ของสหรัฐและเกาหลีใต้ได้แจ้งเตือนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า […]

“เซเลนสกี” ขอให้ทั่วโลกชุมนุมแสดงพลังหนุนยูเครน

เคียฟ 24 มี.ค. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เรียกร้องให้ประชาชนทั่วทุกมุมโลกออกมาชุมนุมกันบนท้องถนนในวันนี้เพื่อแสดงการสนับสนุนยูเครน ก่อนที่การประชุมสุดยอดขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต จะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่รัสเซียนำกำลังทหารบุกโจมตียูเครนครบ 1 เดือน ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวคำปราศรัยเป็นภาษาอังกฤษครั้งแรกในคลิปวิดีโอล่าสุดว่า รัสเซียไม่ได้ก่อสงครามกับยูเครนเพียงชาติเดียว แต่ยังทำสงครามกับเสรีภาพของทุกคนบนโลก ทั่วโลกจำเป็นต้องร่วมมือกันหยุดการใช้กำลังอย่างโหดร้ายทารุณของรัสเซียในครั้งนี้ เขาขอให้ทุกคนเดินออกมาจากสำนักงาน ที่อยู่อาศัย โรงเรียน มหาวิทยาลัย เพื่อรวมตัวกันในนามของสันติภาพและแสดงการสนับสนุนยูเครน เสรีภาพ และการมีชีวิตอยู่ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี ระบุว่า แถลงการณ์ดังกล่าวของประธานาธิบดีเซเลนสกีมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่การประชุมสุดยอดผู้นำของนาโตจะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม โดยคาดว่ากลุ่มชาติตะวันตกจะลงมติส่งกองกำลังเสริมไปยังยุโรปกลางและตะวันออกเพื่อสนับสนุนการป้องกันดินแดน ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำดังกล่าวที่จัดขึ้นในขณะที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนครบ 1 เดือน.-สำนักข่าวไทย

สิงคโปร์จะเลิกกักตัวนักเดินทางต่างชาติตั้งแต่ เม.ย.

สิงคโปร์ 24 มี.ค.-นายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง ของสิงคโปร์ ประกาศวันนี้ว่า สิงคโปร์จะยกเลิกมาตรการกักตัวนักเดินทางต่างชาติที่ฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดสตั้งแต่เดือนเมษายน และยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในที่กลางแจ้งตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคมเป็นต้นไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ใช้ชีวิตร่วมกับเชื้อโควิด-19 ของสิงคโปร์ นายกรัฐมนตรีลี แถลงผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ทั่วประเทศว่า สิงคโปร์จะยกเลิกมาตรการกักตัวนักเดินทางต่างชาติที่ฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดสตั้งแต่เดือนเมษายน รวมถึงจะยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ แต่จะยังคงใช้คำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในอาคาร เนื่องจากพบความเสี่ยงลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากการติดเชื้อโควิดในที่กลางแจ้ง นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังจะอนุญาตให้ประชาชนรวมตัวกันได้สูงสุด 10 คน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่กำหนดไว้ 5 คน อนุญาตให้พนักงานกลับไปทำงานที่สำนักงานได้สูงสุดร้อยละ 75 และอนุญาตให้เพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมงานขนาดใหญ่ได้ร้อยละ 75 ของความจุพื้นที่ นายกรัฐมนตรีลียังระบุว่า ขณะนี้ สิงคโปร์อยู่ในสถานะที่สามารถผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด เนื่องจากผ่านจุดสูงสุดของการระบาดมาแล้ว สิงคโปร์มีอัตราฉีดวัคซีนโควิดอยู่ในระดับสูง โดยมีประชาชนร้อยละ 95 ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดส และมีร้อยละ 71 ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มสามเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน การระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในสิงคโปร์ได้ผ่านพ้นจุดสูงสุดและกำลังมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ ก่อนหน้านี้ สิงคโปร์เคยพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่กว่า 24,000 คนเมื่อวันที่ 1 มีนาคม แต่ตอนนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อเพียงวันละ 10,000 คนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และทำให้ระบบสาธารณสุขของสิงคโปร์ก็ยังคงมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เขาจึงเชื่อมั่นว่าสิงคโปร์พร้อมแล้วในการเดินหน้าสู่แนวทางการใช้ชีวิตร่วมกับเชื้อโควิด ขณะนี้ […]

ออสเตรเลียรับไม่ได้ เรื่องยอมให้ “ปูติน” ร่วมประชุม G20

เมลเบิร์น 24 มี.ค. – นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย ระบุว่า การยินยอมให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หรือจี 20 ที่อินโดนีเซียในเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันกล่าวถึงประเด็นที่อินโดนีเซียยืนยันว่าประธานาธิบดีปูตินจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ว่า เขาคิดว่าผู้ที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้จะต้องเป็นผู้นำที่ไม่รุกรานดินแดนของประเทศอื่น เขาได้พูดคุยกับประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย โดยตรงเกี่ยวกับเรื่องที่อินโดนีเซียยอมให้ผู้นำรัสเซียเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ที่มีสหรัฐ จีน ญี่ปุ่น และบางประเทศในทวีปยุโรปเข้าร่วม ผู้นำออสเตรเลียมองว่า รัสเซียได้นำกำลังทหารบุกโจมตียูเครน ซึ่งเป็นการกระทำอันโหดร้ายและรุนแรงที่เข้าข่ายละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ แค่เขาคิดว่าจะต้องนั่งร่วมประชุมโต๊ะเดียวกันกับประธานาธิบดีปูติน ก็เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้แล้ว ทูตรัสเซียประจำอินโดนีเซีย กล่าวเมื่อวันพุธว่า นายปูตินได้รับเชิญจากรัฐบาลอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นเจ้าภาพ ให้เข้าร่วมประชุม จี 20 ในเดือนพฤศจิกายนและเขาก็มีความตั้งใจที่จะเดินทางมาร่วมประชุมด้วย ก่อนหน้านี้ จีนเผยว่า รัสเซียเป็นสมาชิกคนสำคัญของกลุ่มจี 20 และไม่มีประเทศสมาชิกรายใดมีสิทธิขับสมาชิกรายอื่นออกจากกลุ่มได้ หลังสหรัฐได้เปิดประเด็นให้มีการพิจารณาขับรัสเซียออกจากกลุ่มจี 20 ทั้งนี้ ออสเตรเลียประกาศห้ามส่งออกอะลูมิเนียมและแร่บ็อกไซต์ ซึ่งเป็นสินแร่อะลูมิเนียม ไปยังรัสเซียเมื่อวันอาทิตย์ รวมถึงให้คำมั่นว่าจะช่วยเหลือยูเครนในด้านมนุษยธรรมและอาวุธยุทโธปกรณ์มากขึ้น นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อบุคคลและสถาบันต่าง […]

จีนเร่งค้นหากล่องดำกล่องที่สองท่ามกลางสายฝน

ปักกิ่ง 24 มี.ค. – เจ้าหน้าที่กู้ภัยของจีนกำลังเร่งค้นหากล่องดำกล่องที่สองท่ามกลางสายฝนโปรยปรายในวันนี้ที่บริเวณจุดเกิดเหตุเครื่องบินสายการบินไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ตกบนเนินเขาในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน หลังจากที่พบกล่องดำกล่องแรกเมื่อวันพุธ เจ้าหน้าที่สำนักงานการบินพลเรือนของจีน (CAAC) เผยว่า กล่องดำกล่องแรกที่พบเมื่อวันพุธเป็นเครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน กล่องดำดังกล่าวยังคงอยู่ในสภาพดีและได้รับการส่งไปยังกรุงปักกิ่งเพื่อตรวจสอบข้อมูลแล้ว เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเชื่อว่า เครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบินจะทำให้เจ้าหน้าที่สืบสวนทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการสื่อสารของนักบินสามคนในห้องนักบินของเครื่องบินโบอิง 787-800 ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญหลายรายต่างระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตก เนื่องจากอาจเกิดขึ้นจากปัจจัยหลายอย่างรวมกัน ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่พบผู้รอดชีวิตจากเหตุเครื่องบินโดยสารตกพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือรวม 132 คนเมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ผ่านมา สายการบินไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์เผยเมื่อวันพุธว่า นักบินที่เป็นกัปตันของเที่ยวบินดังกล่าวเข้ามาทำงานที่สายการบินแห่งนี้ตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2561 และมีประสบการณ์บิน 6,709 ชั่วโมง ส่วนนักบินคนผู้ช่วยคนแรกและนักบินผู้ช่วยคนที่สองมีประสบการณ์บิน 31,769 ชั่วโมง และ 556 ชั่วโมง ตามลำดับ แต่ไม่ได้เปิดเผยรายชื่อของนักบินทั้งสามคน ทั้งยังระบุว่า มีนักบินผู้ช่วยคนหนึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์การบินเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์บินให้นักบินอีกคน ในขณะเดียวกัน นิตยสารฟีนิกซ์ วีกลี่ (Phoenix Weekly) ของสถานีโทรทัศน์ฟีนิกซ์ ทีวี ซึ่งสนับสนุนรัฐบาลจีน รายงานอ้างผู้เชี่ยวชาญด้านการบินไม่เผยนามว่า กัปตันของเที่ยวบินดังกล่าวชื่อ นายหยาง ฮองตา ส่วนนักบินผู้ช่วยคนแรกชื่อ นายจาง เจิ้งปิง ซึ่งมีประสบการณ์บิน 40 ปีและเป็นผู้ฝึกสอนนักบินผู้ช่วยคนที่สอง […]

อังกฤษจะส่งขีปนาวุธอีก 6,000 ลูกให้ยูเครน

ลอนดอน 24 มี.ค. – อังกฤษจะส่งขีปนาวุธให้ยูเครนเพิ่มอีก 6,000 ลูก และมอบเงินสนับสนุนราว 30 ล้านปอนด์ (1,300 ล้านบาท) ให้บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี และกองทัพยูเครน เพื่อนำไปใช้ในการรายงานข่าวเกาะติดสถานการณ์ในยูเครนและช่วยเหลือทหารและนักบินยูเครน ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษเผยเมื่อวันพุธว่า นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ จะประกาศการสนับสนุนครั้งใหม่ให้แก่ยูเครนภายในงานประชุมของประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต และกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือจี 7 ที่จะจัดขึ้นในวันนี้ ทั้งยังส่งสัญญาณถึงความต้องการที่จะสนับสนุนขีดความสามารถด้านการป้องกันประเทศของยูเครนต่อไป นายกรัฐมนตรีจอห์นสันกล่าวว่า อังกฤษจะประสานงานกับชาติพันธมิตรเพื่อยกระดับการสนับสนุนด้านการทหารและเศรษฐกิจให้แก่ยูเครน รวมถึงการส่งเสริมด้านการป้องกันประเทศในขณะที่ยูเครนสามารถต้านทานการบุกโจมตีอย่างหนักหน่วงของรัสเซียได้อย่างไม่น่าเชื่อ ประชาคมระหว่างประเทศต้องเผชิญกับทางเลือกหลังเกิดวิกฤตการณ์ในยูเครนครบ 1 เดือน นั่นคือ ทุกคนจะช่วยกันรักษาเสรีภาพของยูเครนไว้ หรือเสี่ยงให้ยูเครนถูกถล่มจนย่อยยับไปกับตา สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า อังกฤษจะส่งขีปนาวุธเพิ่มอีก 6,000 ลูก และมอบเงินสนับสนุน 25 ล้านปอนด์ (1,100 ล้านบาท) ให้แก่กองทัพยูเครน รวมถึงมอบเงิน 4.1 ล้านปอนด์ (182 ล้านบาท) ให้แก่บีบีซี เวิลด์ เซอร์วิส ในการสนับสนุนการรายงานข่าวภาคภาษายูเครนและรัสเซียเพื่อป้องกันปัญหาการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร […]

ตอลิบานกลับลำไม่ให้นักเรียนหญิงไปโรงเรียน

คาบูล 23 มี.ค. – กลุ่มตอลิบานประกาศกลับลำไม่อนุญาตให้นักเรียนหญิงกลับไปเรียนในโรงเรียนมัธยมศึกษา โดยอ้างว่าจำเป็นต้องตัดสินใจเรื่องการแต่งกายของนักเรียนหญิงให้เสร็จสิ้นก่อน กระทรวงศึกษาธิการของอัฟกานิสถานภายใต้การควบคุมของกลุ่มตอลิบานประกาศว่า ทางการยังไม่อนุญาตให้นักเรียนหญิงในระดับชั้นมัธยมศึกษาเข้าเรียนในโรงเรียนจนกว่าจะมีคำสั่งใหม่ ทั้งยังระบุว่า โรงเรียนมัธยมศึกษาจะเปิดให้นักเรียนหญิงเข้าเรียนได้ก็ต่อเมื่อทางการได้ตัดสินใจเรื่องการแต่งกายของนักเรียนหญิงที่เป็นไปตามกฎหมายชารีอะห์และประเพณีของอัฟกานิสถาน อย่างไรก็ดี ประกาศดังกล่าวที่มีขึ้นอย่างกะทันหันทำให้นักเรียนหญิงและผู้ปกครองชาวอัฟกานิสถานรู้สึกสับสน ผิดหวัง และไม่พอใจอย่างมาก ผู้ปกครองชาวอัฟกานิสถานคนหนึ่งเผยกับบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี ว่า ลูกสาวของเขารู้สึกตกใจกับประกาศดังกล่าวจนถึงกับร้องไห้ออกมา เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ของกลุ่มตอลิบานปฏิเสธไม่ให้เข้าโรงเรียนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น บีบีซีระบุว่า ชาวอัฟกานิสถานต่างรู้สึกหวั่นเกรงว่า กลุ่มตอลิบานจะปิดกั้นโอกาสทางการศึกษาของผู้หญิงนับตั้งแต่เข้ายึดอำนาจการปกครองอัฟกานิสถานเมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อน ก่อนหน้านี้ กลุ่มตอลิบานเคยสั่งห้ามนักเรียนหญิงเข้าเรียนในโรงเรียนมาแล้วในสมัยที่เคยปกครองอัฟกานิสถานเมื่อปี 2539-2544 ขณะที่ประชาคมระหว่างประเทศได้เรียกร้องให้กลุ่มตอลิบานอนุญาตให้ผู้หญิงและนักเรียนหญิงมีสิทธิได้รับการศึกษาก่อนที่กลุ่มตอลิบานจะสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือจากต่างประเทศได้. -สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้มียอดผู้ป่วยโควิดทะลุ 10 ล้านคนแล้ว

เกาหลีใต้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ทะลุ 10 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด 52 ล้านคน ทั้งยังมีตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยอาการรุนแรงพุ่งสูงขึ้น จนทำให้สถานที่ฌาปนกิจทั่วประเทศเผชิญกับภาวะตึงตัว

1 98 99 100 101 102 315