กรุงเทพฯ 20 ก.พ. – “นฤมล” รมว.เกษตรฯ ประสาน “ทูตเกษตร” และหน่วยงานกระทรวงพาณิชย์ ผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ตั้งเป้าหมายในปี 2568 ให้เพิ่มเป็น 1.9-2 ล้านล้านบาท
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้ให้นโยบายสำนักงานทูตเกษตรที่อยู่ต่างประเทศ รวมถึงหน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร จากที่ในปี 2567 มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตร 1.8 ล้านล้านบาท ตั้งเป้าหมายให้ในปี 2568 เพิ่มขึ้น 1.9-2 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้นโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คือ การส่งเสริมเกษตรมูลค่าสูงและเกษตรยั่งยืน โดยสนับสนุนให้เกษตรกรเล็งเห็นถึงโอกาสในการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกมาปลูกพืชที่ตลาดโลกต้องการและเป็นสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าสูง โดยจะส่งเสริมให้เพาะปลูกในพื้นที่ที่เหมาะสมกับพืชนั้นๆ เช่น กาแฟ ถั่วเหลือง โกโก้ โดยกระทรวงเกษตรฯ พร้อมสนับสนุนตลอดห่วงโซ่อุปทานไปจนถึงช่องทางการจำหน่าย ซึ่งจะมอบหมายให้สำนักงานทูตเกษตรที่อยู่ต่างประเทศเร่งผลักดันการส่งออก ตลอดจนต้องทำงานประสานกับหน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์ด้วย
สำหรับภารกิจสำคัญของกระทรวงเกษตรฯ คือ การดูแลเกษตรกรซึ่งถือเป็นต้นน้ำ ปัจจุบันเกษตรกรมีรายได้อยู่ 2 ช่องทางคือ รายได้จากภาคการเกษตรอยู่ที่ 2.2 แสนบาทต่อปี และรายได้นอกภาคการเกษตรกว่า 2 แสนบาทต่อปี แต่รายได้จากภาคการเกษตร จะต้องหักต้นทุนการผลิตออกด้วย ดังนั้นรายได้สุทธิจะอยู่ที่ 89,000 บาทต่อครัวเรือนต่อปีเท่านั้น ทำให้เล็งเห็นว่า จำเป็นจะต้องสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าซึ่งจะเป็นการยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกรเพื่อให้ “กินดีอยู่ดี”
ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ สนับสนุนนโยบายของคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวหรือ นบข. ทำโครงการสินเชื่อชะลอการขาย สินเชื่อในการรวบรวมสินค้าข้าวซึ่งโครงการเหล่านี้ล้วนเป็นการดูแลซัพพลายไม่ให้ออกสู่ตลาดจนเกินไปเพื่อป้องกันปัญหาราคาข้าวตกต่ำ
ส่วนยางพาราที่ไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลก ได้มอบนโยบายให้กับการยางแห่งประเทศไทยหรือ กยท. ทำโครงการสินเชื่อชะลอการขายเพื่อจะดูดซับซัพพลายที่จะออกสู่ตลาด เป็นการช่วยไม่ให้กระทบต่อราคายางพารา
ศ.ดร.นฤมล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง 3 ปีมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดจีนที่ยังคงอันดับ 1 ของตลาดการส่งออก รองลงมา คือ ญี่ปุ่น สหรัฐ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย การส่งออกสินค้าเกษตรไทยในปี 2567 ที่มีมูลค่า 1.8 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออกผลสด มูลค่า 1 ล้านล้านบาท ส่วนสินค้าเกษตรแปรรูป มีมูลค่า 8 แสนล้านบาท ดังนั้นการแปรรูปสินค้าเกษตรช่วยให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 7.5% ดังนั้นจึงมีนโยบายส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าด้วย พร้อมแสดงความมั่นใจว่า ในปี 2568 จะสามารถผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 1.9-2 ล้านล้านบาทได้. -512 – สำนักข่าวไทย