“ธรรมนัส” ชี้ปรับปรุงแนวเขตทับลาน ไม่เกี่ยวส.ป.ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – รมว. เกษตรฯ ระบุ การปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน แล้วส่งมอบให้ส.ป.ก. นำมาจัดสรรให้ราษฎร ไม่ได้เป็นเรื่องที่ส.ป.ก. ดำเนินการ แต่เกิดจากคทช. มีมติและเสนอครม. ของรัฐบาลชุดที่แล้ว เห็นชอบเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากการทับซ้อนของพื้นที่และแนวเขตที่ดินของรัฐ ขณะนี้กรมอุทยานฯ เปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน อย่านำกระแส #saveทับลาน มาโจมตีว่า ส.ป.ก. จะนำที่ดินไปให้นายทุน


ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวถึงกระแส #saveทับลาน ว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับส.ป.ก. เรื่องนี้เกิดจากการที่ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการทับซ้อนของแนวเขตที่ดินของรัฐนำเรื่องร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ต่อมาผู้ตรวจการแผ่นดินมีความเห็นว่า ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐซึ่งทับซ้อนกันจึงมีคำวินิจฉัยและข้อเสนอแนวทางการแก้ไขบัญหาให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแก้ไขปรับปรุงแนวเขตให้ถูกต้อง จากนั้นคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) มีมติปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) นำมติดังกล่าว เสนอครม. ชุดที่แล้วพิจารณาซึ่งครม. เห็นชอบให้ดำเนินการตามโครงปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1: 4000 (One Map)

สำหรับที่ดินที่จะตัดออกจากแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน 265,000 ไร่ ครม. เห็นชอบให้ส่งมอบให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) มาจัดสรรให้ราษฎรตามกฎหมายปฏิรูปที่ดิน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชซึ่งเป็นหน่วยงานปฏิบัติเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตามขั้นตอนของกฎหมาย


พร้อมกันนี้ย้ำว่า ไม่ใช่เรื่องที่ส.ป.ก. ดำเนินการแต่อย่างใด ส่วนการดำเนินการขั้นต่อไป ขอให้เสร็จสิ้นกระบวนการของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก่อน ยืนยันว่า การใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินมีหลักเกณฑ์การจำแนกลักษณะพื้นที่เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้ประโยชน์ รวมทั้งจำแนกคุณสมบัติผู้ครอบครองว่า ถูกต้องตามกฎหมายปฏิรูปที่ดินหรือไม่ อย่านำกระแส #saveทับลาน มาโจมตีว่า ส.ป.ก. จะนำที่ดินไปให้นายทุน

ทั้งยังเห็นว่า ขณะนี้ประชาชนผู้เดือดร้อนและนำเรื่องที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมร้องต่อผู้ตรวจการณ์แผ่นดินเริ่มเคลื่อนไหวเพราะไม่สบายใจกับกระแส #saveทับลาน และเรียกร้องให้สังคมเข้าใจความเป็นจริง . 512 – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”