29 เม.ย.- อธิบดี DSI เร่งรวบรวมหลักฐาน หาข้อเท็จจริง “บินลิง วู” เอี่ยวนายทุนจีน บริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10
ความคืบหน้าทางด้านคดีตึกสตง.ถล่ม พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า เรื่องการตรวจสอบลายมือชื่อผู้ออกแบบและวิศวกรผู้ควบคุมงาน อยู่ระหว่างรอผลตรวจเปรียบเทียบลายมือที่ลงนามในแบบ กับลายมือของเจ้าตัวที่เซ็นปกติในชีวิตประจำวันทั้งในอดีตและปัจจุบัน โดยอยู่ระหว่างรอผลตรวจจากองพิสูจน์หลักฐาน ส่วนคดีฮั้วประมูลยังคงต้องใช้เวลาสอบปากคำพยาน และรวบรวมพยานหลักฐานอีกสักระยะหนึ่ง ว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้มีการแข่งขันราคาอย่างไม่เป็นธรรมหรือไม่
ส่วนนายบินลิง วู ที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับนายทุนฝั่งจีน ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน หากมีหลักฐานชัดเจน ดีเอสไอก็จะดำเนินคดี โดยเป็นไปได้ว่าอาจขอศาลออกหมายจับได้เลย โดยไม่ต้องออกหมายเรียกพยาน
ด้านพันตำรวจโทอมร หงษ์ศรีทอง ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ หรือกองคดีฮั้วประมูล เปิดเผยว่า สำหรับวิศวกรที่นัดมาสอบปากคำในฐานะพยานในวันนี้ มาทั้งสิ้น 7 คน มี 6 คนทำงานอยู่กับบริษัท ว.และสหาย และทั้ง 7 คนก็ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนเซ็นชื่อในเอกสารการควบคุมงาน
ส่วนการสอบปากคำ นายเกรียงศักดิ์ กอวัฒนา ผู้แทนบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) นั้น ก็ให้ความร่วมมือและให้ข้อมูลค่อนข้างดี โดยสอบปากคำตั้งแต่ประเด็นเริ่มประมูลงาน การทำกิจการร่วมค้า สัดส่วนการแบ่งงานระหว่างบริษัทอิตาเลียนไทยฯ และบริษัทไชน่าเรลเวย์ฯ ซึ่งบริษัทอิตาเลียนไทยฯ จะทำให้เฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับเข็มเจาะ และดูแลส่วนของวิศวกรรมระบบ
ส่วนบริษัทไชน่าเรลเวย์ฯ จะดูเรื่องโครงสร้างทั้งหมด ส่วนผลตอบแทนและค่าจ้างที่ได้รับแบ่งกันตามสัดส่วนหุ้น 49% และ 51% โดยผู้แทนบริษัทอิตาเลียนไทยฯ บอกว่าที่เชื่อใจบริษัทไชน่าเรลเวย์ เพราะเคยทำงานร่วมกันในโครงการรถไฟความเร็วสูงมาก่อน ทั้งนี้หลังจากนี้ดีเอสไอจะนัดหมายเชิญบริษัทผู้ออกแบบและควบคุมงานรายอื่นๆ มาสอบปากคำต่อไป.-สำนักข่าวไทย