กรุงเทพฯ 19 มี.ค.- กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนเฝ้าระวังพายุฤดูร้อนช่วง 19 -20 มี.ค.67 เนื่องจากมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยจะส่งผลให้มีฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และลูกเห็บเกิดขึ้นได้ จังหวัดที่อาจได้รับผลกระทบมากถึง 61 จังหวัด เฝ้าระวังตั้งแต่บ่ายวันนี้
นางสาวกรรวี สิทธิชีวภาค อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาลงนามในประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยเนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในระยะแรก โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่
สำหรับจังหวัดที่คาดว่า จะได้รับผลกระทบมีมากถึง 61 จังหวัดดังนี้
วันที่ 19 มีนาคม 2567
- ภาคเหนือได้แก่ จังหวัดเชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้แก่ จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และอุบลราชธานี
- ภาคกลางได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทองพระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
- ภาคตะวันออกได้แก่ จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
วันที่ 20 มีนาคม 2567
- ภาคเหนือได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และตาก
- ภาคกลางได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม
- ภาคใต้ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์
ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย
นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองตรวจและเฝ้าระวังสภาวะอากาศกล่าวว่า มวลอากาศเย็นจากจีนที่แผ่ลงมา เป็นมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงแผ่ที่จะลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุม ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด นอกจากนี้ยังปัจจัยคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกของลมในระดับบนจากเมียนมาเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือในวันที่ 21 มีนาคมจึงทำให้มีพายุฤดูร้อนอาจต่อเนื่องจถึงวันที่ 21 มีนาคมได้
พายุฤดูร้อนจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกก่อนในช่วงบ่ายวันนี้หลังจากนั้นอากาศจะเย็นลงแบบฉับพลัน ต้องระวังรักษาสุขภาพช่วงอากาศเปลี่นแปลง
ส่วนภาคใต้มีฝนบางแห่ง คลื่นลมแรงขึ้น
ในระหว่างวันที่ 22-28 มีนาคม ลมใต้และตะวันออกเฉียงใต้กลับมาพัดปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก จึงอาจมีฝนบางแห่งบริเวณตอนบนของภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โดยอากาศจะกลับมาร้อนอีกครั้ง
ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง