ชุดพญานาค​ราช​พบหลักฐาน​ขบวนการ​ “หมู​เถื่อน” ปลอมเอกสาร​นำเข้า​สินค้า​

กรุงเทพ​ฯ​ 1 ก.พ. – หน่วยเฉพาะกิจ​พญานาค​ราช ​พบหลักฐาน​การ​ปลอมแปลง​เอกสาร​ยื่น​ประกอบ​การนำเข้า​สินค้า​ โดยยื่นขออนุญาต​นำ​เข้า​สินค้า​ประมง​ พร้อม​เอกสาร​รับรอง​สุขอนามัย​สัตว์​ แต่เมื่อ​ตรวจสอบ​ย้อนกลับ​ไปประเทศ​ต้นทาง​ พบเป็น​สินค้า​สุกร​ การปลอมแปลง​เอกสาร​เกี่ยวโยง​กับผู้นำเข้า​ 3 รายซึ่งเป็น​ผู้​ต้องหา​คดีหมูเถื่อน​ในคดีพิเศษ​อยู่​แล้ว​ นำหลักฐาน​เข้า​แจ้งความ​ตำรวจ​สอบสวน​กลาง​


นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราชและโฆษกหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช นายชัยวัฒน์ โยธคล ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจพญานาค​ ร่วมกับนายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์เปิดเผยถึงความก้าวหน้าการดำเนินงานปราบปราม​ “หมูเถื่อน” กรณีที่มีการสำแดงการนำเข้าว่า เป็นสินค้าประมง

นายธนดลกล่าวว่า​ เจ้าหน้าที่​สุ่มตรวจสอบเอกสารประกอบการยื่นขออนุญาตนำเข้าสินค้าประมงในช่วงปี​ 2564-2566 ซึ่ง​เริ่มจากตรวจสอบเอกสารขออนุญาตนำเข้าสินค้าประมงของผู้นำเข้าที่ถูกดำเนินคดีในคดี​พิเศษ​ ผลปรากฏว่า พบการยื่นเอกสารประกอบการขออนุญาตนำเข้าสัตว์น้ำ มีการใช้เอกสารรับรองสุขอนามัยสัตว์ซึ่งมีข้อความไม่ตรงตามข้อเท็จจริง ทำให้เชื่อได้ว่า เป็นเอกสารที่มีการปลอมแปลงเพื่อหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ในการขออนุญาตนำเข้า


อธิบดีกรมประมงกล่าวว่า​ เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับ​การขออนุญาตนำเข้าสินค้าประมง​ หลัง​จาก​ที่ร้อยเอกธรร​มนัส​ พรหม​เผ่า​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและ​สหกรณ์​นำเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจตู้คอนเทนเนอร์ 21 ตู้ ที่เป็นสินค้าตกค้าง ณ สำนักงานศุลกากรแหมฉบัเมื่อ​วันที่​ 8​ ธันวาคม​ 2566 พบว่า 1 ใน 21 ตู้ที่สุ่มตรวจมีสินค้าภายในตู้ไม่ตรงตามที่ผู้นำเข้าได้ขออนุญาตไว้ตอนนำเข้า​ โดยมีชิ้นส่วนหมูปะปนมากับสินค้าประมงภายในตู้คอนเทนเนอร์เดียวกัน

ต่อมากรมประมงจัดตั้ง War Room ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบเอกสารจากกรมปศุสัตว์มาร่วมตรวจสอบหาข้อเท็จจริงในเชิงลึก โดยใช้​เวลา​ 1 สัปดาห์กว่า​ จึงพบการยื่นเอกสารประกอบการขออนุญาตนำเข้าสัตว์น้ำที่มีการใช้เอกสารรับรองสุขอนามัยสัตว์ซึ่งมีข้อความไม่ตรงตามข้อเท็จจริง​เช่น​ รายการ​สินค้า​สำแดง​เป็น​ปลา​จวด​ แต่​เมื่อ​ตรวจสอบ​ย้อนกลับ​ไป​ยังประเทศ​ต้นทางพบว่า ข้อความในเอกสารรับรองสุขอนามัยสัตว์ไม่ตรงตามข้อเท็จจริง โดยในเอกสารระบุ เป็นสินค้าสุกร

จากการตรวจสอบพบดังกล่าว หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราชพบว่า เชื่อมโยงกับขบวนการหมูเถื่อนที่เป็นผู้นำเข้า 3 รายในคดีพิเศษ ขณะนี้พบมีการปลอมแปลงในลักษณะดังกล่าว 20 ฉบับและกำลังตรวสอบเพิ่มเติม การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ตามมาตรา 137 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน มาตรา 14 (2) แห่งพระราชบัญญัติ ว่าด้วย การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมาตรา 264 ผู้ใดทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใดๆ ในเอกสารที่แท้จริง หรือประทับตราปลอม หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใดกรอกข้อความลงในแผ่นกระดาษหรือวัตถุอื่นใด ซึ่งมีลายมือชื่อของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอม หรือโดยฝ่าฝืนคำสั่งของผู้อื่นนั้น ถ้าได้กระทำเพื่อนำเอาเอกสารนั้นไปใช้ในกิจการที่อาจเกิดเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือประชาชน ให้ถือว่าผู้นั้นปลอมเอกสารต้องระวางโทษเช่นเดียวกันมาตรา 268 ผู้ใดใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิดตามมาตรา 264 มาตรา 265 มาตรา 266 หรือมาตรา 267 ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้นๆ ถ้าผู้กระทำความผิดตามวรรคแรกเป็นผู้ปลอมเอกสารนั้น หรือเป็นผู้แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความนั้นเองให้ลงโทษตามมาตรานี้แต่กระทงเดียวง


อธิบดีกรมประมงกล่าวย้ำว่า หลังจากพบข้อมูลการลักลอบนำเข้า “หมูเถื่อน” โดยสำแดงเป็นสินค้าสัตว์น้ำ กรมประมงได้ยกระดับการตรวจสอบสินค้านำเข้าที่สำแดงเป็นสินค้าประมง ด้วยการเปิดตรวจสอบทุกตู้ซึ่งได้กำหนดมาตรการไว้ 2 แนวทาง คือการเปิดตรวจ ณ ด่านหรือท่าเทียบเรือ และการตรวจสอบ ณ สถานประกอบการ (โรงงานหรือห้องเย็น) โดยการซีล (Seal) ตู้คอนเทนเนอร์ไปยังสถานประกอบการ เพื่อดำเนินการควบคุมและตรวจสอบการคัดแยกชนิดและปริมาณที่นำเข้า ณ สถานประกอบการ จนมั่นใจว่าสัตว์น้ำที่นำเข้าเป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต จึงจะอนุญาตให้เข้าสู่กระบวนการผลิต หรือจำหน่ายต่อไป

จากนั้นหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราชไปยื่นหนังสือกับผู้แทนผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเพื่อดำเนินคดีต่อไป. – 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพร “ปีใหม่-วันเด็ก” ให้นายกฯ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพรปีใหม่ 2568 – วันเด็ก ให้ “นายกฯ พี่อิ๊งค์” มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง อยู่คู่ตึกไทยคู่ฟ้า บริหารประเทศไปนานๆ พร้อมฝากความคิดถึง “อดีตนายกฯ ทักษิณ”

16 บอสดิไอคอน แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.

16 บอส ดิไอคอนกรุ๊ป แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.นี้ ขณะที่ “ทนายวิฑูรย์” เผย “บอสพอล-บอสกันต์” ดีใจ หลัง “แซม-มิน” ได้ปล่อยตัว ส่วนท่าทีทั้งคู่ดูสบายๆ ปกติ ล่าสุดมีรายงาน “บอสวิน” ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว อยู่ระหว่างรอผล

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน รวมถึงดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารและการติดต่อรับศพนายลิม ที่แผนกนิติเวช รพ.วชิรพยาบาล

บอสแซมมิน

ยังไม่จบ! “แซม-มิน” ลุ้น DSI เห็นแย้งอัยการหรือไม่

แม้อัยการสั่งไม่ฟ้อง “บอสแซม-บอสมิน” แต่ดีเอสไอย้ำชัด คดียังไม่จบ มีเวลาอีก 30 วัน พิจารณาสำนวนที่ถูกตีกลับว่าจะเห็นแย้งคำสั่งหรือไม่ ส่วนประเด็น “บอสมิน” ไม่ถูกตัดผมขณะถูกคุมขัง ราชทัณฑ์มีคำตอบให้แล้ว