กรุงเทพฯ 20 เม.ย. – อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาเผย วันที่ 20-23 เม.ย. อากาศยังร้อนถึงร้อนจัด แต่อุณหภูมิไม่สูงเท่าก่อนสงกรานต์ จากนั้นต้องเฝ้าระวังสภาพอากาศแปรปรวนจากลมเปลี่ยนทิศทาง ส่งผลให้เกิดพายุฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่ 24 เม.ย. ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเทศไทยตอนบนมีการสะสมของฝุ่นละอองและหมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงมาก เนื่องจากการระบายอากาศไม่ดี
นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า ระหว่างวันที่ 20- 23 เม.ย. อากาศร้อนและร้อนจัดต่อเนื่องบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก กทม. และปริมณฑล โดยมีฝนฟ้าคะนองยังเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก เนื่องจากยังมีลมใต้และตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้าปกคลุมในบริเวณดังกล่าว ส่วนด้านตะวันตกของประเทศและภาคใต้มีลมตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุม
ทั้งนี้อุณหภูมิสูงสุดจะไม่สูงเท่าช่วงก่อนสงกรานต์ โดยวันที่อุณหภูมิสูงสุดคือ อุณหภูมิสูงสุดคือ วันที่ 15 เม.ย. 44.6 องศาเซลเซียสที่อำเภอเมือง จังหวัดตาก แต่ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพและระวังโรคลมแดดเนื่องจากสภาพอากาศที่ยังคงร้อนถึงร้อนจัด
สำหรับอุณหภูมิสูงสุดวันนี้ ภาคเหนือ 39-42 องศาเซลเซียส ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 40-41 องศาเซลเซียส ภาคกลาง 38-41 องศาเซลเซียส ภาคตะวันออก 33-39 องศาเซลเซียส กทม. และปริมณฑล 34-40 องศาเซลเซียส ภาคใต้ฝั่งตะวันตก 33-36 องศาเซลเซียส และภาคใต้ฝั่งตะวันออก 35-39 องศาเซลเซียส
พร้อมกันนี้ขอให้เตือนประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนให้ระวังการสะสมของฝุ่นละอองและหมอกควันที่อยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงมาก เนื่องจากการระบายอากาศไม่ดี
นางสาวชมภารีกล่าวว่า ช่วงวันที่ 24-26 เม.ย. อากาศจะแปรปรวนอีกครั้งเนื่องจากลมพัดเปลี่ยนทิศทางเป็นลมฝ่ายใต้และตะวันออกเฉียงใต้ มีความชื้น จึงเตือนให้เตรียมรับมือพายุฤดูร้อนซึ่งคาดว่า จะเริ่มทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อนในวันที่ 24 เม.ย. ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ไม่ควรสวมใส่โลหะ และหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง สำหรับเกษตรกรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย
สำหรับภาคใต้ระยะนี้ยังได้อิทธิพลจากลมตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ทำให้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ จึงขอให้ชาวประมงและชาวเรือระวังบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองเนื่องจากอาจมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร .- สำนักข่าวไทย
