กรุงเทพฯ 21 มี.ค. – กรมชลประทานติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มในพื้นที่เสี่ยงเพื่อช่วยเหลือและป้องกันปัญหาการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง พร้อมกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เสริมศักยภาพการส่งน้ำย้ำทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัด เหตุอุตุฯ เตือนสภาพอากาศร้อนจัด ส่งผลน้ำระเหยเร็วและอาจเกิดฝนทิ้งช่วง
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่า สั่งการให้โครงการชลประทานต่างๆ สำรวจพื้นที่เสี่ยงเกิดปัญหาขาดแคลนน้ำ แล้วเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยเหลือและลดผลกระทบ เนื่องจากในการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำซึ่งกรมชลประทานร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นั้น กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ปริมาณฝนในฤดูร้อนซึ่งจะต่อเนื่องถึงกลางเดือนพฤษภาคมใกล้เคียงกับค่าปกติ แต่เนื่องจากในเดือนเมษายนปีนี้ สภาพอากาศจะร้อนจัด หลายพื้นที่อุณหภูมิจะสูงถึง 40-43 องศาเซลเซียส ความร้อนส่งผลให้น้ำในอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำ และลำน้ำต่างๆ ระเหยได้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับก่อนหน้านี้ ไทยมีฤดูหนาวที่ยาวนานทำให้ปริมาณการระเหยของน้ำมากเช่นกัน
ขณะนี้กำชับให้สำนักงานชลประทานทั่วประเทศติดตามสถาณการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมบริหารจัดการน้ำอย่างประณีต ส่งน้ำตามความต้องการใช้เพื่อสนับสนุนใน 4 กิจกรรมหลักได้แก่ อุปโภค บริโภค รักษาระบบนิเวศ การเกษตร และอุตสาหกรรมตามลำดับ ให้เพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้ง โดยพื้นที่ที่เก็บเกี่ยวข้าวนาปรังแล้ว ให้ปรับลดปริมาณการส่งน้ำเพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝนตามแผนที่กำหนดไว้ รวมทั้งขอความร่วมมือเกษตรกรไม่ปลูกข้าวต่อเนื่อง
สำหรับพื้นที่ที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่งน้ำสนับสนุนการอุปโภคบริโภคและการเกษตรทั่วประเทศ เช่น
– บริเวณบ้านคลองพิไกร หมู่ที่3 ตำบลคลองพิไกร อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร
– บริเวณสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านแจงงาม ตำบลหนองขาม อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี
– บริเวณหมู่ที่ 2 ตำบลรำแดง อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา
นอกจากนี้ยังนำรถแบ็คโฮ พร้อมเรือเล็กเข้ากำจัดผักตบชวาสิ่งกีดขวางทางน้ำในแม่น้ำสายหลักอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำและส่งน้ำในหลายพื้นที่ เช่น
– บริเวณหน้าเขื่อนร้อยเอ็ด ตำบลพระธาตุ อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด
– บริเวณคลองระบายน้ำ ร. สามชุก1 ตำบลบ้านเชี่ยน อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท
– บริเวณคลองพระมอพิสัย ตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม
– บริเวณคลองลากค้อนเก่า ตำบลละหาร อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี และ บริเวณ ตำบลคลองขวาง อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี
– บริเวณคลองระบายน้ำที่ 3 เขตอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกัน 50,371 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 66 ของความจุอ่างฯรวมกัน เป็นน้ำใช้การได้ 26,429 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 15,539 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 62 ของความจุอ่างฯรวมกัน มีปริมาณน้ำใช้การได้ 8,843 ล้าน ลบ.ม. ภาพรวมปริมาณน้ำต้นทุนอยู่ในเกณฑ์ดี จนถึงขณะนี้มีการจัดสรรน้ำในฤดูแล้งปี 65/66 ทั้งประเทศไปแล้ว 19,068 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 69 ของแผนฯ (แผนจัดสรรน้ำทั้งประเทศ 27,685 ล้าน ลบ.ม.) เฉพาะลุ่มเจ้าพระยามีการจัดสรรน้ำไปแล้ว 6,889 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 76 ของแผนฯ (แผนจัดสรรน้ำลุ่มเจ้าพระยา 9,100 ล้าน ลบ.ม.) ด้านผลการเพาะปลูกข้าวนาปรัง ทั้งประเทศมีการเพาะปลูกไปแล้ว 10.24 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 93 ของแผนฯ เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยามีการเพาะปลูกไปแล้วประมาณ 6.40 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 95 ของแผน
พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัดเนื่องจากในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมอาจเกิดฝนทิ้งช่วงตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา.-สำนักข่าวไทย
