กรุงเทพฯ 9 ม.ค. – อธิบดีกรมชลประทานระบุ สถานการณ์น้ำในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คลี่คลายแล้ว หลังจากฝนตกหนักระหว่างวันที่ 6-8 มกราคมที่ผ่านมา แต่ยังคงสั่งการให้เฝ้าระวังต่อเนื่องตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนว่า จะยังคงมีฝนตกในภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายเฉลิมชัย ตรีนรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 17 ว่า สถานการณ์น้ำในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คือ จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาสเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจากที่ฝนตกหนักระหว่างวันที่ 6-8 มกราคม 2566 ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำและล้นตลิ่งในบางพื้นที่ของลุ่มน้ำปัตตานี
ทั้งนี้โครงการชลประทานในสังกัดสำนักงานชลประทานที่ 17 ได้บริหารจัดการน้ำผ่านอาคารชลประทาน คลองระบายน้ำสายต่างๆ และใช้เครื่องจักรเครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ ที่ติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้สูบพร่องระบายน้ำออกจากพื้นที่จุดเสี่ยง โดยจังหวัดนราธิวาส เดินเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ 13 เครื่อง เครื่องสูบน้ำขับเคลื่อนด้วยระบบไฮดรอลิค (Hydro Flow) 6 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 6 เครื่อง รวมถึงสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า 12 สถานี จังหวัดปัตตานี เดินเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ 5 เครื่อง สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า 1 สถานี รวมถึงเดินเครื่องสูบน้ำบริเวณโรงพยาบาลโคกโพธิ์ อำเภอโคกโพธิ์ 1 เครื่อง จังหวัดยะลา เดินเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ 2 เครื่อง
นอกจากนี้ได้แจ้งเตือนภัยระดับน้ำที่จะสูงขึ้นในพื้นที่เสี่ยงในวันที่ 8 มกราคม 2566 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาและผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อแจ้งเตือนไปยังประชาชนในพื้นที่และแนะนำให้ประชาชนในพื้นที่ติดตามข่าวสารสถานการณ์น้ำจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด
นายประพิศกล่าวต่อว่า แม้ปัจจุบันสถานการณ์น้ำในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คลี่คลายจนกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว แต่กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนว่า จะยังคงมีฝนตกในภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย จึงกำชับให้โครงการชลประทานในพื้นที่เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝน.-สำนักข่าวไทย