กรุงเทพฯ 4 พ.ย. – อธิบดีกรมชลประทานสั่งโครงการชลประทานภาคใต้เฝ้าระวังจุดเสี่ยงภัยน้ำท่วม ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือน โดยเฉพาะภาคใต้ตอนล่างที่อาจมีน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลากระหว่างวันที่ 4-6 พ.ย. นี้
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศ เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ ในช่วงวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2565 เนื่องจากร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคใต้ตอนล่างเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณประเทศมาเลเซียและช่องแคบมะละกามีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคใต้ อ่าวไทย และทะเลอันดามัน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ จึงสั่งการให้โครงการชลประทานทุกแห่งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยทั้งน้ำท่วมฉับพลันและน้ำหลาก ประกอบด้วย จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ภูเก็ต กระบี่ พังงา ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
สำหรับจังหวัดที่คาดว่า จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือน ต้องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์และติดตามสถานการณ์ฝนและน้ำอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบอาคารชลประทานและสถานีสูบน้ำต่างๆ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน บริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม โดยปรับแผนการระบายน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ฝนในแต่ละพื้นที่ เพื่อลดผลกระทบจากปริมาณน้ำที่จะไหลหลากลงมายังบริเวณพื้นที่เสี่ยง รวมทั้งดำเนินการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิการระบายน้ำ
ล่าสุดกรมชลประทานได้เสริมเครื่องจักรเครื่องมือและเครื่องสูบน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำดังนี้
- โครงการชลประทานพัทลุงติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 8 นิ้ว 1 เครื่อง บริเวณหมู่ที่ 2 ต.หนองธง อ.ป่าบอน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัย ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและเป็นจุดเสี่ยงภัยน้ำท่วม ส่วนโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่าเชียดขุดลอกและกำจัดวัชพืช บริเวณสายคลองส่งน้ำสาย RMC 1 ในพื้นที่ หมู่ที่ 4 บ้านควนนุ้ย ต.ป่าบอน อ.ป่าบอน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งน้ำและระบายน้ำในพื้นที่ต่อไป
- โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาระโนด-กระแสสินธุ์ ตรวจสอบจุดระบายน้ำบริเวณคลองพังยาง เนื่องจากคลื่นลมแรงทำให้เกิดสันดอนทรายปิดกั้นทางน้ำ ทำให้น้ำไหลเข้าคลองพังยาง เบื้องต้น ได้นำรถแบคโฮขุดเปิดร่องน้ำ พร้อมยกบานประตูระบายน้ำคลองพังยางขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลอ่าวไทยต่อไป
- โครงการชลประทานนราธิวาส ดำเนินการกำจัดวัชพืชบริเวณท่อระบายน้ำยะกัง เพื่อลดปัญหาสิ่งกีดขวางทางน้ำ และเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของน้ำ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝนนี้ ส่วนโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโก-ลก ได้ตรวจสอบระบบไฟฟ้าที่สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านปะดาดอ หมู่ที่ 3 ต.นานาค อ.ตากใบ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพื่อรับมือสถานการณ์อุทกภัยได้ทันที
- โครงการชลประทานนครศรีธรรมราชติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 12×12 นิ้ว 2 เครื่อง ขนาด 16×12 นิ้ว 2 เครื่อง ขนาด 8×8 นิ้ว 1 เครื่อง บริเวณพื้นที่สวนส้มโอทับทิมสยามและเสริมคันดินชั่วคราว ระยะทาง ประมาณ 2,500 เมตร เพื่อช่วยป้องกันน้ำทะเลหนุน โดยแผนการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 16 เครื่องเพื่อช่วยพื้นที่สวนส้มโอ ปัจจุบันติดตั้งไปแล้ว 9 เครื่อง
อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า ขณะนี้เร่งซ่อมแซมถนนรอบอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ จ.ภูเก็ตที่มีปัญหาดินสไลด์จากฝนที่ตกหนักในช่วงวันที่ 16-20 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าการซ่อมแซมด้วยตนเอง
ทั้งนี้ฝนที่ตกต่อเนื่องส่งผลให้เกิดดินสไลด์บริเวณถนนรอบอ่างเก็บน้ำ ช่วงกม.2+960 ถึง กม.3+060 จึงได้สั่งการให้โครงการชลประทานภูเก็ตเร่งหาแนวทางในการซ่อมแซมอย่างเร่งด่วนที่สุด เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สามารถใช้เส้นทางสัญจรได้ตามปกติ เนื่องจากถนนเส้นทางดังกล่าว เป็นถนนทางผ่านระหว่างเขตเทศบาลตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต ไปยังเทศบาลเมืองป่าตอง ปัจจุบันรถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ เพราะอาจส่งผลให้ถนนของอ่างเก็บน้ำคลองกะทะทรุดตัวเพิ่มเติม
พร้อมกำชับให้โครงการชลประทานทุกแห่งในภาคใต้ดำเนินการตามมาตรการรับมือฤดูฝน 2565 ของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) อย่างเคร่งครัด พร้อมประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำล่วงหน้า เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำได้ทันท่วงที.-สำนักข่าวไทย