กรุงเทพฯ 1 พ.ย. – อธิบดีกรมชลประทานเผย ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาลดลงอย่างต่อเนื่อง จากการลดการระบายผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเร็วกว่าไทม์ไลน์เดิม จะส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำอ. เสนา บางบาง จ. พระนครศรีอยุธยา และอ. ป่าโมก จ. อ่างทองกลับสู่ระดับตลิ่งในวันที่ 10-11 พ.ย. นี้ ตลอดจนเร่งบูรณาการคลี่คลายสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำท่าจีนตามคำสั่งกอนช.
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า สถานการณ์น้ำในลุ่มเจ้าพระยาคลี่คลายตามลำดับ ล่าสุด(1พ.ย.) สถานีวัดน้ำ C2 จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 1,948 ลบ.ม./วินาที ลดลงจากวานนี้ที่2,028 ลบ.ม./วินาที ทำให้ที่สถานีวัดน้ำ C13 เขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 1,808 ลบ.ม./วินาที ลดลงจากวานนี้ที่ 1,868 ลบ.ม./วินาที
ทั้งนี้กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำด้วยการใช้อ่างเก็บน้ำในพื้นที่ตอนบนเก็บกักน้ำไว้ ร่วมกับการบริหารจัดการน้ำทางฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้คาดการณ์ได้ว่าปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจะลดลงเหลือในอัตรา 700 ลบ.ม./วินาทีประมาณวันที่ 10-11 พฤศจิกายนนี้
การคาดการณ์ดังกล่าว เร็วขึ้นกว่าที่คาดไว้เดิม โดยการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 700 ลบ.ม./วินาที จะทำให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำอ. เสนา บางบาง จ. พระนครศรีอยุธยาและอ. ป่าโมก จ. อ่างทองกลับสู่ระดับตลิ่งในวันที่ 10-11 พฤศจิกายน นี้ จากนั้นใน 2-3 วันระดับน้ำที่ท่วมอยู่จะลดลงพร้อมกันนี้จะเดินเครื่องสูบน้ำที่ติดตั้งไว้เพื่อระบายน้ำที่ขังออก นอกจากนี้ได้กำชับไปยังโครงการชลประทานและสำนักเครื่องจักรกลในพื้นที่ หากพื้นที่ใดระดับน้ำกลับเข้าสู่ตลิ่งแล้ว ให้เร่งเข้าไปฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลด เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับเข้าที่อยู่อาศัยและใช้ชีวิตตามปกติเร็วที่สุด
กรมชลประทานยังจะเร่งเข้าบูรณาการคลี่คลายสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำท่าจีนตามข้อสั่งการของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ที่ให้เร่งบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในอ. นครชัยศรี จ. นครปฐม โดยฝนตกชุกตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาส่งผลให้น้ำท่วมเป็นวงกว้างในจ. นครปฐม โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่คลองบางแก้วที่มีปริมาณน้ำจำนวนมากไหลมาจากแม่น้ำท่าจีน ทำให้ปัจจุบันน้ำได้เอ่อท่วมพื้นที่อ. นครชัยศรี ประกอบกับสถานการณ์น้ำทะเลจะหนุนสูงอีกหลายระลอกตั้งแต่กลางเดือน พ.ย. ถึงสิ้นเดือน ธ.ค. หากไม่เร่งดำเนินการป้องกันจะทำให้ประชาชนริมน้ำต้องอยู่กับสภาวะน้ำท่วมขังไปอีก 1- 2 เดือน
พลเอกประวิตรห่วงใยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ จึงได้มอบหมายให้ กอนช. ร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อระดมความคิด หาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยที่ประชุมได้เห็นชอบการแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วน โดยมอบหมายให้กรมชลประทานวางแผนหาจุดวางบิ๊กแบ็คเพื่อทำเป็นทำนบกั้นน้ำชั่วคราว ปิดคลองบางแก้วเพื่อกั้นไม่ให้น้ำในแม่น้ำท่าจีนไหลเข้าไปยังคลองบางแก้ว และเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังออกไปยังแม่น้ำท่าจีน เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
สำหรับแผนระยะยาวการแก้ไขปัญหาในอนาคต กอนช. ได้สั่งการให้กรมชลประทานเร่งดำเนินการโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำคลองบางแก้ว เพื่อเป็นการแก้ปัญหาอย่างถาวร ตลอดจนให้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในลุ่มน้ำท่าจีนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณาแผนงานโครงการรวมถึงรูปแบบการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่อย่างยั่งยืนโดยเร็วต่อไป.-สำนักข่าวไทย