กรุงเทพฯ 26 ต.ค. – อธิบดีกรมชลประทานเผย ยังคงเดินเครื่องผลักดันน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำลำน้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ถนนสายต่างๆ เริ่มกลับมาสัญจรได้ หลายพื้นที่น้ำลดแล้ว จึงจัดชุดปฏิบัติการเข้าร่วมฟื้นฟูความเสียหาย ส่งประชาชนกลับสู่บ้านเรือน โดยคาดว่า ลำน้ำมูลจะลดลงจนเข้าสู่ระดับตลิ่งกลางเดือน พ.ย.นี้
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่า ระดับน้ำลำน้ำมูลลดลงต่อเนื่อง โดยวันนี้ระดับน้ำที่สถานีวัด M.7 ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานีอยู่ที่ 115.39 เมตร รทก. ลดลงจากวานนี้ 13 เซนติเมตร ปริมาณน้ำไหลผ่าน 4,655 ลบ.ม./วินาที ซึ่งยังคงมากกว่าความจุลำน้ำที่ 2,300 ลบ.ม./วินาที ส่วนระดับน้ำแม่น้ำโขงลดลง 15 เซนติเมตร โดยต่ำกว่าระดับน้ำลำน้ำมูลที่หน้าเขื่อนปากมูล 6.89 เมตร ปริมาณน้ำที่ระบายออกสู่ลำน้ำโขง 5,601 ลบ.ม./วินาทีหรือ 492 ล้านลบ.ม.
ทั้งนี้อาศัยจังหวะที่ระดับน้ำแม่น้ำโขงต่ำกว่าลำน้ำมูลมาก เร่งเดินเครื่องผลักดันน้ำซึ่งยังคงติดตั้งที่แก่งสะพือ บริเวณสะพานพิบูลมังสาหาร 39 เครื่องเพื่อเร่งอัตราการไหลของน้ำเพื่อให้สถานการณ์กลับเป็นปกติเร็วที่สุด
ทั้งนี้สำนักงานชลประทานที่ 7 รายงานว่า ตั้งแต่ 15 ต.ค. เป็นต้นมา ระดับน้ำที่สถานีวัด M.7 ลดลงรวม 1.12 เมตร โดยมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ทำให้ถนนสายต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วมเริ่มกลับมาสัญจรได้แล้วเช่น ถนนโรงเรียนเบญจะมะมหาราช-เซ็นทรัลอุบลฯ ถนนหมายเลข 23 อุบลฯ-ยโสธร ทางหลวงหมายเลข 231 ตะวันตก ฝั่งเซ็นทรัล–อำเภอวารินชำราบ ถนนสายห้วยวังนอง-กุดลาดส่วนทางหลวงหมายเลข 24 สะพานเสรีประชาธิปไตย-อำเภอวารินชำราบคาดว่า จะสัญจรได้ในอีก2-3 วัน
สำหรับพื้นที่ต่างๆ ที่ระดับน้ำลดลงแล้ว ได้ให้ทุกหน่วยงานของกรมชลประทานร่วมกันจัดชุดปฏิบัติการ พร้อมเครื่องจักรเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ เข้าช่วยฟื้นฟูเพื่อส่งประชาชนกลับสู่บ้านเรือน เช่นที่โรงเรียนบ้านสว่าง ตำบลสว่าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ สำนักงานชลประทานที่ 7 นำเจ้าหน้าที่ 30 คนเข้าทำความสะอาด ล้างถนน ตัดหญ้า และเก็บขยะเพื่อให้โรงเรียนกลับมาเปิดทำการเรียนการสอนได้โดยเร็วที่สุด พร้อมมอบน้ำดื่มให้แก่โรงเรียนบ้านสว่าง 50 แพ็ค เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่บุคลากร นอกจากนี้ ยังได้ลงสำรวจสภาพพื้นที่ บริเวณสวนสาธารณะแก่งสะพือ อำเภอพิบูลมังสาหาร เพื่อวางแผนดำเนินการฟื้นฟูช่วยเหลือต่อไปด้วย
นายประพิศกล่าวว่า หากหน่วยงานที่ดูแลสถานที่สาธารณะเช่น วัด โรงเรียนที่ถูกน้ำท่วมก่อนหน้านี้ ต้องการให้กรมชลประทานเข้าช่วยเหลือในการทำความสะอาดและขนย้ายสิ่งของหลังน้ำลด ให้ไปยังโครงการชลประทานในพื้นที่ หรือโทรสายด่วน กรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา.-สำนักข่าวไทย