กรุงเทพฯ 8 ต.ค.- อธิบดีกรมชลประทานสั่งโครงการชลประทาน 5 จังหวัดในลุ่มน้ำชีติดตามสถานการณ์น้ำที่จะสูงขึ้นอีก จากการปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ย้ำเดินเครื่องผลักดันน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำจากลำน้ำชีลงสู่ลำน้ำมูลอย่างเต็มศักยภาพ จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพนังกั้นน้ำลำน้ำชีในจุดเสี่ยงอย่างใกล้ชิด
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า ได้รับการประสานจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่จำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเมื่อวานนี้ (7 ต.ค.) ที่ 45 ล้าน ลบ.ม./วัน เป็น 50 ล้าน ลบ.ม. ในวันนี้ ซึ่งจะทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อนอุบลรัตน์มีระดับน้ำสูงขึ้น โดยกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณ อ. อุบลรัตน์ ซำสูง น้ำพอง และเมืองขอนแก่น จ. ขอนแก่น รวมถึงอาจกระทบบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำทั้ง 5 จังหวัดตั้งแต่ จ.ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และยโสธร ส่งผลให้ระดับน้ำที่ท่วมอยู่ในปัจจุบันจะสูงขึ้นอีก
ปัจจุบันเขื่อนอุบลรัตน์มีน้ำอยู่ 126% ของความจุ โดยมีน้ำไหลเข้ามากถึง 143.58 ล้าน ลบ.ม./วัน แต่มีแนวโน้มเริ่มลดลง จากเมื่อวาน 187.14 ล้าน ลบ.ม.
อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า ลำน้ำชีมีระดับสูงและล้นตลิ่งตลอดลำน้ำอยู่แล้ว เมื่อเขื่อนอุบลรัตน์ระบายเพิ่มจึงสั่งให้โครงการชลประทานต่างๆ จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพนังกั้นน้ำบริเวณที่มีความเสี่ยงอย่างใกล้ชิด เสริมและซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน โดยเฉพาะบริเวณที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำพองและลำน้ำชีด้านท้ายเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ให้เตรียมป้องกันระดับน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ บริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม ด้วยการปรับการระบายน้ำให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ ย้ำให้เดินเครื่องผลักดันน้ำเต็มกำลังเพื่อเร่งระบายน้ำลำน้ำชีให้ลงสู่ลำน้ำมูลโดยเร็ว
นอกจากนี้เน้นย้ำให้โครงการชลประทานในพื้นที่และสำนักเครื่องจักรกล เตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันทที ตลอดจนทำการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ และเข้าใจถึงสถานการณ์น้ำและแนวทางในการบริหารจัดการน้ำให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง
ตลอดจนกำชับให้สำนักงานชลประทานที่ 6 สั่งการให้โครงการชลประทานที่ดูแลพื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเนื่องจากระดับน้้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงให้บูรณาการกับจังหวัดและทุกภาคส่วนเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยทันที ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย
