กรุงเทพฯ 18 ส.ค.- กรมส่งเสริมการเกษตรเตรียมช่วยเหลือเกษตรกรจากเหตุอุทกภัย เบื้องต้นคาดว่า มีพื้นที่เกษตรเสียหายใน 14 จังหวัดรวมเนื้อที่กว่า 80,000 ไร่ โดยเตรียมพันธุ์พืชไว้สนับสนุน รวมถึงการจ่ายค่าชดเชยความเสียหายตามระเบียบกระทรวงการคลัง
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าวว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สั่งการให้หน่วยงานภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ช่วยเหลือและเตรียมการรับมือรองรับเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยภัย โดยในส่วนของกรมส่งเสริมการเกษตร ได้ติดตามสถานการณ์การอุทกภัยจากพายุดังกล่าว โดยได้รับรายงานพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบในพื้นที่ 14 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แพร่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พะเยา น่าน สุโขทัย อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย และจังหวัดอุบลราชธานี เกษตรกรได้รับผลกระทบ จำนวน 23,182 ราย มีพื้นที่การเกษตรคาดว่า จะเสียหายจำนวน 88,305.25 ไร่ แยกเป็นข้าว 71,695.75 ไร่ พืชไร่ละพืชผัก 14,758.75 ไร่ ไม้ผลไม้ผืนต้นและอื่นๆ 1,870.75 ไร่ (ข้อมูล ณ วันที่ 17 สิงหาคม 2565) และขณะนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เข้าไปสำรวจความเสียหาย จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกรมส่งเสริมการเกษตรเตรียมการสำรวจและช่วยเหลือเกษตรกรรองรับภายหลังน้ำลด ทั้งการลงพื้นที่เพื่อสำรวจพื้นที่ความเสียหาย การเตรียมผลิตพืชพันธุ์ดี และการเตรียมเชื้อราไตรโคเดอร์มาให้เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร
การเตรียมผลิตพืชพันธุ์ดีดำเนินการโดยศูนย์ขยายพันธุ์พืชทั้ง 10 ศูนย์และศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร ภายใต้โครงการผลิตพืชพันธุ์ดีเพื่อสำรองในกรณีช่วยเหลือ ฟื้นฟู ดูแลเกษตรกรผู้ประสบภัย และใช้ในภารกิจของกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งได้ดำเนินการเพาะพันธุ์เตรียมพร้อมรับมืออยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะพืชพันธุ์ที่เกษตรกรนิยมเพาะปลูกและรับประทานได้แก่ พริก มะเขือเปราะ มะเขือเทศ มะเขือยาว มะเขือพวง กะเพรา แมงลัก กระเจี๊ยบเขียว กล้วยน้ำว้า มะละกอ ทุเรียน กาแฟ กระท่อม เป็นต้น
สำหรับการสนับสนุนเชื้อราไตรโคเดอร์มา กรมส่งเสริมการเกษตรจะสนับสนุนหัวเชื้อชั้นขยาย จำนวน 5,500 ขวด ซึ่งเมื่อนำมาขยายเป็นเชื้อราไตรโคเดอร์มาพร้อมใช้ได้เพิ่มถึง 137,500 กิโลกรัม และสนับสนุนเชื้อราไตรโคเดอร์มาพร้อมใช้อีก 9,600 กิโลกรัม โดยสามารถใช้ในการควบคุมโรคพืชได้หลายชนิด ทั้งบริเวณราก ลำต้น และใบ เช่น โรครากเน่าโคนเน่า โรคใบติดของทุเรียน โรคเน่าคอดิน โรคกาบใบแห้งของข้าว โรคเหี่ยว โรคแอนแทรคโนสของพริก เป็นต้น เกษตรกรสามารถขอรับเชื้อราไตรโคเดอร์มาได้ที่สำนักงานเกษตรจังหวัดและศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช (ศทอ.)
สำหรับในส่วนเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือยังคงเป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 หลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 ในอัตราดังนี้ ข้าว 1,340 บาทต่อไร่ พืชไร่และพืชผัก 1,980 บาทต่อไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่นๆ 4,048 บาทต่อไร่ ตามพื้นที่เสียหายจริงไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ ทั้งนี้เป็นไปตามที่อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว.-สำนักข่าวไทย