ททท.ชวนแกะกล่องความมหัศจรรย์เมืองไทย งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 41 ปี 2566

กรุงเทพฯ – ททท. ชวนแกะกล่องความมหัศจรรย์ของเมืองไทย กับงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 41 ปี 2566” จัดเต็มท่องเที่ยวมิติใหม่ที่สุขใจกว่าที่เคย 2-6 สิงหาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์


เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทยครั้งที่ 41 ปี 2566” ระหว่างวันที่ 2-6 สิงหาคม 2566 ณ ฮอลล์ 5-8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชวนแกะกล่องความมหัศจรรย์ของเมืองไทย ภายใต้คอนเซปต์ “นวัฒนธรรม”หรือ Inno-Cultural for Sustainable Tourism นำเสนอการท่องเที่ยวไทย 5 ภูมิภาค ในรูปแบบวัฒนธรรมสมัยใหม่ผสมผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรม ส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวสุดอันซีน ไร้ขีดจำกัด เหนือความคาดหมาย และน่าประทับใจ กระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวทันที พร้อมรับความสุขมากกว่าที่เคย

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท. เตรียมปลุกกระแสการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ กำหนดจัดงาน“เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 41 ปี 2566” ระหว่างวันที่ 2-6 สิงหาคม 2566 ณ ฮอลล์ 5-8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชูแนวคิด “นวัฒนธรรม” (Inno-Cultural for Sustainable Tourism) โดยนำนวัตกรรมเทคโนโลยีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ มาผสมผสานกับวัฒนธรรมและ Soft Power ของไทย เพื่อนำเสนออัตลักษณ์การท่องเที่ยวเมืองไทย ทั้ง 5 ภูมิภาครูปแบบวัฒนธรรมร่วมสมัย สอดรับกับแนวคิดการพัฒนาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน(Sustainable Tourism) เพื่อขับเคลื่อนการส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยว กระตุ้นให้เกิดความต้องการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศทันที ผ่านความเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ทุกภูมิภาคในประเทศไทย


นางสาวฐาปนีย์  เกียรติไพบูลย์  รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. เปิดเผยถึงไฮไลท์สำคัญของ “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 41 ปี 2566” ว่า ททท. เตรียมชวนแกะกล่องความมหัศจรรย์ของเมืองไทย พาสัมผัสเอกลักษณ์ของ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ ทั้งด้านประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิต ภูมิปัญญาและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ พร้อมนำเสนอความหลากหลายของ Landmark จากแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters รวมถึงกิจกรรมท่องเที่ยวมิติใหม่ที่ส่งเสริมแนวคิด Sustainable Tourism ผ่าน 9 โซนหลักภายในงาน ดังรายละเอียดต่อไปนี้

• โซนที่ 1 : AMAZING THAILAND เริ่มต้นของการเดินทางท่องเที่ยว พบกับความเป็น Amazing Thailand รูปแบบใหม่ที่ Amazing ยิ่งกว่าเดิม เนรมิตพื้นที่ Theme Area ร่วมกับ Rakdok ยกกองทัพดอกไม้มาออกแบบเป็นจุดเช็กอินสุดอาร์ตจากฝีมือของคุณ Joe Rainforest นักจัดดอกไม้ชื่อดัง วางกรอบรูปประเทศไทย ถ่ายทอดอัตลักษณ์ 5 ภูมิภาค เป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Chapters ได้แก่ ภาคเหนือ – มหัศจรรย์น้ำตกหมอกเมืองไทยจ.เพชรบูรณ์ ภาคกลาง – อันซีนภูผาแรด มุมลับสุดอาร์ตแห่งราชบุรี จ.ราชบุรี ภาคตะวันออก – เส้นทางท่องวังพญานาควัดมณีวงศ์ จ.นครนายก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ-ท่องอาณาจักรสวนหินล้านปี มอหินขาว จ.ชัยภูมิ และภาคใต้ – ย้อนเวลาหาความสงบสุข…เที่ยวเกาะหลงยุคแห่งอันดามัน จ.ระนอง ก่อนจะตื่นตาตื่นใจกับ LED Box ที่จะพาเข้าไปท่องเที่ยวเสมือนจริงด้วยมุมมองภาพแหล่งท่องเที่ยวแบบรอบตัว อย่างเต็มอิ่ม และชวนผจญภัยสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวและวัฒนธรรมผ่านเกมออนไลน์ ‘Home Sweet Home’ จากนั้นแวะจิบกาแฟ Showcase ต้นแบบกาแฟรักษ์โลกแบบ Cozy Camping นอกจากนี้ ยังมีโซน TAT Souvenir of Thailand จัดจำหน่ายสินค้าและของที่ระลึกภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand อาทิ เสื้อโปโล หมวก ร่ม กระเป๋าเดินทาง , นิตยสาร อสท. , TAT NFT, เคาน์เตอร์บริการข่าวสารท่องเที่ยว TAT Contact Center 1672 Travel Buddy

• โซนที่ 2 : ภาคตะวันออก เพิ่มสีสันของท่องเที่ยวไทยสุดเอ็กซ์สตรีมไปกับ “สบ๊ายสบาย ภาคตะวันออก” ชูแนวคิด“Love Ea(s)t All Around” ผ่าน 4 Story ได้แก่ ยืนหนึ่งเรื่องกิน สุดฟินเรื่องสบาย จิตผ่อนคลายสายมู เรียนรู้เรื่องรักษ์ ชู Soft Power ด้านอาหาร (Food) เป็นจุดเด่น ผนวกกับกิจกรรมท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อาทิ กิจกรรม Eco printing สร้างสรรค์งานศิลปะจากธรรมชาติ โดยชุมชนพนัสนิคม จ. ชลบุรี กิจกรรมสาธิตการทำมัดย้อมสีจากเปลือกมังคุด จาก วิสาหกิจชุมชนแตนบาติก จ.ระยอง กิจกรรมสาธิต โมบายจากขยะ DIY ฝาขวดพลาสติกนำมาร้อยเรียงเป็นชิ้นงานโมบาย จากวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านธรรมชาติล่าง จ.ตราด


ภายในโซน ผู้เข้าชมงานจะได้พบกับไฮไลท์จุดแลนด์มาร์คถ่ายภาพ 360 องศา อาทิ เกาะขายหัวเราะ จ.ตราดสะพานอัษฎางค์ เกาะสีชัง จ.ชลบุรี หนึ่งใน Unseen New Chapters ทุ่งโปรงทอง จ.ระยอง เป็นต้น และโซนอาหารถิ่น ผลไม้ อาหารทะเลดังของภาคตะวันออกมาไว้ในงาน อาทิ ก๋วยเตี๋ยวกั้ง ข้าวคลุกพริกเกลือ โรตีสายไหมทุเรียนทอดมันกระวาน หมูชะมวง เส้นจันท์ผัดปู น้ำมะปี้ด ไอติมมะยงชิด และจำลองพื้นที่กิจกรรม Soft Adventure เอาใจสายลุย เที่ยวภาคตะวันออก เช่น กิจกรรมปีนผา ทดลองเล่น Surf และพัตกอล์ฟแบบสบ๊ายสบายสไตล์ ภาคตะวันออก

• โซนที่ 3 : ภาคกลาง ก้าวสู่ดินแดนที่ราบลุ่มแม่น้ำ ซึมซับประสบการณ์การท่องเที่ยวสไตล์ “Trendy C2 ภาคกลาง” ภายใต้แนวคิด “ความสุขง่ายๆ หาได้ที่ภาคกลาง” โดดเด่นด้วยแลนด์มาร์ก “หอมนสิการ” ธรรมะแกลลอรี จ.สระบุรีอันดับ 1 ของการโหวตในโครงการ Unseen New Chapters ประจำปี 2566 จัดแสดงแบบ Interactive ครั้งแรกในประเทศไทย กับศิลปะร่วมสมัย ทั้งภาพ แสง เสียงบรรยาย และวิดีโอสื่อผสมระดับภาพยนตร์ จากนั้นเพิ่มความฮิปสเตอร์ สไตล์ Camping นำเสนอรถคาราวาน Airstream และ Camper Van และร้อยเรียงเรื่องราวกับโซนสาธิตของศิลป์แผ่นดิน นำเสนองานหัตถศิลป์ที่หาชมได้ยากโดยช่างฝีมือจากสถาบันสิริกิติ์ และการประกอบเครื่องคาวหวานจากโรงเรียนช่างฝีมือในวัง (หญิง) อาทิ สาธิตการทำขนมชุบ ขนมเกสรลำเจียก ขนมเบื้อง ตามตำหรับชาววัง และเติมความสุขชาร์จพลังกายใจ ร่วมกับ สมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย (TOCA) นำเสนอสวนผักแนวตั้ง ผลักดันการท่องเที่ยววิถีเกษตรอินทรีย์ (Organic Tourism) ที่ยั่งยืนด้วยการสะสม Earth Point ผ่าน TOCA Platform เพื่อแลกรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่ร่วมรายการ

• โซนที่ 4 : ภาคเหนือ เปิดหมู่บ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย “เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ” (North Nostalgia) ผสมผสานความร่วมสมัย Northern Thailand Soft Power รณรงค์แต่งชุดพื้นเมืองภาคเหนือ พรีเซนต์แลนด์มาร์กและจุดถ่ายภาพจำลอง 4 แห่ง ได้แก่ แมงสี่หูห้าตา จ.เชียงราย บ้านอาจารย์โกมล จ.แพร่ ประเพณีสลากย้อม จ.ลำพูน และบ้านเหมืองกุง จ.เชียงใหม่ แวะเติมความสดชื่นที่ซุ้มเย็นใจ๋ รวบรวมร้าน ชา กาแฟ โกโก้ คราฟท์โซดา หรือเครื่องดื่มผลิตจากภาคเหนือ ตกแต่งสไตล์บรรยากาศ Glamping จำนวน 12 บูธ ก่อนจะเติมเสบียงแบบลำแต้แต้ที่ กาดหมั้ว จัดเต็มอาหารเหนือ อาหารฟิวชั่น มิชลินเชียงใหม่ ให้ได้ลิ้มลองกันอย่างเต็มอิ่ม ได้แก่ Ginger Farm Kitchen ครัวหลองข้าวร้านดำรงค์ By หมูทอดกาดหลวงเชียงใหม่ ก๋วยเตี๋ยวอังเล ร้านมิสเตอร์ฮังเล จ.ลำปาง ข้าวเปิ๊บบ้านนาต้นจั่นจ.สุโขทัย ขนมเทียนเสวย บ้านกนกมณี จ.อุตรดิตถ์ จากนั้นเสิร์ฟความฟินผ่อนคลายแบบชิวๆ ที่กาดนวด ด้วยกิจกรรมWellness นวด/สปา ภาคเหนือ เช่น สปาจักราศี/สปาฟ้อนเล็บ การนวดภูมิปัญญาชาวบ้าน และเพลิดเพลินที่ ซะป๊ะคราฟท์ จัดจำหน่ายสินค้า Handicraft ตกแต่งสไตล์ minimal และ กิจกรรม DIY อาทิ การเพ้นท์เครื่องปั้นดินเผาชุมชนบ้านเหมืองกุง – แสตมป์ไม้บนถุงผ้า ฟ้าฮ่าม Indigo Craft & Studio จ.แพร่ – ทำตุ้มหู และพวงกุญแจจากเศษผ้า สุนทรีผ้าไทย Suntree-Thai จ.สุโขทัย – ทำตุงใยแมงมุม บ้านหนองหม้อ Creative Village จ.เชียงราย พร้อมอัปเดท Product Highlight 3 บูธ สินค้าที่โดดเด่นของภาคเหนือ ได้แก่ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ , กิจการน้ำพุร้อนสันกำแพง จ.เชียงใหม่ , งาน Thailand Biennale Chiang Rai และส่งท้ายกันที่ ลานกิจกรรม “เวิ้งแวดเวียง” นำเสนอการเดินทางท่องเที่ยวในเรื่องความเชื่อและศรัทธา (Faith+Festival) Illumination ฉายภาพจำลองสถานที่และเทศกาลที่มีชื่อเสียง เช่น เทศกาลโคมแสนดวง เทศกาลลอยกระทง จุดชมวิวทะเลหมอก สถานที่ท่องเที่ยว Unseen New Chapters หรือกิจกรรมทางการท่องเที่ยว เช่น ล่องแก่ง พายซับบอร์ด บอลลูน เป็นต้น

• โซนที่ 5 : ภาคใต้ ล่องปักษ์ใต้ได้แรงอก หรอยแรงกันอย่างต่อเนื่อง ชูแนวคิด “เที่ยวใต้ : สะดวกสบายทันสมัยปลอดภัยได้มาตรฐาน และสัมผัสกับประสบการณ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสู่ความยั่งยืน” ผ่านธีม “14 x 24 x 365 หรอยแรง” เที่ยวสนุกสุด ๆ ที่ปักษ์ใต้ นักท่องเที่ยวจะได้หรอยแรงไปกับจอ LED ขนาด22 เมตร x 6 เมตร ออกแบบสไตล์ Modern Southern นำเสนอบรรยากาศภาคใต้ทุกจังหวัดทุกช่วงเวลา พร้อมถ่ายรูปกับแหล่งท่องเที่ยวPopular Southern เช่น ซุ้มประตูอุทยานธรรมธรรมเขานาในหลวง , เขาพับผ้า หนึ่งใน Unseen New Chapters ต่อมากับโซนอาหาร ชวนลิ้มลอง 36 ร้านอาหารหรอยแรง โรตี จำนวน 3 ร้าน และ ชาชัก จำนวน 2 ร้าน กิจกรรม DIY มากมาย อาทิ ผลิตภัณฑ์ลูกปัดโนรา ผลิตภัณฑ์จากกระจูด ให้ผู้เข้าชมงานได้ร่วมทดลองทำของที่ระลึกกลับบ้านที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก การนำเสนอการแสดงทางวัฒนธรรมท้องถิ่น และการแสดงวัฒนธรรมแบบประยุกต์ ประกอบฉากสุดอลังการบนจอ LED ขนาดยักษ์ อาทิ การแสดงโนรา, มวยไชยา และลิเกฮูลู

นอกจากนี้ ยังมอบความสะดวกสบายให้แก่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยเว็บไซต์ www.tourismdepartmentstore.com หรือ “ห้างททท.” ที่รวบรวมดีลสุดพิเศษจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากทั่วประเทศไทยกว่า 300 ร้านค้าออนไลน์

• โซนที่ 6 : ภาคอีสาน ชวน “หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน” ปลดล็อกประสบการณ์ท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด “อีสาน…ไปไสกะแซ่บ” มากกว่าความแซ่บคือ ประสบการณ์ โดยนำเสนอประสบการณ์ความ “แซ่บ” ของอีสานผ่านวัฒนธรรมและนวัตกรรมอาหารอีสานและการแสดง

เพิ่มดีกรีความแซ่บไปกับไฮไลท์ห้ามพลาด 7 แซ่บ ประกอบด้วย แซ่บแรก เชิญเดินเข้า “ไห…เทค” ไหปลาร้าเรืองแสงที่จะทำให้ทุกคนได้เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการทำปลาร้า ปลาแดก ของอีสาน ผ่านประสบการณ์รูป รส กลิ่น เสียงและสัมผัส ตั้งแต่ต้นน้ำ ไปจนถึง Go Inter แซ่บที่ 2 เชิญชิม 20 ร้านดัง จาก 20 จังหวัดภาคอีสาน เช่น ตำกระเทย สาเกต จ.ร้อยเอ็ด อังแกบบอบ จ.สุรินทร์ เนื้อแห้ง 100 ปี จ.อำนาจเจริญ เป็นต้น แซ่บที่ 3 เชิญลอง 20 จานแซ่บ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย เช่น ไก่กระเต็ด จ.นครราชสีมา แซลมอนน้ำปลาร้า จ.อุดรธานี ข้าวปุ้นน้ำนัว จากนครพนมเป็นต้น แซ่บที่ 4 เชิญชม 10 นวัตกรรมอาหารอีสาน Go Inter เช่น ไก่ไร้เก๊า จากขอนแก่น สบู่หอมแดง จากศรีสะเกษส้มตำอบกรอบ ที่รับประทานได้ง่ายๆ เพียงเติมน้ำลงไป แซ่บที่ 5 เชิญชอป สินค้า ISAN Arts & Crafts เช่น ผ้าทอมือย้อมคราม ย้อมโคลน ย้อมสีธรรมชาติ ย้อมภูอัคนี กระเป๋าเสื่อกก จากการประชุม APEC ที่ผ่านมา เป็นต้น แซ่บที่ 6เชิญม่วนกับการแสดงม่วนซื่นโฮแซว เช่น ขบวนแห่เซิ้งบั้งไฟเปิดหมู่บ้านอีสาน การแสดงผีตาโขน การแสดงหมอลำหุ่นกระติ๊บ การแสดงหุ่นเต้น ดนตรีโฟล์คอีสาน การแสดงโปงลางกาฬสินธุ์ แซ่บที่ 7 พาแลงแฮงเอาท์ พื้นที่ล้อมวงรับประทานสำรับ “พาแลง” อาหารท้องถิ่นสไตล์อีสานบ้านเฮา พร้อมพักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางบรรยากาศสุดม่วนซื่น

• โซนที่ 7 : พันธมิตรท่องเที่ยวไทย จับมือพันธมิตรท่องเที่ยวสร้างการรับรู้ท่องเที่ยวในแง่มุมต่างๆ ภายใต้แนวคิดTAT and the Gangs ได้แก่ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (อพท.) สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงเทพ ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคงการกีฬาแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) บริษัท ไปรษณีย์ไทยจำกัด ตำรวจท่องเที่ยว สมาคมสายการบินประเทศไทย สมาพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย (FETTA)

• โซนที่ 8 : เวทีกลาง จัดเต็มบรรยากาศแห่งความสนุกสนาน ส่งมอบความสุขแบบ Non-stop ตลอด 5 วัน สะท้อนอัตลักษณ์ของท้องถิ่นทั้ง 5 ภูมิภาค เช่น การแสดงนาฎมวยไทย และ คีตะมวยไทย การแสดงจากวิทยาลัยนาฎศิลป์กาฬสินธุ์ รำวงเพชรบุรี ทิฟฟานี่ คาบาเร่ต์โชว์ โขนและโนรา ฟีโน่ เดอะ ระนาด พร้อมการแสดงจากศิลปินที่นำไปสู่การเดินทางท่องเที่ยว เช่น เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ เป๊ก ผลิตโชค Paper Planes เจ เจตริน PARADOX PALMY 4MIX New Country Sarah Salola ลิเกฮีโร่ คณะสองเทพบุตรสุดที่รัก การแสดงหมอลำใจเกินร้อย (แอน อรดี บอยศิริชัย) เอกชัย ศรีวิชัย เพลงลูกกรุงสุนทราภรณ์ ฯลฯ

• โซนที่ 9 : TAT Net Zero ตอกย้ำหมุดหมายของการขับเคลื่อนท่องเที่ยวไทยสู่ควา ยั่งยืน(Sustainable Tourism) นำเสนอความพร้อมของสินค้า บริการ และกิจกรรมทางการท่องเที่ยวในรูปแบบ Tourist Journey ชวนนักท่องเที่ยวสัมผัสถึงประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism) ตามแนวคิด TAT Net Zero ภายใต้ยุทธศาสตร์ Sustainable Tourism Goals: STGs ไปกับ Sustainable Tourism Goals Games & Activities บันไดแห่งความยั่งยืน และ Mapping Exhibition นำเสนอเรื่องราว The Nature Tourism, Amazing Thailand, เที่ยวได้ให้ด้วย , The Journey of Low Carbon Experience นำเสนอเรื่องราวโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม(CF-Hotels) และรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards : TTA) กิจกรรม Workshop จากชุมชน บูธปั่นเพื่อโลก Green Market เที่ยวด้วยช่วยได้ ตลาดสีเขียวรักษ์โลกนำเสนอสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมการจัดแสดง Turning Trash to Treasured Art เปลี่ยนขยะสู่งานศิลปะล้ำค่า, กิจกรรม Share and Care the World และร่วมสัมผัสประสบการณ์และออกเดินทางไปกับ “เส้นทางการท่องเที่ยว Low Carbon เที่ยวไทย หัวใจฮีโร่” ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชุมชน กิจกรรมท่องเที่ยวรักษ์โลกฯ

นอกจากนี้ ททท. ยังตอกย้ำ DNA ขององค์กรในการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน มุ่งสู่คำว่า “Net Zero Tourism” โดยตั้งใจออกแบบการจัดงานให้มีการสร้างขยะน้อยที่สุด จึงได้ยกแนวคิด “Zero Landfills” ลดการสร้างขยะนำสู่บ่อฝังกลบ นำสู่การปฏิบัติ และมีการกำจัดอย่างถูกวิธี ไม่ให้การเดินทางท่องเที่ยวทิ้งภาระให้กับสิ่งแวดล้อม และลดการใช้วัสดุสิ้นเปลืองในการตกแต่งภายในงาน โดยนำเทคโนโลยีมานำเสนอความน่าสนใจของแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งภายในงานยังมีการตั้งจุดคัดแยกขยะ ทั้งหมด 14 จุด ประกอบด้วย 9 จุด ทั่วพื้นที่จัดงาน และ5 จุด ตามโซนอาหารต่าง ๆ โดยแต่ละจุดจะมีเจ้าหน้าที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการแยกขยะและกำจัดขยะอย่างถูกต้องในกิจกรรม “ลดโลกเลอะ Zero Landfills” ทั้งยังได้รับการสนับสนุนความร่วมมือกับพันธมิตร ได้แก่ กลุ่ม The Green ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร โครงการ Youเทิร์น by บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน) หรือ GC รวมทั้ง บริษัท Cirplas และ บริษัท N15 Tecnology เพื่อร่วมกันจัดการขยะ

ทั้งนี้ แนะนำให้ผู้เข้าร่วมงานใช้บริการขนส่งสาธารณะ โดยสามารถเดินทางเข้ามายังศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ได้หลายวิธี ได้แก่ รถไฟฟ้า MRT สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์, เดินทางโดยรถแท็กซี่ ณ จุดบริการรับ-ส่ง ชั้นG บริเวณฝั่งทะเลสาบ, รถประจำทาง สาย 136 หรือ หากเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว สามารถมาจอดได้ที่ ชั้น B1 B2 LM จอดฟรี 3 ชั่วโมงแรก ถัดไป ชั่วโมงละ 30 บาท

ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงาน “เทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 41 ประจำปี 2566” วันที่ 2-6 สิงหาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ฮอลล์ 5-8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เข้าร่วมงานฟรี ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TAT Contact Center 1672 Travel Buddy

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย ขาดความตั้งใจแก้ปัญหา

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย แก้ปัญหาลดความตึงเครียด ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคี บนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เมื่อ 22.30 น. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ผลการประชุม JBC ทั้งที่เดิมนัดสื่อเเถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งหลักๆ ทั้ง 4 เรื่องในคำเเถลงออกมาตรงกัน ซึ่งการรับรองผลการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 สองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก และเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งในการเห็นชอบให้เเก้ไขแผนแม่บทว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดทำขึ้นเมื่อปี 2546 (TOR 2003) ก็นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเช่นกัน ส่วนในข้อ 4 เห็นชอบให้มีการจัดทำข้อกำหนดทางเทคนิคการเดินสำรวจในพื้นที่ตอนที่ 6 ไทยลงรายละเอียดว่า เป็นพื้นที่จากเขาสัตตะโสม จนถึงหลักเขตแดนที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมอบหมาย JTSC […]

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

ทบ.ยันไม่พบทหารกัมพูชาปิดทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต

กทม. 15 มิ.ย.-กองทัพบก ยืนยันไม่พบทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธครบมือ ปิดทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต ขอฟังข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น จากกรณีเพจแจ้งข่าวศรีสะเกษ เผยแพร่ข่าวทหารกัมพูชา พร้อมอาวุธครบมือ ปิดถนนทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต บริเวณช่องบก ห้ามไม่ให้ทหารไทยขึ้นไปซ่อมแซมถนน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา เป็นครั้งที่ 2 เมื่อเวลา 12.45 น. ล่าสุด พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในพื้นที่ พบว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าว โดยขอให้ฟังข้อมูลข่าวสารจากทางราชการเป็นหลัก หรือสามารถสอบถามกองทัพบกได้เป็นกรณีไป พร้อมระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวมีการทำถนนไว้ส่งกำลังบำรุง แต่อยู่ในเขตเราทั้งหมด ซึ่งทางกัมพูชาเข้าใจ.-313.-สำนักข่าวไทย