ทำเนียบฯ 9 ส.ค. – ครม.เห็นชอบทบทวนมติ ครม.เดิม โดยยกเว้นหน่วยงานของรัฐ หรือโครงการบางประเภทที่ไม่ต้องจัดสรรงบประมาณค่าปลูกป่าทดแทน
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบทบทวนมติ ครม. เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2556 เรื่องการดำเนินโครงการใดๆ ของหน่วยงานของรัฐที่มีความจำเป็นจะต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่า จากมติ ครม.เดิมระบุว่า ในกรณีที่การดำเนินโครงการใดๆ ของหน่วยงานของรัฐ มีความจำเป็นต้องเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่า และจะต้องมีการปลูกป่าทดแทนเพื่อการอนุรักษ์หรือรักษาสภาพแวดล้อมของพื้นที่ด้วย ให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรร หรืออนุมัติงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปลูกป่าทดแทนให้กับหน่วยงานของรัฐเจ้าของโครงการ หรือหน่วยงานของรัฐที่เป็นผู้ดำเนินการปลูกป่า ตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติกำหนด โดยถือเป็นค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งของโครงการนั้นๆ ด้วย
ทั้งนี้ ได้ทบทวนมติ ครม.ดังกล่าว โดยยกเว้นหน่วยงานของรัฐ หรือโครงการบางประเภทที่ไม่ต้องจัดสรรงบประมาณค่าปลูกป่าทดแทนดังนี้คือ โครงการเพื่อสร้างศาสนสถานและสถานที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนา โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติอ้างว่า ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการเสนอของบประมาณจากสำนักงบประมาณ สำหรับค่าปลูกป่าทดแทนให้แก่วัดต่างๆ, โครงการที่มีวัตถุประสงค์เป็นไปเพื่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟูระบบนิเวศป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการอนุรักษ์ป่าไม้เช่นเดียวกับการปลูกป่าทดแทน จึงอาจทำให้การดำเนินโครงการและการจัดสรรงบประมาณมีความซ้ำซ้อน
น.ส.ไตรศุลี กล่าวด้วยว่า ยังมีโครงการเพื่อการจัดที่ดินที่ได้รับความเห็นชอบจาก ครม. ซึ่งโครงการจัดสรรที่ดินให้แก่ประชาชน ผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นผู้ขออนุญาตเข้าใช้ที่ดิน แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่มีอำนาจในการเสนอของบประมาณสำหรับเป็นค่าปลูกป่าทดแทน และไม่สามารถเรียกเก็บจากประชาชนได้ และโครงการที่เข้าใช้พื้นที่ป่าก่อนได้รับอนุญาตตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 และมติ ครม.เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 โครงการที่เข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาตดังกล่าวมีการดำเนินการก่อสร้างและใช้งบประมาณไปแล้ว จึงไม่สามารถจัดสรรหรือของบประมาณเป็นค่าปลูกป่าทดแทนย้อนหลังได้.-สำนักข่าวไทย