fbpx

พาณิชย์เตรียมรับมือนโยบายการค้าประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่

นนทบุรี  9 พ.ย. – นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวถึงการเลือกตั้งสหรัฐที่คาดว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ จะได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ ว่า  ด้านการค้าที่นายทรัมป์เคยประกาศไว้ในเรื่องเสรีการค้าต่าง ๆ จะต้องมีการทบทวนโดยเฉพาะข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือทีพีพี  เพราะระบบการค้าดังกล่าวยังมีปัญหามาก  อีกทั้งต้องติดตามดูว่านโยบายจะเน้นดูแลคนสหรัฐมากกว่าต่างชาติที่เข้าไปทำธุรกิจการค้าและจะเดินหน้าตามกรอบที่หาเสียงไว้หรือไม่  หากเป็นอย่างนั้นจะกระทบต่อการค้าหลายด้าน  รวมทั้งประเทศไทย  ซึ่งคาดว่านายทรัมป์จะออกมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี  เช่น  มาตรการสุขอนามัย  สินค้าจากต่างประเทศที่จะเข้าไปขายในสหรัฐจะต้องมีมาตรฐานสูง  แต่ละปีสหรัฐนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคค่อนข้างสูง มีอัตราการนำเข้าสินค้าไทยอันดับ 1 หากดูภาคการส่งออกสหรัฐถือเป็นอันดับ 3  รองจากจีน และญี่ปุ่น  ดังนั้น ภาคการส่งออกของไทยจะต้องรับมือกับนโยบายประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่


นายบุณยฤทธิ์  กล่าวว่า  ต้องติดตามนโยบายของนายทรัมป์ จะเป็นไปตามที่ประกาศในช่วงหาเสียงหรือไม่  ซึ่งตนในฐานะอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศและได้รับนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้ศึกษากรอบเจรจาการค้ากับสหรัฐลักษณะพันธมิตร และยังมีกรอบที่เจรจาไว้ เช่น  การเปิดเสรีระหว่างไทย-สหรัฐ  ต้องติดตามว่าหลังจากนี้นโยบายรัฐบาลใหม่จะเปิดทางให้เจรจาภายใต้กรอบการค้าอีกหรือไม่  การค้าระหว่างไทย-สหรัฐยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก  เชื่อว่ารัฐบาลใหม่คงมีมาตรการดูแลคนสหรัฐและใช้มาตรการสุขอนามัยป้องกันด้านการนำเข้าสินค้า  อีกทั้งไทยยังต้องเสนอแผนเกี่ยวกับการดูแลด้านทรัพย์สินทางปัญญาโดยเฉพาะการละเมิ ดสินค้าประเภทต่าง ๆ ที่สหรัฐจัดไทยอยู่ในกลุ่มจับตามองพิเศษ (PWL) ที่ผ่านมาไทยทำแผนป้องกันปราบปรามการละเมิดรูปแบบต่าง ๆ อย่งต่อเนื่อง และแก้ไขกฎหมาย  จึงเชื่อว่าในอนาคตไทยน่าจะหลุดจากบัญชี PWL.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย