“ภูมิธรรม” ลั่นพาณิชย์ยุคใหม่ยึดนโยบายเชิงรุก

ทำเนียบ 14 ก.ย.-“ภูมิธรรม” ประชุมข้าราชการทูตการค้า 56 ประเทศและพาณิชย์จังหวัดวันนี้ ระบุพาณิชย์ยุคใหม่ ยึดนโยบายเชิงรุก สร้างดุลยภาพทุกฝ่าย หมดยุคตั้งรับ คนตัวใหญ่ต้องแบ่งปันลมหายใจให้คนตัวเล็กขยับได้ แล้วทุกฝ่ายจะชนะไปด้วยกัน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะราคาสินค้าที่ขยับสูงขึ้น มาก ไม่ว่าจะเป็นไข่หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ว่า ขณะนี้รัฐบาลได้เดินหน้าแก้ปัญหาให้กับประชาชนทันที โดยนโยยายการพยุงราคาสินค้า หรือการทำให้ราคาสินค้าสอดรับกับค่าครองชีพของประชาชน  หลักการของกระทรวงพาณิชย์ คือการหาความสมดุลของส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ราคาสินค้านั้นเกี่ยวข้องกับทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เป็นเหมือนคนกลาง ที่นำสินค้าออกมากระจาย เรื่องนี้จึงจำเป็นจะต้องมีการเจรจาพูดคุยกับทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดควาทสมดุล แล้ววันนี้ (14 ก.ย.)ตนจะเข้าทำงานที่กระทรวงพาณิชย์เป็นทางการครั้งแรก ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้มีการพูดคุยและทำการบ้านกับหลายๆ ฝ่ายมาบ้างแล้ว ซึ่งจะมอบนโยบายให้กับข้าราชการ โดยจะมีข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ทูตการค้าจาก 56 ประเทศและพาณิชย์จังหวัดอีก 76 จังหวัด ก็จะได้มาพูดคุยเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการดำเนินนโยบายที่เราจะทำงานในกรอบต่อไปในลักษณะเชิงรุก ทั้งนี้นโยบายของกระทรวงพาณิชย์  เพราะฉะนั้นทุกฝ่ายต้องรุก ที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาของประชาชนประสบความสำเร็จ ไม่ใช่รอรับสถานการณ์ หรือเมื่อสถานการณ์เกิดขึ้นแล้วค่อยมาคิดที่จะแก้ไขปัญหา

ถ้าเราทำงานเชิงรุกเราจะคาดการณ์ ในวงจรการผลิตหรือการกระจายสินค้าจะมีปริมาณมากน้อยแค่ไหนในช่วงไหนจะสามารถประเมินและคำนวณได้ แล้วจะเกิดในช่วงไหนและถ้าจะมีปัญหา  ผิดพลาดหรือผิดธรรมชาติสินค้าจะล้นช่วงไหนจะเก็บหรือจะออกมาในช่วงใดเราก็จะสามารถประเมินความถูกผิด  หรือความเสียหายได้อยู่แล้ว และเมื่อเราประเมิน ได้แล้วก็ต้องเตรียมทางออกไว้ล่วงหน้า และถ้าสอดคล้องก็จะสามารถแก้ไขได้ไม่ต้องรอให้สินค้าล้นตลาดหรือนำออกมาเททิ้ง

“ผมจึงยึดนโยบายเชิงรุก คือการหาดุลยภาพของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะฉะนั้นเราต้องบอกกับผู้ประกอบการรายใหญ่ว่าเมื่อมีโอกาสมีลมหายใจมากกว่าก็ต้อง เฉลี่ยมาให้กับคนตัวเล็กเพื่อให้เขาสามารถขยับได้ และขับเคลื่อนได้ เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญถ้าหากมีความยากลำบากรายใหญ่ก็ต้องพยุง ซึ่งดีกว่าการทำ CSR หลายๆอย่าง การลงมาทำให้สังคมเดินได้ กำลังซื้อผู้ผลิตไม่สะดุด กำลังเศรษฐกิจกิจการการค้าก็จะเดินหน้าต่อไปได้ เพราะถ้าเราทำให้คนตัวเล็กมีกำลังสามารถขยับขับเคลื่อนและแข็งแรงขึ้นโตขึ้นการบริโภคต่างๆ การพัฒนาการผลิตก็จะเกิดและโตขึ้น กำลังซื้อโตกำลังการผลิตโตกำลังของผู้ผลิตโตขึ้น กำลังของผู้ประกอบการโตขึ้นมันก็ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ( win win )  ทั้งหมดของทุกฝ่าย ดังนั้นนโยบายการค้าของกระทรวงพาณิชย์ในรัฐบาลนี้ก็จะเป็นเรื่อง การสร้างดุลยภาพของทุกส่วน ก็จะทำให้เกิดชัยชนะกันทั้งคู่ win win situation” นายภูมิธรรม กล่าว .- สำนักข่าวไทย