กรุงเทพฯ 8 ก.ค.- Guinness World Records บันทึกสถิติ “ไม้กลายเป็นหินที่ยาวที่สุดในโลก” ที่จังหวัดตาก โดยยาวถึง 69.70 เมตร ซึ่งจะส่งผลให้พัฒนาพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านซากดึกดำบรรพ์ ธรณีวิทยา และธรรมชาติวิทยาเพื่อสร้างรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนด้วย
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธานรับมอบเอกสารรับรองในงานบันทึกสถิติโลก “ไม้กลายเป็นหินที่ยาวที่สุดในโลก” ต่อ Guinness World Records ที่อุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัย–ไม้กลายเป็นหิน (เตรียมการ) จังหวัดตาก โดยกล่าวว่า แหล่งไม้กลายเป็นหิน จังหวัดตากมีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ควรค่าแก่การอนุรักษ์และศึกษาเรียนรู้ ถือเป็นความภาคภูมิใจที่ประเทศไทยมีทรัพยากรธรณีที่มีความอุดมสมบูรณ์จนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
การได้บันทึกเป็นสถิติโลกดังกล่าวจะเป็นส่วนที่ช่วยผลักดันและขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านอุทยานธรณีสู่การยกระดับเป็นอุทยานธรณีระดับโลกตามนโยบายของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านซากดึกดำบรรพ์ ธรณีวิทยา และธรรมชาติวิทยาเพื่อสร้างรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนด้วย ซึ่งถือเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในจังหวัดตาก จะร่วมกันดูแลอนุรักษ์ทรัพยากรธรณี รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ ให้มีความสมบูรณ์ เพราะ “สิ่งที่ท้าทายกว่าการได้มาคือ การรักษา” เพื่อส่งต่อไปยังคนรุ่นถัดไปได้ใช้ประโยชน์
นายพงศ์บุณย์ ปองทอง อธิบดีกรมทรัพยากรธรณีกล่าวว่า การจัดงานบันทึกสถิติโลกครั้งนี้จะสร้างความตระหนักรู้ถึงคุณค่าของทรัพยากรธรณี “ไม้กลายเป็นหินที่ยาวที่สุดในโลก” ที่มีความยาวมากถึง 69.70 เมตร ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านซากดึกดำบรรพ์ ธรณีวิทยา และธรรมชาติวิทยาในจังหวัดตาก ส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษาวิจัย ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ และส่งเสริมการถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ รวมทั้งสร้างเครือข่ายยุวมัคคุเทศก์ ตั้งแต่ระดับนิสิต นักศึกษา รวมถึงนักเรียน เพื่อให้เกิดความรักและความหวงแหนต่อทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น เป็นการส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสำหรับอนาคต และเพื่อให้มีการบริหารจัดการทรัพยากรธรณีเพื่อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป
นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า การรับรองสถิติไม้กลายเป็นหินที่มีความยาวที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการในวันนี้ ทำให้จังหวัดตากเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ซึ่งส่งผลดีในด้านการท่องเที่ยวและวิชาการ สำหรับในอนาคต จังหวัดตากจะพยายามพัฒนาพื้นที่ให้เป็นอุทยานธรณี หรือ GEO PARK โดยต้องอาศัยความร่วมมือการอนุรักษ์ทรัพยากรธรณีและทรัพยากรธรรมชาติ จากประชาชน ชุมชน ซึ่งจะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการเชื่อมโยงในธรณีวิทยากับวิถีชีวิต เศรษฐกิจชุมชนที่จะทำให้เกิดการขยายงานและการจ้างงานเพิ่มขึ้น
นายณัฐวุฒิ ทวีเกื้อกูลกิจ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตาก ในฐานะผู้อำนวยการอุทยานธรณีไม้กลายเป็นหินตากกล่าวว่า การบันทึกสถิติโลกในครั้งนี้ จะทำให้ชุมชนและประชาชนรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของแหล่งทรัพยากรธรณี ซึ่งจะทำให้เกิดความภาคภูมิใจและความตระหนักถึงความสำคัญของไม้กลายเป็นหินตาก เกิดการอนุรักษ์ พัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวระดับสากล รวมทั้งจะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้เกิดการบูรณาการท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยา ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ซึ่งประกอบด้วย เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล เพื่อพัฒนาขีดความสามารถด้านการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวในอุทยานธรณีไม้กลายเป็นหินอย่างสร้างสรรค์ และมีความเหมาะสมกับศักยภาพของพื้นที่จังหวัดตาก ด้านนายกนก อินทรวิจิตร นายกสมาคมธรณีวิทยาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรับรองสถิติในครั้งนี้ สมาคมฯ ในฐานะผู้รวบรวมข้อมูลเพื่อการขอรับรองจาก GWR ทำให้เกิดการรวบรวมองค์ความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับไม้กลายเป็นหิน โดยเฉพาะการอนุรักษ์มรดกธรรมชาติทางธรณีวิทยา และการศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เราได้ล่วงรู้จากไม้กลายเป็นหินที่นี่ โดยเฉพาะการบันทึกเรื่องราวและการเปลี่ยนแปลงของโลกจากอดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะในพื้นที่บริเวณที่พบไม้กลายเป็นหินที่ยาวที่สุดในโลกนี้ ยังค้นพบไม้กลายเป็นหินที่เป็นต้นไม้ใหญ่อีก 6 ต้น ความยาวราว 30–45 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5-2.0 เมตร และคาดว่า น่าจะมีไม้กลายเป็นหินอีกเป็นจำนวนมากในบริเวณนี้ นับเป็นแหล่งซากดึกดำบรรพ์ที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง เพราะไม่มีแหล่งซากดึกดำบรรพ์ใดในโลกที่มีการพบไม้กลายเป็นหินขนาดใหญ่รวมกันเช่นนี้มาก่อน
อย่างไรก็ตาม การรับรองสถิติโลกครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญแห่งการเปิดมิติใหม่ของการท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยาจังหวัดตาก สู่การยกระดับอุทยานธรณีระดับโลก พร้อมส่งเสริมการเรียนรู้แก่เยาวชน และสร้างเสริมเศรษฐกิจชุมชนต่อไป.-สำนักข่าวไทย