ตรัง 6 ก.ค.- ที่สำนักอบรมจริยธรรมพระพุทธบาทควนสงฆ์ อ.เมืองตรัง นอกจากจะทำประตูหน้าต่างเป็นรูปพระพุทธรูปทั้ง 8 บานแล้ว ยังเกิดปรากฏการณ์ประหลาดมีหินงอกหินย้อยไหลหยดลงมาจากปูซีเมนต์บนยอดเจดีย์รอบอุโบสถชั้นที่ 4 ทั้งที่ไม่มีฝนตกลงมา
ที่สำนักอบรมจริยธรรมพระพุทธบาทควนสงฆ์ ต.นาโยงใต้ อ.เมืองตรัง พระสมพร อัตตมโน ประธานสำนักสงฆ์ฯ นำผู้สื่อข่าวขึ้นไปดูประตูหน้าต่างทั้ง 8 บาน หรือ 8 ทิศบูรพา ซึ่งสร้างขึ้นเป็นรูปพระพุทธรูป โดยหน้าต่างรูปพระพุทธรูปมีความกว้าง 1.80 เมตร และสูง 2 เมตร ยกเว้นประตูอุโบสถที่ออกแบบให้มีความสูง 2.80 เมตร และกว้าง 2 เมตร เพื่อให้ประชาชนเดินเข้าออกสะดวก ซึ่งได้แนวคิดมาจากท่านพระพุทธทาสภิกขุที่อยากให้คนเดินผ่านสุญตา คือความว่างเปล่า เข้าไปสัมผัสอากาศที่บริสุทธิ์ภายใน ซึ่งชั้นนี้เป็นชั้นที่ 4 หรือชั้นที่สูงสุดของอุโบสถ เรียกว่ามหาสถูปเจดีย์ ปัจจุบันประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2665 และเป็นประตูหน้าต่างรูปพระพุทธรูปแห่งเดียวที่พบใน 14 จังหวัดภาคใต้
ส่วนด้านบนสุดกำลังจะสร้างเป็นเจดีย์ครอบอุโบสถ จึงมีการเทปูนซีเมนต์เสริมความแข็งแกร่งของอาคารมาตั้งแต่ปี 2558 ต่อมาในปี 2560 ก็เริ่มเกิดปรากฏการณ์หินงอกหินย้อยรอบอุโบสถ โดยมีน้ำไหลหยดลงมาทีละหยด ซึ่งตอนแรกพระอาจารย์คิดว่าเป็นน้ำฝนที่ขังอยู่ข้างบน ทั้งที่ออกแบบให้เป็นแนวลาดเอียง ไม่ให้มีน้ำขัง จึงสั่งเทปูนปิดทับอีก 2 รอบ และทาสีทับอีก จนมั่นใจว่าไม่มีน้ำฝนขังอย่างแน่นอน แต่ปรากฏว่าก็ยังมีน้ำหยดลงมาเป็นหินงอกหินย้อยเหมือนเดิม ทั้งที่ข้างบนไม่มีน้ำ อุโบสถก็ไม่ใช่ถ้ำ ไม่ใช่ภูเขา แต่เป็นสิ่งปลูกสร้างที่เกิดจากปูนซีเมนต์ล้วน ๆ แค่ตั้งอยู่บนยอดเขาเท่านั้น
พระอาจารย์สมพร ย้ำว่าไม่เคยเห็นการเกิดหินงอกหินย้อยจากปูนซีเมนต์ที่ไหนมาก่อน แม้แต่ในวัดที่มีถ้ำและผนังถ้ำก็ยังไม่ใช่ว่าจะเกิดหินงอกหินย้อยขึ้นมาได้ง่ายๆ จึงถือว่าเป็นเรื่องแปลก แต่มองว่าธรรมะคือวิทยาศาสตร์ ซึ่งอะไรก็เกิดขึ้นได้บนธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ขณะที่ชาวบ้านเชื่อว่าปรากฏการณ์ดังกล่าว เป็นการสร้างถ้ำเพื่อรองรับมหาสถูปเจดีย์และพระบรมสารีริกธาตุ จึงมีประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางมาเยี่ยมชมกันอย่างไม่ขาดสาย.-สำนักข่าวไทย