บก.ป. 23 ธ.ค. – ตร.ร่วมอัยการ ประชุมเร่งรัดคดี “ทนายตั้ม” นัดแรก ตั้งกรอบเวลาสรุปสำนวนภายใน 2 สัปดาห์ หรือต้นเดือนหน้า ส่งอัยการสูงสุดสั่งคดี
จากกรณีที่สำนักงานอัยการสูงสุด มีหนังสือถึงกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เรื่องการแต่งตั้งคณะทำงานร่วมทำการสอบสวนในคดีนอกราชอาณาจักร โดยมีคำสั่งแต่งตั้งนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ร่วมสอบคดี “ทนายตั้ม” ฟอกเงินฉ้อโกงนางจตุพร อุบลเลิศ หรือมาดามอ้อย หลังพิจารณาเห็นว่าเป็นความผิดนอกราชอาณาจักร
วันนี้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน พร้อมด้วย พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.), พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. และคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน บก.ป.ชุดคลี่คลายคดี ประชุมร่วมกับคณะทำงานฝ่ายอัยการ นำโดยนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะทำงานร่วมทำการสอบสวนในคดีนอกราชอาณาจักร ในคดีที่นางจตุพร อุบลเลิศ กล่าวหา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด กับพวก ผู้ต้องหา ในความผิดฐาน ฉ้อโกง ร่วมกันฟอกเงิน และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง
ภายหลังการประชุมนาน 2 ชั่วโมง นายวัชรินทร์ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการประชุมร่วมกันทำสำนวนคดีเป็นนัดแรก เนื่องจากมีการส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดพิจารณาและเล็งเห็นว่าพฤติการณ์ของทนายตั้ม เข้าข่ายเป็นคดีนอกราชอาณาจักร ทำให้ต้องมีคณะทำงานของอัยการร่วมสอบสวน
นายวัชรินทร์ เปิดเผยว่า จากการตรวจดูสำนวน พิจารณาพยานหลักฐานที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้สอบสวนไปแล้วทั้งหมดพบว่ามีความละเอียดเรียบร้อยดี แต่ในความเห็นของอัยการยังมีอีกหลายประเด็นที่จำเป็นต้องสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อให้สำนวนเกิดความสมบูรณ์ รัดกุม และไม่เป็นช่องโหว่ให้ผู้ต้องหานำมาเป็นข้อต่อสู้ในชั้นศาลได้ ซึ่งเบื้องต้นจะต้องมีการเรียก “มาดามอ้อย” และ “น้อย” เลขาคนสนิทของ “มาดามอ้อย” รวมถึงพยานบางส่วนมาสอบปากคำเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม กระบวนการทำสำนวนทั้งหมดจะต้องแล้วเสร็จประมาณวันที่ 6 มกราคม 2568 ซึ่งเป็นช่วงขึ้นฝากขังผัดที่ 6 ของผู้ต้องหา และสำนวนจะต้องถูกส่งให้อัยการสูงสุดเป็นผู้สั่งคดีแต่เพียงผู้เดียว และสุดท้ายหากพบความผิดข้อหาอื่นๆ ก็จะต้องมีการแจ้งข้อหากับทนายตั้มและผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมในเรือนจำ. -419- สำนักข่าวไทย