เชียงใหม่ 30 มิ.ย.-รมว.พลังงานระบุ ได้รับคำตอบโรงกลั่นลดราคาน้ำมันสัปดาห์นี้ ด้านไออาร์พีซีเผยกำลังหารือ 2-3 แนวทาง
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงานกล่าวว่า ในสัปดาห์นี้จะมีคำตอบจากโรงกลั่นน้ำมันที่ชัดเจนว่า จะร่วมมือช่วยเหลือประชาชนในการลดราคาพลังงานอย่างไร โดยรูปแบบอาจจะไม่ใช่การนำกำไรนำส่งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น แต่อาจจะเป็นรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งจะเป็นรูปแบบการบริจาคหรือไม่ก็อยู่ในระหว่างหารือกัน ซึ่งได้มีการสอบถามไปทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในแนวทางการดำเนินที่ถูกต้องตามกฎหมายด้วย ซึ่งการขอความร่วมมือนี้ไม่ได้ตั้งเป้าว่า จะได้เงิน 2 หมื่นล้านบาทภายใน 3 เดือน (ก.ค.-ก.ย.) นี้แต่อย่างใด แต่หากได้ก็จะทำให้ชะลอการปรับขึ้นราคาน้ำมันโดยเฉพาะดีเซลในสัปดาห์หน้าจากที่ขณะนี้ราคาอยู่ที่ประมาณ 35 บาท/ลิตร
“ขอคำตอบจากโรงกลั่นเป็นความร่วมมือโดยสมัครใจก็ขอให้คิดให้ดี แม้เป็นกลไกตลาดเสรี แต่ในยามที่ประชาชนเดือดร้อนยังไม่โผล่พ้นน้ำ บริษัทที่มีธรรมาภิบาลก็ควรช่วยเหลือกันเพราะภาคสังคมประชาชนก็เป็นส่วนหนึ่งของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ บจ. นอกเหนือจากการคำนึงถึงผู้ถือหุ้น” รมว.พลังงานกล่าว
รมว.พลังงานยังกล่าวด้วยว่า จากกองทุนน้ำมันฯ ที่ขณะนี้ติดลบกว่า 1 แสนล้านบาท จากการอุดหนุนราคาน้ำมันและก๊าซหุงต้มนั้น จนถึงสิ้นปีจะติดลบราว 2 แสนล้านบาทหรือไม่ ในขณะนี้กระทรวงฯ กำลังพิจารณาเรื่องการลดวงเงินอุดหนุน เช่น การไม่ช่วยเหลือในวงกว้างจะช่วยเฉพาะกลุ่มเปราะบางเท่านั้นก็ต้องดูว่าจะใช้กลใดมาดำเนินการ ส่วนเรื่องกองทุนฯ กำลังจะขาดสภาพคล่อง ทางกระทรวงการคลังก็กำลังร่วมพิจารณาว่า หาเงินส่วนใดมาเสริมสภาพคล่องจะมีคำตอบชัดเจนในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้
ทั้งนี้ในงานเสวนา FTI Expo 2022 นายสุพัฒนพงษ์ระบุว่า รัฐบาลเร่งเดินหน้าสู่แผนความเป็นกลางทางคาร์บอนปี 2050 ซึ่งทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันโดยในแง่เศรษฐกิจแล้ว ไทยปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 350 ล้านตัน/ปี หากไทยไม่ลดก็จะถูกเก็บภาษีคาร์บอนและถูกกีดกันทางการค้าราว 1 ล้านล้านบาท/ปี โดยขณะนี้รัฐ-เอกชนร่วมมือกันลดการปลดปล่อยทุกภาคส่วนหนึ่งในแนวทางนั้นคือ ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นเมกะวัตต์ในอนาคต แนวทางเหล่านี้ก็จะช่วยให้ไทยลดการพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ ดังนั้น หากเกิดสงครามใดใดในอนาคตไทยก็คงไม่เดือดร้อนเช่นในปัจจุบัน
“แม้ไทยจะมีเงินเฟ้อสูงขึ้น แต่ก็อยากบอกว่า คนไทยยังมีความหวังต่างชาติยังเข้ามาลงทุนต่อเนื่อง โดยในส่วนของอีวีกำลังจะมีรายใหม่ระดับโลกอันดับที่ 5 ที่จะเข้าโครงการที่รัฐบาลสนับสนุน ส่วนเทสลาเราก็ยังมีความหวังว่า จะมาลงทุนในไทยโดยที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยประกาศที่จะไปลงทุนในอินโดนีเซียแต่อย่างใด ในขณะเดียวกัน การต่อยอดไบโอพลาสติกจากเอทานอลก็จะมีนักลงทุนรายใหญ่มาลงทุนนิกเหนือจากเนเจอร์เวิร์กที่จะลงทุนในนครสวรรค์คอมเพล็กซ์ ดังนั้นไทยก็จะกลายเป็นผู้ลงทุนไบโอพลาสติกใหญ่ที่สุดในโลก” รมว.พลังงานกล่าว
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี กล่าวว่า ในขณะนี้แนวทางช่วยเหลือมี 2-3 แนวทาง แต่จะมากน้อยแค่ไหน ใช้แนวทางรายละเอียดอย่างไร ก็อยู่ในระหว่างหารือกับภาครัฐ ขอเวลาอีกนิดเดียว ซึ่งจะใช้แนวทางใดก็ต้องมีกฎหมายรองรับตอบคำถามของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ทั้งผู้ถือหุ้นภาคและและลูกค้าหรือประชาชนทั่วไป เพื่อช่วยกันผ่านช่วงวิกฤติราคาน้ำมันไปด้วยกัน.-สำนักข่าวไทย