ศูนย์พักพิงบ่อนไก่ 22 มิ.ย.- พฐ.ลงพื้นที่ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ หาสาเหตุเพลิงไหม้ ขณะที่หลายหน่วยงานระดมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ภายในศูนย์สร้างสุขทุกวัยบ่อนไก่ (ศูนย์เยาวชนบ่อนไก่) เขตปทุมวัน กทม. ที่เปิดให้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวดูแลผู้ประสบภัยเหตุไฟไหม้ เมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.) เบื้องต้นมีรายงานไฟไหม้เสียหายจำนวน 30 หลังคาเรือน มีผู้ประสบภัยทั้งหมด 109 คน ในจำนวนนี้มีเด็ก 20 คน ซึ่งพบว่ามีจำนวนผู้ประสบภัยเพิ่มเติม โดยการดูแลพักค้างคืนที่ผ่านมา เขตปทุมวัน กทม.ได้จัดหน้าที่ มอบที่นอนปิกนิก และข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว นอกจากนี้ยังอำนวยความสะดวกให้กับทีมแพทย์ในการจัดสถานที่ ไฟส่องสว่าง มีภาคเอกชนได้ร่วมส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยดูแลและเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ
เมื่อ 10.30 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบภายในชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ จุดเกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของเพลิงไหม้ ซึ่งได้เดินลัดเลาะเข้าไปตามซอย พบว่าซอยในชุมชนมีการอยู่อาศัยกันอย่างแออัด และสายไฟมีสภาพเก่า ชำรุดหลายจุด
บรรยากาศวันนี้ มีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเข้ามาให้ความช่วยเหลือ โดยแบ่งโซนเป็นจุดรับของบริจาค และจุดที่ให้ผู้ประสบภัยมาลงทะเบียน เพื่อรับความช่วยเหลือ จากทั้งกรมพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย รวมถึง กทม. ซึ่งเปิดให้เจ้าของบ้านมาแสดงตนและยืนยันสิทธิผู้เช่า เพื่อทำเรื่องขอความช่วยเหลือเงินเยียวยาเบื้องต้น ซึ่งการอยู่ภายในศูนย์ดังกล่าวได้เป็นการชั่วคราว เนื่องจากเขตประเมินว่าต้องอยู่ระหว่างรอการจัดหาที่พักใหม่ เป็นเวลา 1 เดือน ทำให้ต้องหารือเพื่อดูสถานที่พักพิงที่เหมาะสมเพราะผู้ประสบภัยมีทั้งเยาวชน ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง โดย กทม.เตรียมประสานเรื่องการจ่ายเงินชดเชยเบื้องต้นก่อน และเตรียมหาทางแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยระยาวต่อไป ขณะที่วันนี้ เจ้าหน้าที่ได้วางแผนตรวจเอทีเคให้กับทุกคนที่พักพิงในศูนย์ฯ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย
ผู้ประสบภัย อายุ 53 ปี บอกว่า เมื่อวานนี้ช่วงเกิดเหตุ ตนเองออกจากบ้านมาทำงาน แฟนที่อยู่ที่บ้านโทรมาบอกว่าไฟไหม้ ตนจึงรีบกลับมาดู พบกลุ่มควันพวยพุ่ง รีบมาช่วยชีวิตสุนัขที่เลี้ยงไว้ ออกมาได้ 1 ตัว ส่วนทรัพย์สินอื่นเอาออกมาไม่ทัน โดยบ้านที่อาศัย เป็นบ้านที่เช่าอยู่ จ่ายเดือนละ 2,500 บาท ตอนนี้ที่เป็นกังวล คือ ในระยะยาวจะอาศัยที่อยู่ใด เพราะหากจะย้ายไปอยู่ที่อื่น ก็ไม่สะดวกเพราะตนทำงานในละแวกนี้
มีข้อมูลว่าในชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ มีบ้านเรือนอยู่ประมาณ 300 หลังคาเรือน ซึ่งมีทั้งที่เป็นเจ้าของบ้านอยู่เอง และกลุ่มที่มาเช่าอาศัย แบ่งห้องกันอยู่หลายครอบครัว ในบ้านหนึ่งหลัง ทำให้มีการคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ประสบภัยจริงน่าจะมากกว่า 30 หลังคาเรือน ตามที่ได้มีการตรวจสอบเบื้องต้น ขณะที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงบอกว่าหากมีบ้านให้อยู่ให้เช่าดีกว่านี้ ก็อยากย้ายออก เพราะปัจจุบันทั้งสภาพบ้านสาธารณูปโภคที่ใช้อยู่ในชุมชนมีอายุเก่าแก่ไม่ได้รับการปรับเปลี่ยน ซึ่งก็เป็นกังวลว่าอาจเกิดการลัดวงจรและเพลิงไหม้ขึ้นมาอีก .-สำนักข่าวไทย